4 ม.ค. 2021 เวลา 11:10 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าในห้องตรวจ - 4/1/64
"ให้เกียรติตัวเอง ให้เกียรติเพศตรงข้าม มีสติและยอมรับผลการกระทำ ลูกจะไม่พลาดติดโรคนี้อีก"
เรื่องเล่านี้เป็นอีกเรื่องที่แอดมินเองรู้สึกสะเทือนใจหลังจากที่ตรวจคนไข้รายนี้เสร็จ
บ่ายวันหนึ่ง แม่พาลูกสาวมาหาหมอด้วยอาการ คือ มีผื่นแดงขึ้น เป็นจุดๆตามฝ่ามือทั้งสองข้าง คนไข้เป็นผู้หญิงอยู่ในช่วงอายุ 17 ปี เธอเดินเข้ามาหาแอดมินพร้อมบอกอาการว่าผื่นที่ขึ้นนี้มีอาการอย่างไร เป็นมากี่วันและหายาอะไรมาทาก่อนหน้านี้หรือไม่
สำหรับคนที่เป็นหมอแล้ว เมื่อเห็นผื่นแดงที่มือแบบนี้ ย่อมต้องมีโรคในใจอยู่โรคหนึ่งในหัวเสมอ แอดมินเลยต้องถามเรื่องที่ส่วนตัวมากขึ้นเพื่อให้ได้คำวินิจฉัย แอดมินจึงเชิญคุณแม่ออกไปรอหน้าห้องตรวจก่อน เพราะว่าแอดมินอยากถามคนไข้ในเรื่องส่วนตัวซึ่งอาจจะทำให้คนไข้รู้สึกลำบากใจเวลาต้องบอกต่อหน้าคุณแม่
คำถามจะเป็นแนวนี้ครับ: ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันไหน มีเพศสัมพันธ์ล่าสุดวันไหน ถ้ามี ใช้วิธีการป้องกันแบบไหน มีคู่นอนที่ผ่านมาทั้งหมดกี่คน มีใครที่มีอาการคล้ายๆคนไข้หรือไม่
คนไข้นั่งเงียบอยู่นานกับคำถามที่แอดมินค่อยๆถามไป แอดมินเข้าใจเลยว่าเป็นคำถามที่เป็นเรื่องส่วนตัวมาก แต่เนื่องจากสำคัญต่อการวินิจฉัยและรักษา แอดมินเลยค่อยๆถามด้วยความใจเย็นและน้ำเสียงสุภาพมากที่สุด
คนไข้: หนูเพิ่งหมดประจำเดือนไปค่ะ หนูไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยค่ะ หนูแค่กินข้าวกับน้ำร่วมกับเพื่อนๆเท่านั้นเอง มันจะติดได้มั้ยคะ
คนไข้ยังยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แอดมินย้ำคำถามหลายรอบเพื่อความสุภาพและเคารพให้เกียรติคนไข้มากที่สุด แต่คำตอบสุดท้ายก็ยืนยันว่า "ไม่มี"
แอดมินเลยจำเป็นต้องขอตรวจเลือดหาโรค เพราะไม่ได้ประวัติในส่วนที่สำคัญ แอดมินเลยบอกคนไข้ว่าเดี๋ยวหมอจะขอตรวจเลือดหาความเป็นไปได้ของโรคนี้นะครับ รอผลไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
หลังจากที่ผมการตรวจออกมา แอดมินจึงเรียกคุณแม่และคนไข้เข้ามาฟังผล เพราะผลการตรวจเลือดออกมาเป็นโรคที่คุณแม่ควรต้องทราบด้วย
แอดมิน: คนไข้เป็นโรคซิฟิลิสนะครับ ต้องฉีดยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษา โรคนี้หายขาดได้ครับ
ทั้งห้องเงียบสงัด สีหน้าของคุณแม่เริ่มซีดและตกใจเมื่อได้ยินชื่อโรคนี้ ส่วนคนไข้ยังทำหน้าสงสัยว่ามันคือโรคอะไร คุณแม่เริ่มมองไปที่ลูกสาวตัวเอง น้ำตาเริ่มไหลออกมาสองข้าง มือทั้งสองเริ่มปาดน้ำตาที่ออกมาอย่างมากมาย
แอดมิน: คุณแม่รู้ใช่มั้ยครับว่าโรคนี้คือโรคอะไร แล้วเป็นได้ยังไง
คุณแม่: รู้ค่ะ แม่ไม่ดีเอง แม่คงสอนลูกไม่ดีพอ ให้เวลากับลูกไม่มากพอ ลูกเลยพลาดติดโรคนี้ แม่สอนลูกให้รักตัวเองไม่มากพอ แม่สอนลูกให้รู้จักการให้เกียรติตัวเองไม่ดีพอ ลูกเลยต้องติดโรคนี้ตั้งอายุยังน้อยๆ
ฉากที่แอดมินเห็นตอนนี้ ทำให้แอดมินรู้สึกสะเทือนใจและคิดในหัวว่า รู้สึกโชคดีที่แม่เราเลี้ยงมาอย่างดี สอนทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องการมีสติทุกการกระทำ การให้เกียรติเพศตรงข้ามและการเข้าใจเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง
แม้ว่าคนไข้จะไม่บอกเรื่องจริง แต่ถ้าคนไข้ได้ตระหนักรู้ เธอน่าจะเข้าใจและให้เกียรติตัวเองและรู้จักความรักของพ่อแม่ที่มีต่อเธอ
ครั้งนี้เธอโชคดีที่เป็นโรคที่รักษาหาย แต่ถ้าเกิดโชคร้ายเป็นโรคที่ต้องกินยาตลอดชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย แอดมินไม่รู้จะพูดกับเธอยังไงดี
หากชื่นชอบ ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม กดให้กำลังใจทุกบทความด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกผู้อ่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านครับ
#Storythinker #เล่าเรื่องให้คิด
ติดตามช่องทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ตามลิงค์ข้างล่างเลยครับ
โฆษณา