Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องแต่ง มหาสนุก
•
ติดตาม
6 ม.ค. 2021 เวลา 14:20 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง “คัมภีร์เก้าบุปผา”
ตอนที่ 13
ความเดิมตอนที่แล้ว
เจ้าสำนักจางเหลียงและพรรคพวก
ได้พ่ายแพ้ให้กับเซียวอี้อย่างยับเยิน
หลังจากที่สำนักมังกรฟ้าพ่ายแพ้แล้ว
สำนักหงส์อัคคีที่นำโดยแม่ชีตาเดียว
หลิงเซียง จึงอยากเข้าวัดพลังฝีมือบ้าง
ว่าแล้ว แม่ชีหลิงเซียงก็พุ่งเข้าไปแล้วใช้ออกด้วย“เพลงกระบี่เพลิงสุริยัน”
วิชานี้เมื่อใช้ออกจะเกิดประกายไฟ
ในตอนที่ฟันและแทงมีความรวดเร็วว่องไว
ประดุจเปลวเพลิงที่ลุกโชน
เซียวอี้เมื่อเห็นเปลวไฟพุ่งมาจึงใช้ออกด้วย
คัมภีร์เก้าบุปผาขั้นที่ 2 ซึ่งเป็นการสลายพลังของคู่ต่อสู้แล้วแปลเปลี่ยนพลังเป็นของ
ตัวเอง
เมื่อเปลวไฟพุ่งมาก็ถูกแปลเปลี่ยนแล้วพุ่งกลับไป แม่ชีหลิงเซียงก็หลบเปลวไฟนั้นได้
และเข้ามาฟาดฟันกับเซียวอี้ในทันที
ทั้งคู่เข้าประลองกระบวนท่ากันอย่างรวดเร็วว่องไวยิ่งนัก มองตาแทบไม่ทัน
ผ่านไปหลายร้อยกระบวนท่า
ก็ยังมิรู้ผล ทางด้านแม่ชีหลิงเซียง
จึงไม่อยากยืดเยื้อจึงรีบเร่งพลังขึ้นแล้วใช้กระบวนท่าให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้เซียวอี้ตามไม่ทัน แต่มิคาดเซียวอี้ใช้ออกด้วย
คัมภัร์เก้าบุปผา ขั้นที่3 ซึ่งเป็นการดูดพลังทั่วร่างมาไว้ที่มือข้างเดียวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับจุดนั้นๆ
เมื่อเซียวอี้ใช้ออกกลับเร็วยิ่งกว่าแม่ชี
หลิงเซียง เร็วขนาดเซียวอี้ยังมองเองแทบไม่ทัน แต่ไม่นานนักเซียวอี้ก็ใช้ความเร็ว
หาช่องว่าง และโจมตีถูกท้องน้อยของ
แม่ชีหลิงเซียง
จึงทำให้แม่ชีหลิงเซียงกระเด็นลงไปนอนกับพื้นจึงเป็นเหตุให้ในครั้งนี้สำนักหงส์อัคคีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
นักพรตชงชีจึงหัวเราะขึ้นฮ่าๆๆๆแล้วพูดว่า
จอมยุทธน้อยเซียวอี้ ถึงแม้ว่าอายุยังน้อยและวัยเยาว์ยิ่งนักแต่กลับมีพลังการฝึกปรือลึกล้ำยิ่งนัก ทัดเทียมกับเหล่ายอดฝีมือ
อันดับต้นๆของยุทธภพได้ไม่ธรรมดาจริงๆ
จะเสียมารยาทไหมถ้าข้าและเหล่าพี่น้องจะขอคำชี้แนะจากท่านจอมยุทธน้อยเซียวอี้สักหน่อย
เซียวอี้จึงตอบว่าอย่าได้เกรงใจเลยท่านผู้อาวุโส !เชิญ!
นักพรตชงชีและเหล่าพี่น้องรวมกัน 7 คน
จึงตั้งค่ายกล7ดาวเหนือเข้าล้อมเซียวอี้ไว้ในทันที เมื่อค่ายคนเริ่มทำงานทั้ง 7 คนจึงเริ่มฟาดฟันกระบี่ด้วยความรวดเร็วว่องไว
เกิดเป็นคลื่นพลังคมกระบี่ฟันไปทั่วบริเวณเซียวอี้จึงต้องเร่งพลังและหลบหลีกคมกระบี่ไปมา แต่ค่ายกลนี้ไม่ใช่ธรรมดา มีความลึกล้ำพิสดารยิ่งนักเปลี่ยนแปลงได้ถึง
7 รูปแบบ
เซียวอี้นานเข้าก็ยากที่จะต่อกรได้
จึงพยายามที่จะหาช่องว่างของค่ายกลนี้
ในช่วงนี้เซียวอี้จึงต้องใช้ออกด้วย
คัมภีร์เก้าบุปผาขั้นที่ 3
โดยรวมพลังไว้ที่ปลายเท้าทั้งสองข้างแล้วขยับหลบหลีกกระบวนท่าต่างๆของค่าย
7 กลดาวเหนือ
จนในที่สุดเซียวอี้ก็สามารถเห็นถึง ช่องว่างของค่ายกลนี้นั่นก็คือ ค่ายกลนี้จะมีอานุภาพรุนแรงก็ต่อเมื่ออยู่ครบทั้ง 7 คนเท่านั้นแต่ถ้าเมื่อขาดคนใดคนหนึ่งไปค่ายกลนี้ก็จะถูกทำลายในทันที
เซียวอี้เมื่อรู้เรื่องนี้แล้วจึงไม่รอช้าจึงใช้ออกด้วยลมปราณตะวันจันทราผลักคลื่นพลังประมาณ 3-4 ส่วน ถูกนักพรตที่มี
กำลังภายในอ่อนที่สุดคือนักพรตคนที่ 6
เมื่อนักพรตคนที่ 6 ถูกคลื่นพลังภายในจึงกระเด็นออกจากวงล้อม จึงส่งผลให้ค่ายกล 7 ดาวเหนือเสียสมดุลและค่ายกลแตก
ในที่สุด
เมื่อเป็นเช่นนี้ผลของการต่อสู้ในครั้งนี้สำนักบู๊ตึ๊งที่นำโดย 7 นักพรตจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
เรียกได้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่เซียวอี้สามารถเอาชัยเหนือเหล่ายอดฝีมือของฝ่ายธรรมมะได้คนแล้วคนเล่า
เป็นที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
คงเกี่ยงไต้ซือจึงพูดขึ้นว่าอาตมาไม่ขอประลองกับจอมยุทธเซียวอี้หรอกแต่จะขอวัดกำลังภายในนิดหน่อย
ว่าแล้วคงเกี่ยงไต้ซือจึงรีบพุ่งเข้ามาแล้วฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยพลังพุ่งมาใส่เซียวอี้
เซียวอี้เมื่อเห็นดังนั้นจึงใช้มือทั้งสองข้างรวมพลังแล้วฟาดกลับไปจึงเป็นการปะทะพลังฝ่ามือระหว่างคงเกี่ยง ไต้ซือและเซียวอี้
เมื่อฝ่ามือของทั้งสองคนปะทะเข้าหากันกับเกิดคลื่นพลังอันมหาศาลที่กระจายทั่วบริเวณจอมยุทธ ณ ที่นั้นสัมผัสได้ทันทีว่ากำลังภายในของทั้งสองคนนี้มีการฝึกปรือ
ที่ลึกล้ำพิสดาร
แต่ไม่นานนักคงเกี่ยงไต้ซือและเซียวอี้
ก็ผ่อนกำลังภายในลงแล้วแยกพลังฝ่ามือออกจากกัน
คงเกี่ยงไต้ซือไม่ได้พูดอะไรมากเพียงแต่พนมมือแล้วพูดว่า “อามิตตาพุทธ”
แต่ในความรู้สึกตอนนี้ของคงเกี่ยงไต้ซือ
รู้ได้เพียงการสัมผัสพลังภายในว่าเซียวอี้
ผู้นี้มีพลังการฝึกปรือที่ลึกล้ำและกำลังภายในอันมหาศาลเรียกได้ว่าเหนือขั้นกว่าตนเอง อยู่ 3 ส่วนด้วยกัน
เจ้าสำนักเอี้ยเทียน จึงพูดขึ้นว่าบัดนี้
5 สำนักฝ่ายธรรมะ เหลือเพียงสำนักพยัคฆ์บินสำนักเดียวแล้ว
ในครั้งนี้ ถือว่าข้ากับเซียวอี้ไม่ได้เป็นศิษย์อาจารย์กันอีกแล้ว เพราะฉะนั้นข้าจะเข้าประลองกับเซียวอี้โดยที่ไม่มีเรื่องค้างคา
ใจกันอีก
เจ้าสำนักเอี้ยเทียนเมื่อพูดจบจึงชักกระบี่ขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วรีบหมุนตัวเข้าโจมตีอย่างรุนแรงทันทีใช้ออกด้วย
“เพลงกระบี่ปราบพยัคฆ์”
เซียวอี้เมื่อเห็นเพลงกระบี่ปราบพยัคฆ์ก็รู้ถึงทุกกระบวนท่าของวิชานี้เพราะตนเองนั้นก็ฝึกมาแล้วเช่นกันจึงไม่ยากที่จะนำชัยมาสู่ตนเอง
เซียวอี้จึงไม่รอช้าใช้ออกด้วยคำภีร์
เก้าบุปผาขั้นที่ 6 ซึ่งในขั้นนี้จะเป็นการเคลื่อนที่ ด้วยความเร็วแสง เร็วขนาดที่ว่า มองด้วยตาไม่เห็นเลยแม้แต่เงา
เมื่อใช้ออกเซียวอี้จึงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วพุ่งเข้าไปใกล้ตัวของเจ้าสำนักเอี้ยเทียนและเข้าสกัดจุดไว้ได้เป็นผลสำเร็จ
ทำให้เจ้าสำนักเอี้ยเทียนขยับตัวไม่ได้
เซียวอี้จึงทำการหยิบกระบี่ออกจากมือของเจ้าสำนักเอี้ยเทียนและทำการก้ม
คาราวะไป 1 ที
เซียวอี้จึงหยิบกระบี่แล้วเดินไปมอบให้กับหลินหลินที่ยืนอยู่หลินหลินจึงรับกระบี่จากเซียวอี้
จางต้าที่เห็นดังนั้นจึงรีบบอกให้หลินหลินแทงมันซะรีบแทงมันเดี๋ยวนี้เลย
หลินหลินเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็ลังเลใจอยู่นานจางต้าก็ยังตะโกนบอกให้แทงตลอดเวลา
จนจางต้าตระโกนเสียงดังขึ้น 1 ครั้ง
หลินหลินจึงตกใจพุ่งเข้าแทงเซียวอี้
กระบี่ถูกหน้าอกด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ
หลินหลินเมื่อรู้ตัวว่าแทงเซียวอี้ก็ตกใจ
ทำอะไรไม่ถูกตัวสั่นไปหมด
อินทรีปีกขาวและราชสีห์ลิ้นทองเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาช่วยเหลือเซียวอี้ทันที
จบตอนที่ 13
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย