7 ม.ค. 2021 เวลา 13:50 • ท่องเที่ยว
🐠 ท่องทะเลไทย🐠Ep. 2
“🌷สวนดอกไม้ใต้ทะเล”🌷
ทะเลรอบๆเกาะหลีเป๊ะ คือ สวรรค์สำหรับนักดำน้ำ น้ำใส ปลาตัวเล็กตัวใหญ่แหวกว่าย ท่ามกลางปะการังสีสดใส พลิ้วไหว เต้นระบำ ส่ายไปมาตามสายน้ำ
“พี่เขียนดำน้ำลงไปดูเองเลยเหรอ? “ น้องๆหลายคนอาจสงสัย....ก็พี่บรรยายเหมือนกับเห็นมากับตาเลยนี่☺️
ลองทายดูก่อน แล้วค่อยเฉลยนะ🥰
ปะการังสีแดง ภาพโดย น้องอิ๊ฟ ไกด์ของเที่ยวดีทราเวล
วันรุ่งขึ้น 31 ธันวาคม ส่งท้ายปีเก่า
9 โมงเช้านัดที่ชายหาดพัทยาหน้าโรงแรม เพื่อลงเรือไปชมเกาะต่างๆ
(ที่หลีเป๊ะมีหาดที่ชาวบ้านตั้งชื่อว่า “พัทยา “เพราะ มีร้านรวงขายของ ขายอาหารคึกคัก เรียงราย2ข้างของถนนคนเดินเหมือนอยู่พัทยา)
วันนี้นั่งเรือหางยาวกันค่ะ มีไกด์ชื่อคุณหมัด รูปร่างสันทัด ทะมัดทะแมง ผิวคล้ำกร้านแดด เพราะหาปลาอยู่กับทะเลมาตั้งแต่หนุ่มๆ
คุณหมัดนั่งคุยระหว่างการเดินทาง และหามุมให้เราได้ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
1
ท้องทะเลกว้าง แลลิบสุดสายตา
เมฆลอยเป็นกลุ่มเหนือท้องทะเลสีน้ำเงินเข้ม
เรือแล่นฝ่าคลื่น ลมโชยฉิวผ่านผิวหน้า..สดชื่น..สูดหายใจเข้าแรงๆให้เต็มปอด..😄
เรือผ่านเกาะแก่ง ที่มีแท่งหินรูปร่างต่างๆกัน จนมาถึงกลุ่มหินที่วางซ้อนกันอย่างหมิ่นเหม่
“เกาะหินซ้อน”
เกาะหินซ้อน
คนขับเรือจะชำนาญในการคัดท้าย ตะล่อมให้เรือเข้าไปใกล้พอที่จะได้มุมถ่ายรูป และระหว่างที่ถ่ายรูปก็คอยพยุงไม่ให้ให้เรือโยกไปมา เป็นงานที่หนักเอาการอยู่
1
แต่ทั้งคนเรือและคุณหมัดก็ทำให้เราได้รูปสวยๆสมใจล่ะค่ะ😀 โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปที่คุณหมัดแสดงฝีมือถ่ายออกมาได้มุมที่สวยมากรูปนี้..ชอบ!
เกาะหินซ้อน จากมุมกล้องของคุณหมัด
จากเกาะหินซ้อน เรือก็บ่ายหน้าตรงไปยังอีกเกาะหนึ่ง ผ่านช่วงน้ำลึกก็จะเห็นน้ำทะเลสีน้ำเงินขรึมตัดกับขอบฟ้าสดใส
แต่สักพักน้ำทะเลค่อยๆเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเข้ม กลายเป็นน้ำเงินจางลง...จางลง เปลี่ยนเป็นเขียวเข้ม แล้วก็กลายเป็นสีเขียวสดใสเมื่อเข้าใกล้เกาะข้างหน้ายิ่งขึ้น...โอ้! สวยสุด..สุดสวย ช่วยไม่ได้ ใจหลงเสน่ห์ทะเลไทย!🏝🐟🏝
ทะเลระหว่างทางไปเกาะรอกลอย
“ว้าว! สีน้ำทะเลตรงนี้สวยมาก!! ข้างหน้านี่เกาะอะไรคะ?”
“เกาะรอกลอย หรือ รอคอย น่ะครับ “ คุณหมัดตอบ อ๋อ! เป็นที่รอคอยใครสักคนนั่นเอง บนเกาะคงจะมีมุมนั่งคอย พร้อมวิวสวยแน่ๆ😃
“แต่ก่อนเกาะนี้เป็นที่ชาวเลจะมาแวะพักเพื่อหลบลมทะเล และออกหาปลาในบริเวณหมู่เกาะแถบนี้ครับ “ คุณหมัดอธิบาย แล้วบอกว่า
1
“เตรียมลงน้ำนะครับ ค่อยๆเอาขาขึ้นมาบนนี้แล้วลงพร้อมกันสองข้างนะครับ “ แกเห็นเราท่าทางเก้ๆกังๆก็คงกลัวเราหกคะเมนตกน้ำล่ะค่ะ
“ตูม!” ตอนพี่เขียนกระโดดลงจากเรือไม่ตีลังกาก็จริง แต่ก็เปียกไปครึ่งตัวอยู่ดีค่ะ😀😀😀
น้ำทะเลหยก ไม่ใช่น้ำในสระว่ายน้ำ!
น้ำทะเลใสจนมองเห็นเท้าตัวเอง น่าลงไปแช่ ว่ายเล่นทั้งวัน 🥰แต่เดี๋ยวค่ะ คุณหมัดเรียกให้ขึ้นไปปีนเกาะแล้ว ...แหงนหน้าขึ้นดู...เป็นก้อนหินไม่สูงมาก แต่ก็ชันไม่ใช่เล่น
“ก้าวตามมา เอาเท้าวางลงที่ผมเหยียบนะครับ” คุณหมัด ดูแลเราอย่างดี พาเราเดินไต่ขึ้นไปบนหินทีละก้าว เอามือเหนี่ยวต้นไม้พยุงตัวขึ้นไปถึงจุดชมวิวที่ 1
“นั่งตรงนั้นละครับ อย่าออกไปมากกว่านั้นนะครับ เอ้า..ตั้งท่าได้ “ แล้วคุณหมัดก็กดถ่าย
รูปรัวๆไปสัก 10 ช้อตได้ “ เอาไว้ไปนั่งเลือกทีหลัง” แกยิ้มเห็นฟันขาว
นั่งยืดขารับลมเย็นบนหินผา เกาะรอกลอย
เดินอ้อมมาอีกด้านหนึ่ง มองลงไปเป็นหน้าผา
ปีนขึ้นไปต่อถึงจุดชมวิวที่ 2 ด้านหน้าเกาะ ที่ข้างล่างเป็นอ่าวจอดเรือ
“เดินลงไปแล้วนั่งหันหลังนะครับ มองไปทางซ้าย” พี่เขียนก็ก้มตัวค่อยๆเดินมือเปล่าลงไปที่ขอบหิน นั่งลงแล้วมองไปตามที่คุณหมัดบอก
โอ้! สีน้ำทะเลด้านนี้สะท้อนแสงแดดสวยกว่าจุดที่แล้วอีกค่ะ... มองทอดสายตา ปล่อยจิตใจให้ผ่อนคลาย สบายจริงๆ 😍
“เอามือถือส่งมาให้หน่อย” รับมาแล้วก็กดถ่ายรูปประทับใจเบื้องหน้า ตามที่เห็นข้างล่างนี้ค่ะ
เมฆบนท้องฟ้า เป็นฉากหลังของทะเลเขียวมรกต เกาะรอกลอย
คงนั่งมองได้อีกนาน ถ้าไม่มีคนมายืนต่อคิวรอ
เดินกลับขึ้นมาเจอชิงช้าผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่แน่นหนา นั่งเล่นชิลล์ชิลล์ รับลมทะเลเย็นๆ
ผืนน้ำกับแผ่นฟ้าเป็นฉากหลัง
พักผ่อนพอสมควร ก็ถึงเวลาเดินลงแล้วค่ะ
นั่งชิงช้าบนเนินหิน เกาะรอกลอย
ขาลงต้องระวังกว่าขาขึ้น ... เท้าต้องคอยยั้งไม่ให้ไถล นั่งลงหย่อนเท้าเหยียบที่ราบให้มั่นก่อน แล้วค่อยก้าว มือต้องคอยเหนี่ยวก้อนหิน หรือต้นไม้ทรงตัวไว้ให้ดี..ก็เลยไม่มีรูประหว่างทางลงค่ะ 😀
ลงมาถึงด้านล่าง ยืนเหม่อมองโขดหินขรุขระสีน้ำตาลเข้มมุมอ่าวเล็กๆ ตัดกับน้ำสีฟ้าใสแจ๋ว
ธรรมชาติช่างน่าอัศจรรย์!
กำลังหันหน้ากลับไปอำลาเกาะน่ารัก ก็จ๊ะเอ๋ กับลิงแสมตัวนี้พอดีเลยค่ะ😆
เป็นเจ้าบ้านที่ดีนะ...มานั่งคอยส่งแขกขึ้นเรือ
ท่าทางเธอสำราญบานใจมาก😆 กับการนั่งชมพวกมนุษย์เดินลุยเล่นน้ำที่หาดหน้าบ้าน พลางคิดในใจว่า
“อย่ามาทำหาดของฉันสกปรกนะ😃”
ถึงเวลาลุยน้ำกลับขึ้นเรือล่ะค่ะ
ลิงนั่งส่งแขกที่ริมหาด
เรือมาจอดกันเป็นแถวตั้งสี่ห้าลำ พาคนมาเรื่อยๆไม่ขาดสาย เราอำลาหาดสวยน้ำใส ไปหาที่พักนั่งกินอาหารกลางวันกันที่เกาะดงดีกว่าค่ะ😀
“เกาะดง” เป็นเกาะขนาดกลาง พื้นที่ใกล้เคียงกับเกาะหลีเป๊ะ มีเกาะอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน เช่น เกาะหินซ้อน เกาะไผ่ เกาะผึ้ง และเกาะรอกลอยรวมๆเรียกว่า “หมู่เกาะดง” นายท้ายเรือจะเรียกทัวร์หมู่เกาะดงนี้ว่า “ทัวร์รอบนอก” ค่ะ
ถึงหาดเกาะดงแล้ว! ริมหาดมีต้นไม้แผ่กิ่งก้านคลุมถึงส่วนที่เป็นน้ำทะเล จึงมีชิงช้าผูกห้อยอยู่เหนือน้ำ
มีเรือลำอื่นๆมาจอดพักก่อนเราหลายลำ
บ่ายหัวเรือแหวกน้ำสีเขียวหยก สู่เกาะดง
เกาะดง
ระหว่างเดินเลียบหาดพี่เขียนเห็นลิงตัวหนึ่งวิ่งมาฉวยเอากล่องข้าวฝาสีส้มของนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นไปต่อหน้าต่อตาเฉยเลย พริบตาเดียวเอง เราเลยต้องหาทำเลดีๆห่างลิงๆเหล่านี้ค่ะ😀เช่าเสื่อปูนั่งรับประทานอาหารกลางวันกัน
เพิ่งรู้ว่า ที่นี่คือ “ อ่าวลิง “ค่ะ...ก็เพราะมีลิงเยอะอย่างนี้เอง!
หาดทราย โขดหิน เกาะดง
หลังกินอิ่มเดินเล่นย่อยอาหารเสียหน่อย
ภาคบ่ายเรือลำที่คุณหมัดพาเรามาจะกลับไปที่เกาะหลีเป๊ะก่อน พี่เขียนจึงต้องไปกับเรือของกลุ่มหลานๆวัยรุ่นที่เขาจะไปดำน้ำกันต่อค่ะ
ไกด์หนุ่มของเรือลำนี้ชื่อ น้องอิ๊ฟ พาเราไปชมเกาะหินงาม เป็นทางผ่านก่อนที่จะไปดำน้ำบริเวณร่องน้ำจาบังอันมีชื่อเสียง
เอ๊ะ! ทำไมชายหาดที่เกาะนี้ถึงสีดำอย่างนี้ล่ะ..เป็นทรายสีดำหรือ?
เกาะหินงาม
พอเรือเข้าไปใกล้ๆ ถึงเห็นว่าเป็นก้อนหินทั้งหาดเลยค่ะ ก้อนหินสีดำบ้าง เทาบ้าง มีลวดลายสวยงามบ้าง ยิ่งถ้าน้ำทะเลซัดอาบ ผิวก้อนหินยิ่งสะท้อนแสงดูมันวาววับจับตาเชียวค่ะ
หินพวกนี้มารวมตัวกันที่นี่ได้อย่างไร?
ก้อนหินกลมมน บนเกาะหินงาม
สันนิษฐานว่า กระแสน้ำที่เชี่ยวจัด โดยเฉพาะในฤดูมรสุม ค่อยๆเซาะให้หน้าผาหินของเกาะนี้ค่อยๆพังทลายลงมาเมื่อหมื่นๆปีก่อน
และเกาะนี้อยู่ในช่วงร่องน้ำที่เป็นช่องแคบๆ ระหว่างเกาะอาดัง ราวี หลีเป๊ะ และหมู่เกาะดง กระแสน้ำที่ขึ้นลงผ่านช่องนี้จึงเชี่ยวจัด ซัดสาด พัดพาส่งแรงกระแทกให้หินกลิ้งไปมาเสียดสีกันวันแล้ววันเล่า ลบเหลี่ยมแหลมคมไปจนหมด กลายเป็นหินก้อนกลมมนสวยงามทั่วหาด ให้เราสัมผัสได้ในปัจจุบันนี้ค่ะ
นี่คือที่มาของ “เกาะหินงาม” ค่ะ...เห็นแล้วอยากเก็บหินไปเป็นที่ระลึกไหมคะ?
อย่าได้เก็บไปเลยค่ะ แม้แต่ชาวคานาดาผู้หนึ่งที่เคยเก็บก้อนหินกลับบ้านไป ยังต้องส่งคืนมาทางไปรษณีย์เลยค่ะ😮
ก้อนหินจากเกาะหินงามที่ถูกส่งคืนมาที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
ก็ที่เกาะนี้มีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา บอกต่อกันมาและเขียนติดไว้ว่า
““ผู้ใดบังอาจเก็บหินงามไปจากเกาะนี้ ผู้นั้นจะถึงซึ่งความหายนะ นานัปการ จะกลับไม่ถึงบ้าน จะประสบอุบัติเหตุ จะหลุดพ้นจากหน้าที่การงาน จะพบภัยพิบัติไม่มีที่สิ้นสุด...”
สงสัยว่าฝรั่งที่แอบเม้มหิน อาจจะกลับไปเจอกับเหตุการณ์ อะไรที่แย่ๆตามคำสาป จนถึงกับต้องลงทุนส่งหินมาคืนที่เดิม!
จากเกาะหินงามน้องอิ๊ฟก็พาเราไปที่ร่องน้ำที่มีกระแสน้ำแรงใกล้ๆกันนั้นค่ะ ชื่อว่า ร่องน้ำจาบัง ที่มีชื่อเสียงว่ามีปะการังหลากสีนั่นล่ะค่ะ
ถึงจุดที่จะลงดำน้ำ มีเรือจอดอยู่รอบๆบริเวณนั้นหลายลำ
“ใครจะลงดำน้ำให้เตรียมตัวนะครับ เอามือจับเชือกไว้ให้ดีๆ เพราะกระแสน้ำแรงครับ “น้องอิ๊ฟบอกขณะทีพวกเราค่อยๆไต่ลงไปตามบันไดที่พาดไว้ข้างเรือ แล้วกระโดดลงน้ำทีละคน
พี่เขียนหย่อนตัวลงเป็นคนท้ายๆ น้ำสีน้ำเงินเข้มบ่งว่าเป็นน้ำลึก ลงไปทั้งต้วแล้วก็รีบเกาะเชือกไว้ ค่อยๆว่ายตามออกไป ...น้ำเย็นและกระแสแรงกว่าที่คิด ...ว่ายไปได้ 10นาทีก็ตัดสินใจกลับค่ะ ประเมินตนเองแล้ว คงว่ายกลับไม่ไหว อย่าไปก่อให้เกิดปัญหากับคนอื่น
รอดูรูปจากหนุ่มๆสาวๆดีกว่า😀
ภาพจากน้องอิ๊ฟ ไกด์ของเที่ยวดีทราเวล
ภาพจากหลานเต้ เจ้าของเพจ เที่ยวจนมึน
หลานเต้ กำลังถ่ายภาพและวิดิโอใต้น้ำ
ภาพจากกล้องของเต้ เพจ เที่ยวจนมึน
รอชมวิดิโอเต็มรูปแบบทริปดำน้ำหลีเป๊ะจากเต้ แต่ยังไม่รู้เมื่อไรนะคะ😀😀
ระหว่างนี้ดูตัวอย่างคลิปไปเที่ยวทะเลแหวกที่ภูเก็ตจากเพจ เที่ยวจนมึนไปพลางๆค่ะ
Ep.หน้าพี่เขียนจะพาไปเที่ยว “ปราสาทหินพันยอด” ค่ะ
อ้างอิงข้อมูล จาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา