4 ม.ค. 2021 เวลา 00:30
Day 3: เงินเก็บ 1 ล้านแรก เจ้าปัญหา
วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผมอ่านทวิตเตอร์ เจอทวีตข้อความจากน้องคนหนึ่ง อายุ 27 ปี มีอาชีพเป็นนักกายภาพ น้องเล่าว่าเก็บเงินล้านแรกได้ ภายใน 5 ปี จากเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท และมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
6
น้องเค้าทยอยเล่ารายละเอียดเป็น Thread ยาว 10 ชุดข้อความ และมี Thread หนึ่ง อ้างอิงถึงผมว่า
1
“พอจบมาทำงาน โชคดีที่ได้ที่ทำงานดี ก่อนได้เงินเดือนๆ แรก เขาให้ไปอบรมการเงินกับโค้ชหนุ่ม Money Coach​ (กราบขอบคุณที่ได้ไปฟัง ไม่งั้นคงไม่มีเราในวันนี้แน่)”
น้องเขาหยิบสิ่งที่ได้เรียนกับผมในวันนัั้น มาเป็นกฎเหล็กในการบริหารเงินของตัวเอง ดังนี้
- อย่าก่อหนี้จนกว่าจะอายุ 30 ปี
- ก่อนอายุ 30 ปี ทำงานเพื่อประสบการณ์ และหลังจากทำงานจนเชี่ยวชาญแล้ว ให้เริ่มต้นสร้างธุรกิจ
- ถ้าคิดจะเป็นหนี้ ต้องเป็นหนี้ที่สร้างกระแสเงินสดให้เพิ่มขึ้น
- ออมขั้นต่ำ 10% ของรายได้
- มีเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เท่าของรายได้ต่อเดือน
15
แต่ที่ผมชอบมากกว่า คือ วิธีการเก็บเงิน 1 ล้านบาท น้องเขาเขียนสรุปไว้ดังนี้ครับ
1. อย่าน้อยใจว่าจน เพราะมันไม่ช่วยอะไร การใฝ่สูงไม่ใช่เรื่องแย่ ผลดีจะตกแก่เราเอง
7
2. อย่ารู้แต่เก็บไงยังไง ให้รู้วิธีหาเงินด้วย มันจะช้ามากถ้าเราพยายามเก็บเงินจากรายได้ที่น้อย ถ้าคุณหารายได้เพิ่มเพื่อเก็บออม มันจะทำให้คุณออมได้มากกว่า 10-20% แน่ๆ
7
3. หาเงินยังไงให้ได้เยอะๆ มี 2 วิธี
1
3.1 คิดให้ออกว่าตัวเรามีมูลค่าอะไรบ้าง
3.2 อย่าเกี่ยงงานเด็ดขาด งานไหนเงินน้อยช่วงแรง อาจจะกลายเป็น Connecting dot ต่อยอดไปสู่งานรายได้สูงก็ได้
9
4. รู้จักตัวเองให้มากๆ มันช่วยเรื่องการเก็บเงินได้มากจริงๆ คือ เราจะรู้ว่าเรามีความสุขกับสิ่งไหน เวลาเจอสิ่งยั่วยุ จะได้ไม่หลงเพลินเสียเงินไปกับมัน
4
5. กดดันและให้รางวัลกับตัวเองบ้าง วัยรุ่นเป็นวัยที่มีไฟนะ มีพลังมากมาย เราควรเคี่ยวกรำตัวเองให้หนัก เพราะตื่นนอนมาก็หายเหนื่อย เพื่อตอนแก่จะได้ขี้เกียจให้สมใจ ระหว่างทางที่เก็บเงินก็หล่อเลี้ยงหัวใจตัวเองไปด้วย เพราะศึกนี้ยาวนาน เดี๋ยวจะตายเสียก่อน
15
พอได้อ่านข้อความทั้งหมด เห็นว่าน่าสนใจ ผมก็เลยรีทวีตต่อ เพื่อให้คนได้อ่านเรื่องราวดีๆ ของน้องคนนี้
6
ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง น้องส่งข้อความมาทัก ดีใจที่ผมเอาเรื่องของเขาไปแชร์ เราจบการสนทนาด้วยการที่ผมอวยพรให้น้องเค้ารักษาวินัย และเก็บเงินล้านที่ 2 ได้เร็วๆ
1
คิดว่าเรื่องจะจบเท่านั้น แต่ไม่ใช่เลย ...
1
หลังจากนั้นมีคนหยิบข้อความของน้องเค้าไปรีทวีตซ้ำอีกร่วม 60,000 ครั้ง (ประมาณแชร์ในเฟซบุ๊ก) กดไลค์กันไปอีก 40,000 เศษ ผมเลยตามไปอ่านข้อความ
1
ส่ิงหนึ่งที่รู้สึกคือ ถ้าเป็นคนติดตามโค้ชหนุ่มอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเข้าไปแสดงความยินดี เพราะเหมือนจะเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่ได้ยินได้ฟังกันบ่อยอยู่แล้ว (ลูกศิษย์โค้ชอายุไม่ถึง 30 ปี สะสมเงินล้านได้เยอะแยะ)
2
แต่ก็มีอีกกลุ่มเบ้อเริ่มที่แสดงความคิดเห็นไปในทางลบ ซึ่งหลังจากจัดหมวดหมู่แล้ว แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ
1
1. ไม่เชื่อว่าคนเงินเดือน 15,000 จะเก็บเงินล้านได้
ประเด็นนี้น้องเค้าก็ออกมาอธิบายละเอียด เขาเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 ก็จริง แต่รับงานพิเศษดูแลทำกายภาพให้กับผู้ป่วยทางบ้าน ซึ่งได้รับค่าจ้างชั่วโมงละ 1,000 บาท คิดง่ายๆ ว่าสัปดาห์หนึ่งรับงานพิเศษ 6-8 ชั่วโมง ก็ตก 6,000-8,000 บาทต่อสัปดาห์ 24,000-32,000 บาทต่อเดือน มากกว่าเงินเดือนเสียด้วยซ้ำ (แต่ที่ยังทำงานประจำอยู่ เพราะมันคือแหล่งที่มาของงานพิเศษ)
8
แล้วถ้าทำหนึ่งปี จะมีรายได้เพิ่มจากส่วนนี้อย่างน้อยๆ 300,000 กว่าบาท แล้วน้องเค้าทำงานนี้มา 5 ปีแล้ว ตัวเลขก็ไม่เกินไปที่จะเก็บได้จริง
2
2. จะมีเงินล้านได้ ต้องลงทุน ทำงานเก็บเงินไม่มีทาง
4
อันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมาก การทำงานสร้างรายได้ได้เร็วกว่าผลตอบแทนการลงทุนอีกนะครับ ยกตัวอย่าง ถ้าเรามีเงิน 10,000 เราเอาไปลงทุน ได้ผลตอบแทน 30% ต่อปี (ซึ่งสูงมากนะ) เราก็จะมีกำไรเท่ากับ 3,000 บาท
3
แต่กับอีกคนเอาเงินไปซื้อกระทะ ซื้อลูกชิ้นมาทอดขาย ทำน้ำจิ้มแซบๆ ขายไม่กี่วันก็ทำกำไร 3,000 บาทได้สบายๆ
5
3. หาข้ออ้างที่จะบอกว่า เราทำไม่ได้เหมือนเขา
กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่จะศึกษาเรื่องราวโดยละเอียด เพื่อหาข้ออ้างดีๆ ให้ตัวเองว่าทำไมเราเก็บเงินล้านไม่ได้ เช่น
1
- แค่อาชีพเรากับเค้าก็ต่างกันแล้ว อาชีพเราหารายได้เสริมไม่ได้
- ห้ามมีหนี้ก่อน 30 งั้นเหรอ! ผมจบมาก็มีหนี้ กยศ. แล้ว หมดสิทธิ์!
- รายได้กินใช้คนเดียวเลยหรือเปล่า ถ้าต้องให้พ่อแม่คงทำไม่ได้
- น่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลดี ถึงได้ลูกค้ามีกำลัง
- ฯลฯ
7
สุดท้ายจากเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ กลายเป็นต้องมาตอบคำถามคนโน้นคนนี้เต็มไปหมด และที่หนักไปกว่านั้น ผมเองก็โดนหางเลขไปด้วย เพราะมีคนตั้งข้อสงสัยว่า “หรือนี่เป็นแผนโฆษณาคอร์สไอ้โค้ชของมัน เขียนมาเล่า มาอวยกัน เพื่อสุดท้ายจะได้ขายคอร์ส​“ 555
2
ว่ากันตามจริง เวลาที่หยิบเรื่องราวลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จทางการเงินมาเล่าให้สาธารณะฟัง ผมจะบอกเสมอว่า มันไม่ใช่ผลงานของเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นความสามารถของเจ้าของเรื่องเองล้วนๆ ความสามารถที่ว่านั้นประกอบด้วย
1. ความสามารถในการประยุกต์ความรู้การเงินไปใช้ให้เหมาะกับตัวเอง: เพราะผมก็พูดก็สอนเหมือนกันทุกวันกับทุกคน สุดแท้แต่ว่าใครจะหยิบจับไปใช้กับตัวเองอย่างไร
7
2. วินัยในการลงมืออย่างต่อเนื่อง: ฟังว่า 5 ปีเก็บสะสมเงินได้ 1 ล้าน เราอาจจะรู้สึกว่าไม่นาน แต่ผมกล้าพูดเลยว่า เจ้าของเรื่องไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแน่ๆ เพราะเงินในกระเป๋าต้องผ่านการตัดสินใจทุกวัน
7
3. ความพยายามที่จะต้องก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง: แม้ว่าจะมีงานชั่วโมงละ 1,000 บาทรออยู่ แต่ไม่มีหรอกที่จะไม่รู้สึกเหนื่อย รู้สึกขี้เกียจ แล้วอยากนอนดูซีรีย์อยู่บ้าน ดังนั้นต้องเคารพความพยายามของเจ้าของเรื่องด้วย
5
สิ้นวันน้องเขาส่งข้อความหาผมอีกครั้ง ขอโทษที่เรื่องราวกลายเป็นดรามาไป ผมตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไร ยังไงก็เงินเรา ใครเชื่อไม่เชื่อ ก็ไม่ได้ทำให้เรารวยขึ้นหรือจนลง”
2
ในโลกที่ MINDSET ทางการเงินไม่ตรงกัน เถียงกันไปก็ใช่ว่าจะเกิดประโยชน์ คนที่เคยทำ เคยสู้ เคยผ่าน ยอมเชื่ออย่างหนึ่ง ส่วนคนที่เอาแต่มอง แต่เล็ง คอยหาเหตุผลที่ตนทำไม่ได้ ก็ย่อมเชื่ออีกอย่างหนึ่ง
7
เถียงกันไปก็เสียเวลาครับ
โค้ชหนุ่ม
02-01-2021
1
ปล. ตามทวิตเตอร์โค้ชหนุ่มทาง @moneycoach4thai นะครับ
โฆษณา