6 ม.ค. 2021 เวลา 11:09 • กีฬา
ย้อนไปเมื่อคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2020 ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ เราได้เห็นหนึ่งในข่าวใหญ่ที่สุดของวันนั้น
นั่นคือการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาคว้าตัว เอดินสัน คาวานี่ ไปร่วมทีมด้วยสัญญาระยะสั้น 1 ปี หากผลงานดีค่อยพิจารณาต่อสัญญาเพิ่มอีกปีทีหลัง
1
หลายคนบอกว่า นั่นคือการเซ็นสัญญาแบบผักชีโรยหน้าของทีมปีศาจแดง ที่พยายามหานักเตะดังๆ สักคนมาปลอบใจแฟนบอลซะมากกว่า หลังจากบอร์ดบริหารไม่ยอมทุ่มเงินมหาศาลคว้าตัว เจดอน ซานโช่ จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และบรรดา เร้ด อาร์มี่ หลายๆ คนอยากให้มันเกิดขึ้น
สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการคว้าตัว คาวานี่ ไปอยู่ด้วยจริงๆ ทำไมต้องรอจนกระทั่งถึงคืนเดดไลน์ของวันปิดตลาด ทั้งที่นี่คือนักเตะที่มีสภาพเป็นฟรีเอเยนต์มานานก่อนหน้านั้นหลายเดือนแล้ว
หรือย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมา ตอนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เจอปัญหาบาดเจ็บยาว อย่างน้อยผีแดงก็น่าจะลองพยายามทาบทามตัวจาก เปแอสเช ก่อนหน้าจะเลือกทำสัญญาระยะสั้นกับศูนย์หน้าจากลีกจีนอย่าง โอเดียน อิกาโล่ มิใช่หรือ?
แต่ความเป็นจริงก็คือ มันเกิดเหตุการณ์มากมายหลายอย่าง กว่าที่เส้นทางของ เอดินสัน คาวานี่ จะมาบรรจบกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งเราจะขอเล่าให้ฟัง...
ย้อนไปในฤดูกาล 2019-20 คาวานี่ เข้าสู่ปีสุดท้ายที่มีสัญญาค้าแข้งในถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะต่อสัญญาฉบับใหม่ เพราะอยากจะดูความจริงใจของสโมสรก่อน ว่าต้องการให้นักเตะอาวุโสอย่างเขาเป็นกำลังสำคัญของทีมต่อไปหรือไม่
ในช่วง 2 เกมแรกของซีซั่นที่แล้ว โธมัส ทูเคิ่ล ยังส่ง คาวานี่ เป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ซึ่งดาวยิงผมสลวยก็ทำประตูได้ทั้ง 2 นัดในเกมที่พบกับ นีมส์ และ แรนส์
จนกระทั่งถึงเกมที่ 3 ของฤดูกาลที่ เปแอสเช เปิดบ้านถล่ม ตูลูส 4-0 คาวานี่ เจออาการบาดเจ็บอย่างหนักที่สะโพกตั้งแต่นาทีที่ 11 จนเล่นต่อไม่ไหว และมีรายงานว่าเขาต้องพักรักษาตัวนานถึง 2 เดือน
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดาวยิงตัวเก่งอีกคนก็มีปัญหาเจ็บแฮมสตริงเช่นเดียวกัน นั่นทำให้ทีมดังกรุงปารีส ต้องเร่งหากองหน้าคนใหม่เข้ามาเสริมทีมเร็วกว่าที่คิด
สุดท้ายในวันปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2019 เปแอสเช ประกาศคว้าตัว เมาโร อิคาร์ดี้ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์จาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวยาว 1 ฤดูกาล พร้อมออปชั่นซื้อขาดมูลค่า 70 ล้านยูโร
การย้ายเข้ามาของ อิคาร์ดี้ ที่ปรับตัวเข้ากับทีมใหม่อย่างรวดเร็ว แถมโชว์ฟอร์มยิงกระจุยกระจายตั้งแต่ช่วงครึ่งซีซั่นแรก คือสัญญาณชัดเจนว่าความสำคัญของ คาวานี่ ในทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง กำลังจะหมดลงแล้ว
แม้จะหายจากอาการบาดเจ็บกลับมามีชื่อในทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล อีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2019 แต่ฟอร์มสุดยอดของ อิคาร์ดี้ ทำให้ คาวานี่ ต้องอดทนรอโอกาสเป็นตัวสำรองไปก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวของ คาวานี่ เอง ก็มีปัญหาเจ็บซ้ำที่บริเวณน่องและโคนขาหนีบ จนมีชื่อในทีมไม่ต่อเนื่องอีกด้วย
จากที่เคยเป็นศูนย์หน้าคนสำคัญของทีมมานาน จนถึงขั้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของเปแอสเช กลับกลายเป็นว่าต้องหลุดจากผังตัวจริงสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า
เขาจึงเริ่มคิดถึงการย้ายออกไปหาโอกาสลงสนามที่สม่ำเสมอกว่ากับทีมอื่น
ในช่วงปลายปี 2019 มีรายงานว่า แอตเลติโก มาดริด โผล่เข้ามาทาบทามตัวล่วงหน้าแล้ว และดูเหมือนว่า คาวานี่ ก็ต้องการไปเล่นที่สเปนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่ เปแอสเช ไม่ต้องการขายกองหน้าฝีเท้าฉกาจอย่างเขาออกไปในราคาต่ำกว่า 10 ล้านยูโรในช่วงกลางซีซั่น โดยไม่สนว่าอาจต้องเสียไปแบบฟรีๆ ถ้านักเตะไม่ยอมต่อสัญญา นั่นคืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้ แอต.มาดริด ไม่ได้ตัวหัวหอกผมสลวยรายนี้ไปร่วมทีม
วันที่ 20 มกราคม 2020 เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการกีฬาชาวบราซิเลียนของ เปแอสเช ยืนยันว่าได้รับข้อเสนอจากทีมตราหมีจริง แต่นั่นไม่ใช่ตัวเลขที่สโมสรต้องการ
เลโอนาร์โด้ ยังแอบหวังด้วยซ้ำว่า สุดท้ายแล้ว คาวานี่ จะยอมต่อสัญญาใหม่ แม้มันจะเป็นเรื่องที่ยากมากก็ตาม
หลังจากตลาดซื้อขายเดือนมกราคม 2020 ปิดลง คาวานี่ ที่ยังอยู่กับ เปแอสเช ต่อ ยิงให้สโมสรเพิ่มอีก 2 ลูก ในเกมที่พบ โอลิมปิก ลียง ตามด้วย บอร์กโดซ์ ในเดือนกุมภาพันธ์
นั่นทำให้ เอดินสัน คาวานี่ กลายเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ซัดประตูให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง รวมทุกรายการได้ครบ 200 ประตูพอดี หลังย้ายจาก นาโปลี ด้วยค่าตัวสูงถึง 64 ล้านยูโรเมื่อปี 2013
เดิมที เปแอสเช มีแพลนว่าจะมอบสัญญาให้ คาวานี่ อยู่กับทีมต่อไปอีกสัก 1 ปี
แต่การที่วิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้การแข่งขันฟุตบอลต้องหยุดชะงักไปนานหลายเดือนจน ลีก เอิง ต้องถูกสั่งตัดจบกะทันหัน โดยยกแชมป์ให้ เปแอสเช ทันที ขณะที่ทั่วโลกต่างประสบปัญหาวิกฤติทางการเงิน ทำให้แผนการดังกล่าวต้องเปลี่ยนไป
วันที่ 13 มิถุนายน 2020 เลโอนาร์โด้ ออกมาแถลงการณ์ยืนยันว่า นักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น ไม่ว่าจะเป็น ติอาโก้ ซิลวา, โธมัส เมอนิเย่ร์ รวมไปถึงตัวของ คาวานี่ เอง จะไม่ได้รับสัญญาฉบับใหม่จากสโมสร
“มันคือการตัดสินใจที่ยากลำบากอย่างแท้จริง ติอาโก้ ซิลวา และ เอดินสัน คาวานี่ คือนักเตะที่สร้างอิมแพ็คท์อย่างมากในประวัติศาสตร์สโมสร”
“คุณจะตั้งคำถามเสมอ ว่าคุณควรเดินร่วมทางกันต่อไปหรือไม่ หรือมันจะเป็นเรื่องดีกว่า ที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะต้องอยู่ด้วยกันต่ออีก 1 ปี”
“มันคือการเดินทางที่มหัศจรรย์ แต่พวกเรากำลังจะมาถึงจุดจบแล้ว พวกเราต้องตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ทั้งในแง่การเงิน รวมทั้งพิจารณาถึงนักเตะรุ่นต่อไปที่จะก้าวขึ้นมา”
“บางทีมันอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ผมไม่รู้หรอก แต่มันไม่มีวันเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบเลย”
สัญญาของ เมอนิเย่ร์, ซิลวา และ คาวานี่ จะหมดลงในเดือนมิถุนายน 2020 แต่จากการที่ฟุตบอลหลายรายการเมื่อซีซั่นก่อน ต้องจบฤดูกาลลงอย่างล่าช้ากว่าปกติ ทำให้ฟีฟ่าเปิดไฟเขียวให้แต่ละสโมสร สามารถต่อสัญญานักเตะเพิ่มอีก 1-2 เดือนเป็นกรณีพิเศษได้
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2019-20 จะแข่งกันจนกระทั่งถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทำให้ เปแอสเช ตัดสินใจต่อสัญญาเพิ่มกับ ติอาโก้ ซิลวา ออกไปจนกระทั่งเสร็จภารกิจลุ้นแชมป์ยุโรป
1
โธมัส เมอนิเย่ร์ เซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้อยู่กับทีมต่อในการสู้ศึก UCL รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ส่วนในรายของ คาวานี่ เดิมทีสโมสรต้องการให้เขาอยู่กับทีมต่อจนกระทั่งการแข่งถ้วยหูโตจบลง
แต่หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย กลับเลือกที่จะขอยุติสัญญากับ เปแอสเช ตั้งแต่จบเดือนมิถุนายนทันที โดยไม่สนใจโอกาสลุ้นแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นความสำเร็จเดียวที่เขาไม่เคยคว้าได้กับทีมเป็นครั้งสุดท้ายแต่อย่างใด
ดิ แอธเลติก รายงานไว้ว่า เหตุผลที่ คาวานี่ ทำแบบนั้น เป็นเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้ตัวเองที่สภาพร่างกายไม่เต็มร้อย ต้องมาเสี่ยงเจอปัญหาอาการบาดเจ็บ ที่จะทำให้โอกาสหาทีมใหม่ที่ใหญ่พอสำหรับเขามันเป็นเรื่องยากกว่าเดิม
ช่วงซัมเมอร์ 2020 สโมสรที่เคยให้ความสนใจอย่าง เชลซี และ แอตเลติโก มาดริด ต่างล้มเลิกความพยายามในการทาบทามตัว คาวานี่ กันทั้งหมด
ทีมสิงห์บลูส์ตัดสินใจทุ่มเงินค่าฉีกสัญญามูลค่ากว่า 50 ล้านยูโร คว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ จาก แอร์เบ ไลป์ซิก แถมยังเซ็นสัญญากับ ฮาคิม ซิเย็ค และ ไค ฮาแวร์ทซ์ ด้วยค่าตัวมหาศาลอีกต่างหาก
ส่วนตราหมีก็ไม่พร้อมจ่ายค่าเหนื่อยเท่าที่ คาวานี่ ต้องการ หลังจากสโมสรใน ลา ลีกา เจอปัญหาขาดรายได้มหาศาลจากการที่ไม่สามารถขายตั๋วเข้าชม แถมลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่เคยได้เยอะ ก็ได้เงินน้อยลงไปอีก เพราะเม็ดเงินต้องถูกนำไปแบ่งจุนเจือให้ทีมเล็กๆ มากขึ้น
สื่อตุรกีอย่าง อายันส์สปอร์ รายงานว่า เฟเนร์บาห์เช่ ได้ยื่นข้อเสนอทาบทามตัว เอดินสัน คาวานี่ ไปล่าตาข่ายโดยพร้อมจ่ายค่าเหนื่อยปีละ 5 ล้านยูโร
แต่ตัวของหัวหอกวัย 33 ปีปฏิเสธ เพราะ เฟเนร์บาห์เช่ ไม่ใช่ทีมที่ได้เล่นฟุตบอลรายการยุโรปในซีซั่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขค่าจ้างปีละ 5 ล้านยูโร ก็ไม่มากพอขนาดดึงดูดใจให้เขาไปเล่นในแดนไก่งวงได้ เพราะตอนที่เล่นในฝรั่งเศส เขาได้ค่าจ้างจาก เปแอสเช ไม่น้อยกว่าปีละ 16 ล้านยูโรด้วยซ้ำ
และนั่นก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ คาวานี่ ปฏิเสธโอกาสย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส ที่พร้อมทุ่มค่าเหนื่อยให้สูงสุดแค่ปีละ 6.5 ล้านยูโร แถมเจ้าตัวก็ไม่ค่อยอยากไปค้าแข้งกับยูเว่สักเท่าไรด้วย เนื่องจากทีมม้าลายคือคู่แข่งสำคัญของอดีตต้นสังกัดอย่าง นาโปลี ที่ปลุกปั้นเขาจนกลายเป็นสุดยอดกองหน้าของลีกใหญ่ยุโรป
สุดท้ายโชคชะตาก็นำพาให้เขาได้เซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในท้ายที่สุด
มีรายงานว่าทีมปีศาจแดงตกลงยอมจ่ายค่าจ้างให้ คาวานี่ สูงถึงปีละราวๆ 11 ล้านยูโรเลยทีเดียว แถมยังมอบเสื้อหมายเลข 7 ที่เป็นหมายเลขสัญลักษณ์ของตำนานสโมสรให้สวมใส่อีกต่างหาก
1
คาวานี่ คือกองหน้าในสไตล์ที่แตกต่างจาก อองโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด เพราะมีสัญชาตญาณดาวยิงในกรอบเขตโทษที่ดีกว่า แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวก็สามารถฉีกออกข้างมาเล่นเป็นกองหน้าด้านกว้างได้ดีเช่นกัน
ตอนที่เขาย้ายจาก นาโปลี ไปอยู่กับ เปแอสเช ช่วงแรกๆ เขาต้องรับบทศูนย์หน้าริมเส้นหลายครั้ง เพราะในเวลานั้น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยังเป็นกองหน้าตัวหลักที่ปารีสอยู่
แต่ คาวานี่ ค่อยๆ ยกระดับฟอร์มการยิงประตูให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนมาพีคที่สุดในฤดูกาล 2016-17 ที่กลายเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าเต็มตัว และซัดไปถึง 49 ประตูจากการลงสนาม 50 นัดรวมทุกรายการ
อันที่จริง ในปี 2013 เขาตกเป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาก่อนแล้ว ซึ่งในเวลานั้นคนคุมทีมปีศาจแดงคือ เดวิด มอยส์
มอยส์ เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับไม่นาน ว่าเขาเคยเดินทางไปดูฟอร์มของหัวหอกผมยาวคนนี้จริงๆ ช่วงที่เจ้าตัวย้ายไปเล่นที่ฝรั่งเศสใหม่ๆ
“มันเป็นความจริง ที่ในตอนนั้นเรากำลังจับตาดู คาวานี่ อย่างใกล้ชิด ผมเดินทางไปดูฟอร์มนักเตะหลายคน ตอนนั้นเราเล็งไปที่ ลูคัส มูร่า ด้วยเช่นกัน”
“ผมจำได้ว่าตอนนั้น เราได้คุยกับตัวแทนของ คาวานี่ แล้วด้วยซ้ำ”
“ปัญหาของผมก็คือ ผมมี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวย์น รูนี่ย์ และ ชิชาริโต้ ที่เล่นตำแหน่งนั้นอยู่แล้ว และยังมีนักเตะที่ขึ้นมาเล่นได้อีกหลายคน"
"แต่เขาคือหนึ่งในคนที่ผมเล็งในตอนนั้น และเป็นคนที่เก่งมากๆ ซึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วตลอดช่วงเวลา 7 ปีที่ เปแอสเช”
ดิ แอธเลติก เผยเรื่องราวเบื้องลึกเอาไว้ว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด ซึ่งทำหน้าที่ซีอีโอให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความชื่นชอบในตัวของ คาวานี่ เป็นพิเศษมานานแล้ว
“ลอร์ดเอ็ด” ต้องการเซ็นสัญญากับดาวยิงระดับซูเปอร์สตาร์มาตลอด แต่ปัญหาก็คือตอนที่นักเตะอย่าง คาวานี่ ยังอยู่ภายใต้สัญญาของทีมมหาเศรษฐีอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ในช่วงพีคของอาชีพค้าแข้ง การจะเจรจาดึงตัวมาเสริมทีมจึงแทบเป็นไปไม่ได้
จากการรายงานของ เดอะ ไทม์ส สื่อของอังกฤษ เผยว่าหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่กระตุ้นให้ คาวานี่ เลือกเซ็นสัญญาไปเล่นในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในปีนี้ คือการทราบผลจับสลาก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้พบกับทีมเก่าของเขาอย่าง เปแอสเช
ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยยังรู้สึกเคืองอดีตต้นสังกัดไม่หาย ที่ทำให้ฤดูกาลสุดท้ายในถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ จบลงแบบไม่สวยงามมากนัก ซึ่งวันที่เขาเซ็นสัญญากับปีศาจแดง เกิดขึ้นหลังจากทราบผลจับสลาก UCL เพียง 4 วันเท่านั้น
น่าเสียดายที่ คาวานี่ เรียกความฟิตไม่ทันเกมประเดิมสนามรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ เปแอสเช 2-1 ไม่อย่างนั้นมันคงเป็นเรื่องสนุกกว่านี้แน่ๆ
อย่างไรก็ตาม เขาใช้เวลาไม่นานทำประตูแรกในสีเสื้อปีศาจแดงได้สำเร็จ ด้วยการยิงฝัง เอฟเวอร์ตัน ที่ กูดิสัน พาร์ค 3-1 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน
หลังจากนั้นเพียง 3 สัปดาห์ เขาระเบิดฟอร์มเป็นฮีโร่ในฐานะซูเปอร์ซับนัดบุกชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 โดยลงครึ่งหลังมาทำแอสซิสต์ให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงตีไข่แตก และเหมาโขกคนเดียว 2 ประตู พลิกสถานการณ์ให้ทีมโกงความตายได้ 3 แต้ม ทั้งที่โดนทีมนักบุญนำก่อนถึง 2-0 ในครึ่งแรก
ในบทสัมภาษณ์แรกของ เอดินสัน คาวานี่ ในฐาะนักเตะปีศาจแดง ที่ให้ไว้กับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเผยว่า อันเดร์ เอร์เรร่า อดีตกองกลางเพื่อนร่วมทีมเปแอสเช ที่เคยค้าแข้งกับผีแดงนาน 5 ปี มีส่วนสำคัญกับการตัดสินใจย้ายมาเล่นในถิ่นโรงละครแห่งความฝัน
“มันคือช่วงเวลาที่เข้าสู่นาทีสุดท้ายอย่างแท้จริง และผมโทรหา อันเดร์ เพื่อพูดคุยกับเขา”
“ผมมีความชื่นชมในตัว อันเดร์ อย่างมาก สำหรับตัวตนที่เขาเป็น และผมมีความรู้สึกว่าคำพูดของเขาจะช่วยผมตัดสินใจได้ ด้วยการบอกผมมากพอสมควร ว่าที่ ยูไนเต็ด มันเป็นอย่างไร”
“และมันเป็นความจริง ที่หลังจากที่ผมคุยกับ อันเดร์ จบ พวกเรามาถึงจุดที่บรรลุข้อตกลงกับสโมสรนี้ ผมไม่ได้รู้จัก อันเดร์ มานานเท่าไรนัก แต่พวกเราได้สร้างมิตรภาพ และสนิทกันในช่วงเวลาที่ เปแอสเช และวันนี้พวกเรายังคงเป็นเพื่อนรักกันมาก”
ขณะที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ก็รู้งาน กล่าวชื่นชมลูกทีมคนใหม่รายนี้สุดๆ โดยชี้ว่านี่จะเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของ แมนฯ ยูไนเต็ด แน่
“เอดินสัน คือสุดยอดมืออาชีพที่มีประสบการณ์โชกโชน และทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทีมของเขา”
“สถิติการทำประตูของเขาทั้งระดับสโมสรและทีมชาติมันสุดยอดมาก และเรายินดีอย่างยิ่งที่ได้เซ็นสัญญากับผู้เล่นระดับเขา”
“เขาจะนำพลัง, อำนาจ, ความเป็นผู้นำ และทัศนคติที่ดีมาสู่ทีมทีมนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด เขาจะนำประตูมาให้เราอย่างเป็นกอบเป็นกำ”
“จนถึงตอนนี้ เขามีเส้นทางอาชีพที่สุดยอดแล้ว เขาคว้าแชมป์อย่างมากมายกับแทบทุกสโมสรที่เขาเคยเล่นให้ และเขายังมีอะไรอีกมากที่จะแสดงออกมาในระดับสูงสุด”
“โอกาสที่นักเตะหนุ่มๆ ของเราจะได้เรียนรู้จากหนึ่งในดาวยิงระดับท็อปของยุโรปตลอด 10 ปีหลังสุดมันคือเรื่องยอดเยี่ยม และมันจะเป็นกำไรของพวกเขาอย่างแท้จริงในการเดินหน้าต่อไป”
“เอดินสันรู้อย่างชัดเจนว่าอะไรที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ และพวกเราทุกคนต่างเฝ้ารอเห็นเขาสร้างอิมแพ็คท์ให้เกิดขึ้นได้ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
ถ้าจะบอกว่า เอดินสัน คาวานี่ คือนักเตะที่โปรไฟล์ดีและมีโทรฟี่ติดตัวมากที่สุด เท่าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันมี อาจจะไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินไป
เขาคือดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ด้วยผลงานยิงรวมทุกรายการ 200 ประตูจาก 301 นัด
เขาคว้าแชมป์ ลีก เอิง มา 6 สมัย, เฟร้นช์ คัพ 4 ครั้ง, เฟร้นช์ ลีก คัพ อีก 5 หน บวกกับรายการ โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ 4 ครั้ง และเคยเป็นดาวซัลโว ลีก เอิง ถึง 2 ฤดูกาล
1
สมัยที่เล่นให้ นาโปลี เขาเคยทำสถิติยิงใน เซเรีย อา ได้ 20 ประตูนานถึง 3 ฤดูกาลซ้อนๆ ซึ่งในรอบ 50 ปีหลังสุด มีเพียงแค่ กาเบรียล บาติสตูต้า และ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ อีก 2 คนเท่านั้นที่เคยทำได้
3
ในปี 2012 นาโปลี หยุดช่วงเวลาร้างแชมป์นาน 22 ปีได้สำเร็จ ด้วยการคว้าถ้วย โคปปา อิตาเลีย มาครองได้ ก็เพราะมีเขาเป็นกำลังสำคัญ
1
ส่วนผลงานระดับทีมชาติ คาวานี่ ก็เคยพาอุรุกวัยคว้าแชมป์ โกปา อเมริกา เมื่อปี 2011 และพาทีมไปถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ให้เห็นมาแล้ว โดยที่เจ้าตัวยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ 3 สมัยติดต่อกัน
1
ถึงแม้กว่าจะได้มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องรอจนกระทั่งอายุ 33 ที่หลายคนอาจไม่มั่นใจในสภาพร่างกายของเขามากนัก
แต่ ณ เวลานี้ เราบอกได้เลยว่า คาวานี่ คือการเซ็นสัญญาที่ดีมากๆ ของทีมปีศาจแดง
#เสียบสามเหลี่ยม #คาวานี่ #แมนยู #แมนฯยูไนเต็ด #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #พรีเมียร์ลีก #เปแอสเช #ลีกเอิง
โฆษณา