31 ธ.ค. 2020 เวลา 02:09 • ไลฟ์สไตล์
หนึ่งปีผ่านไปในวัย 23
วัยที่อาจจะยังงุน งง หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมาใหม่ๆ และแล้ว 1 ปีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วและเป็นปีที่ฟ้าใสได้รู้ว่า
1.การตัดสินใจในการเลือกสถานที่ทำงานที่แรกสำคัญมาก ๆ
และเพราะการตัดสินใจในอดีตนำเราสู่อนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในสภาพของจิตใจในการทำงาน และสภาพคล่องทางการเงินในบัญชีของเรา เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เราจะเริ่มเห็นความแตกต่างระหว่างตัวเองและเพื่อนฝูงรอบตัว ทั้ง Skill ที่เพิ่มมากขึ้น สวัสดิการของบริษัท ระบบการทำงานและเพื่อนร่วมงานที่ดี การปรับขึ้นเงินเดือน โบนัสที่ได้รับ (ที่สามารถทำคน ๆ นึงตั้งตัวได้เลย) และถ้าหากใครได้เข้าไปอยู่ในองค์กรที่มั่นคงแล้ว มันจะง่ายต่อการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ เช่นการกู้ซื้อบ้าน เพราะธนาคารจะพิจารณาถึงแหล่งที่มาของรายได้ ความมั่นคงของบริษัทนั้น ๆ เป็นต้น (มีเพื่อนทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่กู้ผ่านทั้งการซื้อบ้านเดี่ยวและคอนโดชื่อดังกลางห้าแยกลาดพร้าว เพื่อนเริ่มต้นได้ไวมากๆ)
แต่ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนงาน ลองใจเย็นลงสักนิด อดทนรออีกสักหน่อย เพื่อให้ได้อยู่ในองค์กรที่ใช่ได้ทำงานที่ชอบจริงๆ ก็จะมีผลทำให้เรามั่นคงทั้งสภาพจิตใจและสภาพคล่องทางการเงินนะคะ
(ขอพูดแค่ในมุมที่เป็นพนักงานประจำนะคะ เพราะเป็นงานแรกของฟ้า สำหรับงานแรกที่ใครเริ่มทำอะไรเองไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร มีอะไรอยากบอกอยากเล่าคอมเม้นได้เลยค่า)
2.เวลาเดินไวมาก อย่าลืมตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต
เมื่อมีเป้าหมายแล้ว อยากทำอะไรถ้าสามารถทำได้เลยให้รีบทำ ถ้าหากใช้ชีวิตอย่างไม่มีเป้าหมายจะถูกเวลากลืนกิน จับอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็สิ้นปีซะแล้ว
3.ความสุขอยู่ที่มุมมอง
บางครั้งเราก็เลือกอะไรในชีวิตมากไม่ได้ แต่เราจะใช้ชีวิตบนข้อจำกัดที่เรามีให้มีความสุขมากที่สุดได้อย่างไร สำหรับฟ้าแล้ว อย่าตั้งเงื่อนไขความสุขของชีวิตเยอะ ทำให้มันเป็นเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัวดีกว่า
4.เงินเก็บของวัย 23 กับ First Jobber
งานทีี่ว่าหายากแล้วเงินเก็บหายากกว่า ทุกอย่างดูแพงไปซะหมด นู่นก็ต้องซื้อนี่ก็จำเป็น แต่ยังไงก็ตามแต่ควรแบ่งเก็บไว้บ้าง สักเดือนละสามร้อย ห้าร้อยก็ยังดี ใครหาได้มากก็เก็บมากเอาที่เราไหว และเมื่อถึงสิ้นปี อย่างน้อยเราก็มีเงินเก็บก้อนน้อยๆนี้แหละ เริ่มเก็บได้น้อยก็ดีกว่าไม่มีเก็บเลย เริ่มช้าก็ดีกว่าไม่เริ่มเลย
5.เริ่มวางแผนความมั่นคงให้กับชีวิตตัวเองตั้งแต่ตอนนี้
เพราะยังมีเวลา ลองมองเป็นภาพใหญ่ ๆ อยากมีชีวิตในบั้นปลายอย่างไร ตอนเกษียณอยากมีเงินเท่าไหร่ ลงทุนในอะไรดีที่เหมาะกับเรา ควรซื้อประกันสุขภาพ ประกันชีวิตเลยมั้ย เพราะซื้อตั้งแต่อายุยังน้อย เบี้ยจะถูกครอบคลุมการรักษาในทุกโรค สำหรับตัวฟ้าเอง ได้ลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม (ได้ปันผลจากทั้งหุ้นและกองทุนรวมมาพอจุบจิบ ส่วนผลตอบแทนกองทุนรวมยังยิ้มได้แต่หุ้นค่อนข้างสวนทางกับกองทุนอย่างน่าใจหาย) นอกจากนั้นฟ้าได้ซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพไว้เรียบร้อย อย่างละกรมธรรม์ ประกันสุขภาพเจ็บป่วยสามารถเข้าโรงพยาบาลรักษาเอกชน ยื่นบัตรเดียวจบไม่ต้องรอคิวนานไม่ต้องออกตังไปก่อน ประกันชีวิตก็สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้เวนคืนได้ ถ้าอยากหรือจำเป็นต้องใช้เงิน ถามหลังไมค์ได้ค่ะว่าทำของค่ายไหน พอแนะนำได้บ้าง แต่ไม่ได้ขายนะคะ วิ่งหาตัวแทนเอาเลยจ้า (เรื่องการเงินการลงทุนจริง ๆ ฟ้าอยากให้วัยรุ่นยุคใหม่ให้ความสำคัญมีประโยชน์มากสำหรับตัวเราเองแต่ต้องใช้เวลาในการศึกษาและศึกษาให้ดีเพราะการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนการลงทุนนะคะ)
6.อย่าหยุดพัฒนาตัวเองและอย่าลืมดูแลสุขภาพ
ทั้งสองอย่างนี้ควรทำควบคู่กันไปเพื่อเตรียมรับทุก ๆ โอกาสที่จะเข้ามาในชีวิต เราควรพัฒนาด้านไหนตัวเราเองรู้ดีที่สุด เพื่อการพัฒนานั้นจะช่วยต่อยอดในสายงานที่เราทำ และอย่าลืมดูแลสุขภาพ อะไรที่มันมากไปล้วนไม่ดี อย่าลืมว่าเรายังอายุน้อย ๆ และเราต้องใช้ร่างกายของเรานี้ไปอีกนาน ดูแลมันหน่อย ให้ความสำคัญกับมันบ้างนะคะ
ทั้งหมด คือสิ่งที่ฟ้าใสผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในวัย 23 คิดและพบเจอมากับตัว จึงอยากแชร์ให้กับทุกคน ฟ้าหวังว่า หนึ่งปีที่ฟ้าเจอจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อย ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
Fahsai Diary 31/12/2020
โฆษณา