4 ม.ค. 2021 เวลา 11:00 • บันเทิง
เมาคลีล่าสัตว์ : มากกว่าความฮา คือ จิตวิญญาณของครู
.
“เมาคลีล่าสัตว์ เมาคลีล่าสัตว์, ฆ่าแชร์คาน ฆ่าแชร์คาน, ถลกหนังมันออกมาให้หมด ถลกหนังมันออกมาให้หมด, มันฆ่าวัว มันฆ่าควาย”
.
เมาคลี ด๊านซ์ หรือที่ผู้คนนิยมเรียกกันว่าเพลง “เมาคลีล่าสัตว์” เป็นเนื้อร้องที่ เด็กไทย น่าจะคุ้นหูกันดี เพราะเป็นเพลงที่ถูกมาใช้ประกอบการสอนคาบ “ลูกเสือ” แทบทุกโรงเรียน
อันที่จริง “เมาคลีล่าสัตว์” เคยกลับมาเป็นกระแสช่วงหนึ่ง เมื่อปี 2013 หลังจาก “โน้ส -อุดม แต้พานิช” นำขึ้นมาขับร้อง บนเวทีแสดงเดี่ยว ไมโครโฟน ครั้งที่ 10 และตั้งขอสงสัยว่า “แชร์คานคือใคร ?” ทำเอาหลายคน หวนรำลึกความทรงจำช่วงวัยเยาว์ที่เคยร้องเพลงนี้
กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว “เมาคลีล่าสัตว์” กลับมาเป็นกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ จากต้นตอคลิปวิดีโอที่มี คุณครู 3 ท่าน สวมชุดลูกเสือ ตัวทำหน้าที่ ขับร้อง, ตีกลอง และเต้นด้วยใบหน้าสุดนิ่ง
สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น มีคนกดแชร์จากต้นฉบับบน Facebook มากกว่า 6.6 หมื่นแชร์ กลายเป็นกระแสฮิตข้ามปี จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีคนแชร์อยู่ต่อเนื่อง
ถึงขนาดมีหลายคนนำเอาไปเต้น cover กันดังระเบิดเถิดเทิง แต่บางคนแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่า บุคคลที่อยู่ในคลิปเป็นใคร ?
.
…………………………………………………………….
.
คลิป เมาคลีล่าสัตว์ เป็นส่วนหนึ่งชุดวิดีโอ “ลูกเสือสำรองแดนส์” สำหรับกิจกรรมลูกเสือระดับชั้นปฐมวัย จัดทำโดยสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
ในวิดีโอ “ลูกเสือสำรองแดนส์” ชุดนี้ มีทั้งหมด 7 เพลง ประกอบด้วย 1. บาลู ด๊านซ์ 2. บาเคียร่า ด๊านซ์ 3.บันดาโล๊ก ด๊านซ์ 4. คา ด๊านซ์ 5. เมาคลี ด๊านซ์ 6.หมาป่า ด๊านซ์ และ 7. ผึ้ง ด๊านซ์
ถูกอัพโหลดลงแพลตฟอร์มออนไลน์ครั้งแรก ในช่อง Youtube “สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร” วันที่ 13 มี.ค. 2019 แต่ตอนนั้นยังไม่ดังมาก
ต่อมามีการนำคลิปทั้งหมด มาลงใน Facebook ส่วนตัวของคุณ Nichakron Hankhammoon เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2019 คราวนี้ถูกนำไปแชร์ต่ออย่างรวดเร็วจนโด่งดังในที่สุด
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะทุกอย่างในคลิป ล้วนเหมาะสมจะเป็นไวรัลอย่างมาก ไล่มาตั้งแต่ มือกลองที่ตีกลองตีไปแอบมองไป พยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองยิ้ม
คนร้องที่ดูมีความตั้งใจ และน้ำเสียงเหมือนศิลปินเพลงยุคเก่า บวกกับลีลาการเต้นประกอบจังหวะบางบ้างครั้งพอกรุบกริบ ให้อารมณ์เหมือนญาติผู้ใหญ่ที่น่ารัก น่าเอ็นดู
และที่เป็นไฮไลต์สุด คงหนีไม่พ้น “แดนเซอร์” ที่มาพร้อมใบหน้าสุดนิ่ง แต่ใส่เต็มทุกเพลง เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์มาก ออกลีลาให้โลกลืม พร้อมกับส่งเสียงคอรัสเข้ามาช่วยร้อง, เป็นลูกคู่ในบางเพลง
ยกตัวอย่าง บาเคียร่า ด๊านซ์ ที่คุณครูผู้สวมบทแดนเซอร์ โชว์การร้องประสาน ควบคู่กับการเต้นกางปีก, เพลง บันดาโล๊ก ด๊านซ์ ที่สวมวิญญาณลิง กระโดดโลดเต้นจนหลุดเฟรม (โถ่)
เพลง หมาป่า ด๊านซ์ ที่คราวนี้ คุณครูแดนเซอร์ ลงทุนสุดชีวิต เพื่อโชว์ที่ดี ด้วยการลงไปนั่งกับพื้นแบบหมาป่าแล้วโก่งคอหอนสุดเสียง ราวกับเป็น แวร์วูฟในคืนพระจันทร์เต็มดวง
ที่พีคสุด ต้องยกให้ ฉากจบในเพลง บาลู ด๊านซ์ ที่คุณครูท่านนี้ กางมือสองข้างขึ้นมา ย่อตัวลง ซ้ายทีขวาที จนลงไปคลานกับพื้น
.
……………………………………………………………
.
เมาคลีล่าสัตว์ จึงกลายเป็น ไวรัลที่มีความสมบูรณ์แบบ ทั้งเนื้อหา เสียงร้อง ท่าเต้น และสิ่งที่ตามหลังจากนั้นคือ มีเด็กวัยรุ่นจำนวนมาก นำเสียงจากในคลิป เอาไปเต้น cover, ทำดนตรี remix ลงใน Youtube
รวมถึงในแอพ Tiktok ที่แม้แต่ดารานักแสดง ศิลปินนักร้อง คนมีชื่อเสียง หลายท่าน ก็ยังไม่พลาดที่จะเต้น cover เพลง เมาคลีล่าสัตว์
เดือดร้อนถึง สำนักข่าวต่าง ๆ ที่ต้องลงพื้นที่ ไปสืบตามหาว่าใครคือ ต้นฉบับผู้ขับร้อง และแดนเซอร์ ในคลิปที่เป็นกระแส ณ เวลานี้
ก่อนจะมาถึงบางอ้อ พบตัวจริง โดยคนร้องมีชื่อว่า “ครูโจ้ย” โสภณ ศรีจั่นเพชร อาจารย์จากโรงเรียนบางมด (ตันเปาว์วิทยาคาร) ส่วนนักเต้นคู่บุญที่หลายคนอยากรู้จัก ชื่อว่า “ครูกบ” อุทิศ ดีเฉย สอนอยู่ที่โรงเรียนวัดแสมดำ
ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ว่า มีความสนใจในการสอนวิชาลูกเสืออยู่แล้ว จึงเข้ามารับการอบรมหลักสูตรการสอนลูกเสือ ฯ ของ กทม.
โดย ครูโจ้ย ทำหน้าที่สอนลูกเสือสำรองมานานถึง 35 ปี ส่วน ครูกบ มาพบกับครูโจ้ย ตอนไปอบรม และปัจจุบันได้สอนวิชาลูกเสือสำรอง มาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว
ครูโจ้ย ยังเปิดเผยอีกว่า เนื้อเพลงลูกเสือสำรองด๊านซ์ต่าง ๆ ที่นำเอามาขับร้อง หยิบมาจากหนังสือ คู่มือลูกเสือสำรอง ฉบับแปลโดย อภัย จันทวิมล
พร้อมกับเฉลยที่มาของเนื้อหาในเพลง เมาคลี ด๊านซ์ ว่า เป็นการเต้นเพื่อเฉลิมฉลองการตายของ “เสือแชร์คาน” ที่ชอบรังแกสัตว์อื่น ในป่าซีโอนี
.
…………………………..
.
ช่องว่างวัยระหว่างวัย คือ ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาสุดคลาสสิค ระหว่าง ลูกศิษย์ กับ คุณครู ที่มักเข้าไม่ตรงกันใจ, สื่อสารกันคนละอย่าง จนนำมาซึ่งการปฏิบัติและการแสดงออก ที่จบลงด้วยการสร้างความรู้สึกไม่สบายใจต่อกัน มาทุกยุคทุกสมัย
แต่คลิปเมาคลีล่าสัตว์ ของครูโจ้ย - ครูกบ ได้ทำลายกำแพงนั้น อาจารย์สองท่าน สามารถเข้าไปอยู่ในใจเด็ก ๆ ได้
ด้วยวิธีการสื่อสารที่ไม่ได้บังคับให้เด็กเปิดดู หรือเคี่ยวเข็นให้เด็กทำตาม เพียงแค่ใส่ใจ และ ตั้งใจ กับหน้าที่ที่ตัวเองทำอยู่ เด็กยุคใหม่ ก็พร้อมที่จะเปิดใจ กดดูต่อ และซึบซับสิ่งที่คุณครูทั้งสองท่าน สื่อสารออกไปได้ด้วยตัวเอง
นอกจากความสุข ความบันเทิง รอยยิ้ม ที่ผู้คนได้รับจากคลิปนี้ อีกสิ่งที่เราเห็นจากคลิปนี้ คือ จิตวิญญาณและความรักในสิ่งที่ตัวเองทำของครูโจ้ย กับ ครูกบ
ลองคิดดูว่า ชายวัยกลางคน และชายสูงวัย ที่ยังต้องใส่ชุดลูกเสืออยู่ และมาอัดคลิปร้อง เต้น เพลงลูกเสือสำรอง ให้สาธารณะได้ดูสิ คุณคิดว่าทุกคนจะกล้าทำแบบนั้นไหม ? ยิ่งถ้าตัวเองมีลูก มีหลาน มีคนรู้จัก มันไม่ง่ายแน่ ๆ ที่จะทำแบบจัดเต็มขนาดนั้น
หากไม่รัก ไม่ชอบจริง ไม่ได้มีจิตวิญญาณของการเป็นครู ที่อยากถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นกับเด็ก เชื่อว่า คลิปที่ออกมา ก็คงเป็นแค่การร้องและเต้น ธรรมดา ให้ทุกจบเพลง ตามหน้าที่ ปล่อยลงโลกออนไลน์ ก็คงไม่มีใครสนใจสักเท่าไหร่
ทว่าสิ่งที่ทำให้ คลิปเหล่านี้มีชีวิตชีวา และคนดูสัมผัสได้ คือ ความตั้งใจ ความรักในวิชาลูกเสือของ ครูโจ้ย ครูกบ ที่อยากถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่เขาสองคนจะทำได้
.
ติดตามบทความอื่นๆ ของ alongwrite ได้ทางเพจ www.facebook.com/alongwriter
โฆษณา