Bitcoin คือ อะไร ? (ฉบับง่าย) ทำไมแพงถึงเหรียญละ 1 ล้านบาท ???
อยากเขียนเรื่องนี้ เพราะเพื่อนๆใกล้ตัวถามกันมาเยอะ ฟิล์มเคยทำสารคดีข่าว เรื่องเงินดิจิทัล เมื่อ 3 ปี ก่อนใช้เวลาคลุกคลี หาข้อมูลอยู่หลายเดือน ซึ่งตอนนั้น Bitcoin เหรียญละ 200,000 กว่าบาท
ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่า บทความนี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลจากคนในวงการ และบทความจากเว็ปไซต์ต่างๆ โดยที่ไม่มีความเห็น หรือการชี้แนะใดๆในการลงทุนแก่ผู้อ่านนะคะ
Bitcoin ? คืออะไร
Bitcoin คือ สกุลเงิน1ในเหรียญดิจิทัล ที่มีเยอะแยะมากมายนับพันนับหมื่นเหรียญในโลก (หรืออาจจะมากกว่านี้) แต่ Bitcion เป็นเหรียญแรกของโลก เหมือนเป็นบิดาแห่งเงินดิจิทัล มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญในโลก ซึ่งไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า ก็จะมีแค่21ล้านเหรียญบนโลก
Bitcoin มันจับต้องไม่ได้ มองไม่เห็นเงินบาท เงินดอลลาร์ ทีเป็นเหรียญ เป็นกระดาษ Bitcoin ไม่เหมือนทรัพย์สินแบบสลากออมสิน หรือ เงินออม ที่เราได้เป็นกระดาษ เป็นสมุดบัญชี มาถือมีตัวเลขกลมๆ ให้เห็น ขายคืนได้ตรงกับธนาคาร แต่เหรียญ จะได้เป็น Account กับรหัสผ่าน เหมือนซื้อหุ้น
แต่ความโดดเด่นและแข็งแกร่งของเงินดิจิทัล คือ เหรียญมันRunอยู่บนระบบบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติที่ว่ากันว่าเหมือน Super Super Wetwork ที่ปลอดภัย ตรวจสอบได้ ว่ากันว่าไม่มีทางโดนแฮ็ก
เอาเป็นว่า ล้ำ และได้รับการยอมรับในวงการ Tech และวงการธนาคาร และวงการอื่นๆ ว่ามันรันเหรียญอย่างปลอดภัย
อยากเข้าใจระบบบล็อกเชนมากขึ้น คลิกลิงค์นี้ https://www.efinancethai.com/MoneyStrategist/MoneyStrategistMain.aspx?id=ZHNzbVhubGcyeU09
2008 Bitcoin เกิดขึ้น พร้อมกับมีการเผยแพร่ Bitcoin whitepaper ในวันที่ 31 ตุลาคม 2008 อารมณ์เหมือนจดหมายแนะนำตัว ชี้ชวนการลงุทน อธิบายง่ายๆว่า “ฉันชื่อ Bitcoin ทำไม คุณต้องลงทุนซื้อ เรามีจำนวนจำกัด เหมือนกับ ทองคำ บนโลกจริงๆ แถมยิ่งขุด ยิ่งลึก ยิ่งหากยาก)
การขุดบิทคอยน์ คือ การเปิดคอมพิวเตอร์เฉพาะทางที่คนในวงการนี้สร้างขึ้นมา เพื่อแย่งในการเป็นคนหาเจอคนแรก บิทคอยน์ช่วงเหรียญแรก 1 , 2 ,3 จะขุดง่าย แต่เหรียญหลังๆจะหายาก และใช้เวลานานขึ้น ต้องมีการเปลี่ยนรุ่นคอม ค่าไฟก็จะแพง ทำให้ทุกวันนี้มันขุดยากและต้องใช้ค่าไฟมากขึ้น หรือต้องอัพversionคอม ที่รุ่นใหม่เรื่อยๆ (เรื่องขุดคุยได้อีก ep ขอเอาเท่านี้ก่อน)
สรุปคือ ... ยิ่งนานไป Bitcoin มันจะหายาก มีจำกัด และแพงขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีความต้องการซื้อยิ่งดันราคา ,, อันนี้ คือ หลักการที่ว่าทำไม มันจะแพงขึ้น ประเด็นคือ เพราะมันมีจำกัดจำนวน วางตัวเหมือน ทองคำ บนโลกจริงๆ
ช่วงที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยเหรียญมีจะขึ้น-ลงจะทรงๆ 200,000-300,000 ประมาณนี้มาเรื่อยๆ แต่พอเดือนส.ค.63 พุ่งมาเรื่อยๆ จนเมื่อวานแตะ 1 ล้านบาทต่อเหรียญ
ว่าแต่ ? ขึ้นมาแพงขนาดนี้ได้ยังไง
ฟองสบู่หรือเปล่า จะมีคนเทขายไหม ?
****ย้ำอีกครั้ง****
นี่เป็นความเห็นจากแหล่งข่าวที่เคยทำเหมืองขุดบิทคอยน์ และคนในวงการ เล่าให้ฟิล์ม ฟัง...
สาเหตุที่มันพุ่งมาเรื่อยๆแบบนี้ เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกมันร่วง เพราะโควิด-19 อเมริกาพิมพ์เงินแจกคนให้ใช้จ่าย (QE) ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า , คนรวยจำนวนนึ่งมาพักเงินไว้ที่นี่ เพราะเชื่อกันว่า เป็นแหล่งพักเงินสีเทาๆได้ดี ตรวจสอบยาก (หากใครเคยตามข่าว จะรู้ว่า พวก Underground ในต่างประเทศใช้โอนเงินระหว่างกัน โดยไม่รู้ใครเป็นใคร)
แต่ปัจจัยหลักๆ ที่ ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังมานี้ มีพุ่งสูงปรี๊ดจนมาแตะหลักล้าน เพราะมีแรงซื้อ มีความต้องการมาถือครอง บิทคอยน์จากนักลงทุนรายใหญ่ๆ ข้อมูลนี้ สอดคล้องกับ ฐานเศรษฐกิจที่บอกว่า “นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การดีดตัวของบิทคอยน์ในครั้งนี้แตกต่างจากในปี 2560
เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด เช่น พอล ทิวดอร์ โจนส์ และสแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ โดยแตกต่างจากในปี 2560 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย”
ยังสอดคล้องอีก กับ efinance ที่บอกว่า บริษัทลงทุนใหญ่ ค่อยๆกว้านซื้อ Bitcoin มาเรื่อยๆ จน ตอนนี้ Grayscale Bitcoin Trust เป็นกองทุนถือถือบิทคอยน์ไว้สูงที่สุด ด้วยจำนวนบิตคอยน์ 572,644 BTC
รายงานของเว็บ bitcointreasuries.org ที่มีรายชื่อบริษัทที่ถือครอง Bitcoin รวมกันแล้วมีมากกว่า 1.1 ล้าน bitcoin คิดเป็นมูลค่ากว่า 30 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยพบว่ามีทั้งหมด 29 บริษัท ซึ่งหันมาถือครองสกุลเงินดิจิทัลแทนทุนสำรองแบบเดิม เช่น หุ้นและเงินสด
บริษัทที่มีชื่อเสียงจำนวนมากตัดสินใจที่จะใช้ประโยชน์จาก bitcoin (BTC) เพื่อเป็นทุนสำรองแทนที่จะถือครองทรัพย์สินแบบเดิมๆ แนวโน้มดังกล่าวเริ่มได้รับความนิยมหลังจาก Microstrategy ซื้อ BTC มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ และหลังจากนั้นไม่นาน บริษัทยังคงซื้อ bitcoin เพิ่มขึ้นเรื่อย
แหล่งข่าว เสริมอีกว่าเหตุผลที่ทำให้หลายคน หันมาเล่น Bitcoin เพราะการสภาพคล่องมันสูง ซื้อง่ายขายคล่อง ตลาดเปิด24ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด มันก็ Make Sense ทีจะทำให้เกิดปริมาณการซื้อขาย เพราะง่ายและเร็ว
รวมถึงเว็ปกระดานเทรดของไทย ก็ให้ซื้อด้วยเงินบาทหลักสิบ หลักร้อยได้ ทำให้รายเล็กๆ เริ่มได้ง่าย เล่นง่าย ตลาดก็เลยโตไว
และก็ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญบนความตั้งใจหรือเปล่าที่ เมื่อวาน (03/01/63) เป็นวันเกิดครบรอบ12 ปี ของ Bitcoin และราคาก็แตะ 1 ล้านบาทต่อเหรียญเป็นครั้งแรก
คำถาม ที่ว่า “ราคาจะขึ้นอีกไหม” ?
แหล่งข่าวปลายสายบอกว่า ตอบยาก ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้รายใหญ่จะเทขายไหม หรือจะมีปัจจัยอะไรมากระทบอีกหรือไม่ แต่ข้อมูลจาก เว็ปไซต์ สยามบล็อกเขน บอกว่า CEO กระดานเทรดเงินดิจิทัลของต่างประเทศ ที่ชื่อ Binance คาดว่า Bitcoin อาจจะขึ้นไปแตะประมาณ 3 ล้านบาท หรือ 1 แสนดอลลาร์
การพุ่งขึ้นของ Bitcoin ยังทำให้ สื่อกระแสหลักในสหรัฐ อย่าง Finance Time ต้องออกมาทำข่าวราคา Bitcoin แถมลงหน้าหนึ่ง
ขณะเดียวกัน The Standard เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการสตางค์ คอร์ป ผู้ให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล บอกว่า ปี2564 นี้ Bitcoin ได้เปลี่ยนสถานะจากสินทรัพย์เก็งกำไร มาเป็นสินทรัพย์คลังสำรอง (Reserve Asset) ของสถาบันการเงินและนักลงทุนรายใหญ่ทำให้มีแนวโน้มจะแตะระดับ 50,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,400,000 บาท โดยประมาณ( คิดจากค่าเงินบาทไทย 4 โมงกว่าๆ วันที่ 04/01/63)
แต่ๆๆ นายปรมินทร์ บอกต่อว่า ราคาBitcoin จะเคลื่อนไหวในเรท 20,000-26,000 ดอลลาร์ ช่วงต้นเดือนมกราคม หลังจากนี้อาจจะปรับฐานลงมา และหลังเมษายนอาจจะปรับตัวขึ้นอีก
ดังนั้น ช่วงนี้ต้องไม่ถือยาว ต้องบริหาความเสี่ยงดีๆ เพราะธรรมชาติขอเงินดิจิทัล เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมากและผันผวนมาก
น่ะ พูดไม่ทันไร ! ตอนกำลังนั่งเขียน 16.38น. วันที่ 4 ม.ค.63 ร่วงลงมาละ เหลือ 930,000 บาทต่อเหรียญ และตอน 11 โมงกว่า สูงถึง 1,008,000 กว่า นี่แหล่งคือความผันผวนของเงินดิจิทัล
อยากซื้อทำไง ?
ขั้นตอนแรกต้องเปิด Wallet ถ้าในไทย มีเว็ปเทรดเงินดิจิทัล ที่ได้รับอนุญาตจาก กลต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หน่วยงานทำหน้าที่ดูแลสถาบันการเงินหรือหน่วยงานด้านการลงทุน) มีอยู่หลายเว็ปไซต์เลยที่เดียว
แต่ เว็ปไซต์ที่อันดับ 1 ตอนนี้ คือ Bitkub.com เพราะเป็นสัญชาติไทย และมีเมนูภาษาไทย และโหลดเป็นแอปพลิเคชั่นได้ แต่จริงๆมีกระดานเทรดต่างประเทศด้วย ลองศึกษาดูกระดานสัญชาติอื่นๆได้ที่ลิงค์นี้ https://bitconian.com/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%8C/
สุดท้าย ท้ายสุด : ไม่มีความเห็นว่าควรลงทุน หรือเล่นแบบไหน เพราะส่วนตัวเราไม่ถนัดเล่นอะไรที่ความเสี่ยงสูงๆ ซื้อติดไว้ดูตลาด ดูเทคนิคนิดๆหน่อยๆ ส่วนเพื่อนๆเล่นหรือซื้อไว้ตอนกี่บาท หรือ ยังสงสัยประเด็นไหน ถามมาได้นะคะ ฟิล์มไปหาคำตอบมาให้
⭐️⭐️⭐️ติดตามเราได้ที่ ⭐️⭐️⭐️
FB page : เศรษฐกิจง่ายนิดเดียว
Blockdit : เศรษฐกิจง่ายนิดเดียว หรือ https://www.blockdit.com/pages/5bfec35d1df90717e9d8aaad
ที่มาภาพ : https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/139407
- 68
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
