3 ม.ค. 2021 เวลา 10:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สินทรัพย์ไหนน่าลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ไตรมาส 1 ปี 2021)
นอกจาก Bitcoin ที่หลายคนเชื่อมั่นว่าจะทำผลตอบแทนได้ดีในปี 2021 จนปัจจุบันทำสถิติ 1 ล้านบาท ต่อ 1 BTC ไปแล้ว ยังเหลือสินทรัพย์ไหนอีกบ้างที่น่าสนใจลงทุนได้อยู่
ผลสำรวจจากผู้จัดการกองทุน นักกลยุทธ์ นักเก็งกำไร จาก 63 สถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลกโดย Bloomberg มองค่าเงินและตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนในตลาดตราสารหนี้
โดยเฉพาะค่าเงินและตลาดหุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หรือ Emerging Markets จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ประเทศสหรัฐฯ พูดอีกอย่างได้ว่าค่าเงินในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ฯ และหุ้นก็จะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าในปีนี้
หากเจาะลึกลงไปเป็นรายภูมิภาคจะพบว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชีย เป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจมากที่สุดเมื่อเทียบกับ ตลาดหุ้นเกิดใหม่ใน ยุโรปตะวันออก อเมริกาใต้ และแอฟริกา
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ เป็นประเทศกลุ่มเป้าหมายของนักลงทุนในอันดับต้นๆ เพราะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เร็วที่สุด และมีเทคโนโลยี นวัตกรรมที่พร้อมกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน
นอกจากนี้แนวโน้มกำไรต่อหุ้น ( EPS ) ของตลาดหุ้น ASIA ex JAPAN ในปี 2021 มีทิศทางฟื้นตัวได้เร็วกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น โดยประเทศในเอเชียเหนือได้แก่ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ เป็นกลุ่มประเทศที่กำไรถูกปรับประมาณการขึ้นและฟื้นตัวได้ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
เพราะฉะนั้นถ้าเรามองในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเฉพาะไตรมาส 1 หรืออีก 3 เดือนข้างหน้า เราควรมีสถานะการลงทุนในประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ และเน้นไปที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศเหล่านี้เป็นหลัก
แนวโน้มกำไรตลาดหุ้น ASIA ex JAPAN ปี 2021 ปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว
อีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนตลาดหุ้นเอเชียก็คือ การบรรลุข้อตกลง RCEP ข้อตกลงทางการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จะช่วยปลดล็อคให้ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ สามารถยกระดับการค้าระหว่างกันได้อย่างเสรี
1
หลังจากที่ก่อนหน้านี้แม้จะมีการเจรจากันในลักษณะไตรภาคีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างเป็นทางการ ถือว่าเป็นข่าวดีของเอเชียที่จะช่วยเพิ่มกิจกรรมทางการค้าภายในภูมิภาค ลดการพึ่งพิง Supply Chain จากประเทศทางฝั่งตะวันตก
นอกเหนือจากความเห็น (Opinion) ของ 63 สถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลกแล้ว ในมุมของสถิติที่เป็นข้อเท็จจริง (Fact) ก็มีข้อมูลที่ค่อนข้างจะสอดคล้องกัน
จากสถิติปีที่มีการเลือกตั้งสหรัฐฯทั้งหมด 4 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกมักจะปรับตัวขึ้นได้ดีหลังทราบผลการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.-ธ.ค. แต่ในเดือน ม.ค. ของปีถัดไปหลังจากปีที่มีการเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป นำโดยตลาดหุ้นจีนที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกสูงถึง +4.93% ด้วยความน่าจะเป็น 75% จากสถิติทั้งหมด 4 ครั้ง
ซึ่งหากพิจารณาผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสพบว่า ในไตรมาส 1 (เดือน ม.ค.-มี.ค.) ตลาดหุ้นจีนให้ผลตอบแทนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งที่ +7.01% อันดับที่สองตลาดหุ้นเวียดนามที่ +5.10% และอันดับที่สามตลาดหุ้น MSCI ASIA ex JAPAN ที่ +3.65%
จากข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณที่แสดงให้เห็น ทำให้ผมเชื่อว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียนำโดยประเทศจีนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ไตรมาส 1) จะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นในโลก
และอาจจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดสำหรับตลาดหุ้นจีนในปี 2021 ก็ว่าได้ เพราะจะเป็นไตรมาสที่ GDP ของประเทศจีนขยายตัวมากที่สุด 18%YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ซึ่งตรงกับช่วงที่ประเทศจีนเผชิญการแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดจากเมืองอู่ฮั่นพอดี
โฆษณา