5 ม.ค. 2021 เวลา 15:11 • การตลาด
ว่าด้วยเรื่องของกลิ่น สิ่งที่คนมองไม่เห็นแต่ทำให้หุ้น Starbucks ฟืนตัวขึ้น 143%
Scent in Starbucks : by VIBESLAB
ในต่างประเทศมีศาสตร์การตลาดอยู่อย่างหนึ่งที่เรียกว่า Scent Marketing ซึ่งถ้าแปลเป็นไทยแบบตรงตัวเลยก็จะหมายถึงการตลาดที่เกี่ยวกับกลิ่น
แม้จะเป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ แต่ Scent Marketing เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก
ซึ่งสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างกลิ่น กลับช่วยทำให้หลายต่อหลายธุรกิจดีขึ้นมาได้
ในที่นี้เราขอยก Starbucks มาเป็น Case Study เล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน
เพราะกลิ่นกาแฟในร้าน Starbucks ไม่ได้เป็นเพียงแค่กลิ่นที่ลอยมาจากเครื่องชงกาแฟเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่แบรนด์ ‘ตั้งใจ’ ทำออกมา
ย้อนกลับไปในปี 2008 Starbucks เจอกับปัญหายอดขายและคนเข้าร้านที่ลดน้อยลง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าสาเหตุสำคัญนั้นมาจากการปรุงเมนูอาหารเช้าไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของชีสหรือไข่ ที่ตลบอบอวลจนกลบกลิ่นกาแฟแทบมิด
เหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก แต่นี่เป็นปัญหาใหญ่จนทำให้ Shultz Howard ซึ่งเป็น CEO ของ Starbucks ในขณะนั้นถึงกับต้องสั่งยกเครื่องเมนูอาหารเช้าใหม่ โดยมันต้องเป็นเมนูที่ได้ตีกับกลิ่นกาแฟจนทำให้บรรยากาศของการเป็น Coffee Shop หายไป
และผลจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนเข้าร้าน Starbucks มากขึ้น จนทำให้ในปี 2009 หุ้นของ Starbucks เติบโตขึ้นถึง 143%
โดย Shultz ได้เคยกล่าวไว้ว่า “กลิ่นหอม อาจเป็นอวัจนภาษาที่ทรงพลังที่สุดที่มีในร้านเรา”
ในมุมของคนทั่วไป กลิ่นหอมย่อมดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาในร้านมากขึ้นเป็นธรรมดา
ส่วนในมุมของนักออแบบกลิ่นอย่างผม ในบรรดาประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของร่างกายไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
กลิ่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ส่งต่อไปยังสมองโดยไม่ต้องอาศัยการตีความ และกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกได้ โดยที่บางครั้งคนที่ได้กลิ่นก็ยังแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าได้สูดดมกลิ่นและซึมซับความเป็นแบรนด์ไปแล้ว
:: FYI ::
เคยมีคนรู้จักของผมคนนึงที่เคยทำงาน Part-Time ใน Starbucks เค้าบอกผมว่าบาริสต้าที่ Starbucks จะต้องเอาเมล็ดกาแฟที่ยังไม่บดออกมาวางไว้ในจุดที่สะอาด แต่สามารถกระจายกลิ่นได้เพื่อทำให้ร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟ
Reeference : money.cnn.com
โฆษณา