27 ธ.ค. 2020 เวลา 13:59 • ปรัชญา
แรงขับเคลื่อนของคำว่า" เมื่อเชื่อมั่นในตัวลูกนะ"
แม่จะบอกเสมอว่า" ถ้าเลือกสิ่งใดแล้ว จงทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"
ตอน ม.4 จะเรียน รด. แม่บอกว่ามีใครไม่รู้มาบอกแม่ว่า เรียน รด.ทำไม คนเรียน รด.ก็มีเรื่องเดียวคือ ดูผู้ชาย แม่ก็พูดกับเราแค่ว่า "แม่เชื่อหนูนะ "
ตอน มัธยมปลายมีพี่คนนึงที่เลิกกันไป มาตามรังควานถึงบ้าน พี่เค้าโทรหาแม่ พูดจาขู่ นู้นนี่นั่น แม่ก็บอกแค่ว่า "ผูกเองก็ต้องแก้เอง"
ตอนจะมาเรียนกรุงเทพคนเดียว ทะเลาะกับพ่อเพราะพ่อไม่อยากให้มา เป็นลูกผู้หญิงจะไปอยู่คนเดียวยังไง กรุงเทพมันน่ากลัว มันอันตราย
เราคุยกับแม่ แม่ก็บอกกับเราแค่ว่า " แม่เชื่อมั่นในตัวหนูนะ"
ตอนที่เราพาแฟนไปเจอกับแม่ มันคือเซอร์ไพรส์วันรับปริญญา แม่ก็พูดแค่ว่า ลูกรักใครแม่ก็รักด้วยแล้วก็พูดทิ้งท้ายว่ากับเราว่า
"แม่เชื่อว่าลูกของแม่เลือกคนที่ดีที่สุดแล้ว"
ทุกคำที่แม่คอยสอน คือการปล่อยลูก ให้เผชิญกับความผิดพลาดด้วยตัวเอง แม่ก็สอนในแบบของแม่
แม่ปล่อยให้เรียนรู้เอง
แม่สอนหุงข้าวตอนอนุบาล 1
เราทำข้าวต้มมัดแบบทุกขั้นตอนได้ตั้งแต่ ป.3
วิ่งตามแม่ไปรับจ้างเกี่ยวข้าวตั้งแต่ ป.5
ไปอยู่ร้านอาหารตามสั่งกับน้าตั้งแต่ป.6
ในทุกจังหวะของชีวิตแม่ก็จะบอกแค่ว่า
"แม่เชื่อมั่นในตัวลูกนะ"
โดยที่แม่ก็แค่ยืนดูเฉยๆ อยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม
แม่ไม่เคยคาดหวังอะไรในตัวลูกเลย
#นอกจากความสุขของลูกเท่านั้น#
โฆษณา