ชมความงาม
พระปาลิไลยก์ วัดประตูสาร จังหวัดสุพรรณบุรี
มีนักวิชาการท่านหนึ่งสันนิษฐานว่าองค์นี้เป็นพระลาว ในช่วงสมัยรัชกาลที่3-5 เพราะมีนิ้วพระหัตถ์และพระบาทยาว อีกทั้งวัดนี้สร้างขึ้นในชุมชนของชาวลาวในสมัยก่อน สีจิตรกรรมที่เขียนมีสีฟ้า เป็นสีที่พึ่งจะเริ่มใช้ในงานจิตรกรรมไทยสมัยปลายรัชกาลที่3 (ฉะนั้นจึงไม่เก่าถึงอยุธยา)
พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์
แสดงเหตุการณ์เมื่อ พระพุทธเจ้าเจ้าเสด็จไปจำพรรษาในป่าโดยลำพังเพียงพระองค์เดียว ไม่มีพระภิกษุหรือใครอื่นตามเสด็จไปจำพรรษาอยู่ด้วยเลย
“ ปาลิไลยก์ “
เป็นชื่อของป่าที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของช้างโทนชื่อว่า ปาลิไลยกะ หรือ ปาลิไลยก์ ป่าแห่งนี้จึงได้นามตามช้างนี้ว่า ป่าปาลิไลยก์ คนไทยเราเรียกว่า ป่าปาเลไลยก์ หรือ ป่าเลไลยก์
มูลเหตุที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาที่ป่าปาลิไลยก์ เพราะทรงเบื่อหน่ายพระภิกษุที่เมืองโกสัมพีสองคณะ พิพาทและแตกสามัคคีกัน ถึงกับไม่ยอมลงโบสถ์ร่วมกัน เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบได้เสด็จมา ทรงระงับให้ปรองดองกัน แต่พระภิษุทั้งสองคณะก็ไม่เชื่อฟัง พระพุทธเจ้าจึงเสด็จหลีกไปจำพรรษาอยู่ในป่าดังกล่าว
ด้วยอำนาจพุทธบารมีและพระเมตตาของพระพุทธเจ้า ช้างชื่อปาลิไลยก์จึงได้เข้ามาอุปัฏฐาก เช้าขึ้นหาผลไม้ในป่ามาถวาย ตอนเย็นต้มน้ำร้อนถวายพระพุทธเจ้าด้วยวิธีกลิ้งก้อนหินที่เผาไฟให้ร้อนลงในแอ่งน้ำ ลิงตัวหนึ่งเห็นช้างปรนนิบัติถวายพระพุทธเจ้า ก็ได้นำรวงผึ้งมาถวายพระพุทธเจ้าบ้าง พระพุทธเจ้าปฏิเสธไม่ รับ ลิงจึงนำรวงผึ้งกลับมาพิจารณาดู เมื่อเห็นตัวอ่อนของผึ้ง จึงนำตัวอ่อนออกหมดแล้วนำแต่รวงผึ้งที่มีแต่น้ำหวานเข้าไปถวายใหม่ คราวนี้พระพุทธเจ้าทรงรับแล้วฉัน ลิงแอบดูอยู่บนต้นไม้ เห็นพระพุทธเจ้าทรงฉันรวงผึ้งของตน ก็เกิดปีติดีใจ กระโดดโลดเต้นบนกิ่งไม้ จนพลัดตกลงมาถูกตอไม้แหลมเสียบทะลุจากทวารถึงปาก สิ้นชีวิตทันใด ด้วยกุศลเจตนา ทำให้ไปจุติเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดางดึงส์
( เหตุนี้จึงเกิดรูปแบบของพระพุทธรูปปางปาลิไลย์ พระหัตถ์หนึ่งจะหงายขึ้น แสดงถึงการรับน้ำจากช้างปาลิไลยก์ อีกพระหัตถ์คว่ำลง แสดงถึงการปฏิเสธการรับรวงผึ้งที่มีตัวอ่อนจากลิง )
เมื่อออกพรรษา พระภิกษุที่แตกกันเป็นสองฝ่ายยอมสามัคคีกันเพราะชาว บ้านไม่ยอมทำบุญ
ใส่บาตรให้ ได้ส่งผู้แทนไปกราบทูลพระพุทธเจ้าเสด็จกลับเข้าเมือง ช้างปาลิไลยก์อาลัยในพระพุทธเจ้า ได้เดินตามพระพุทธเจ้าออกจากป่า ทำท่าจะตามเข้าไปในเมืองด้วย พระพุทธเจ้าจึงหันพระพักตร์ไปตรัสบอกช้างว่า
"ปาลิไลยก์ ถิ่นของเธอหมดแค่นี้ แต่นี้ไปเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ ซึ่งเป็นภัยต่อสัตว์เดรัจฉานเช่นเธอ เธอไปด้วยไม่ได้หรอก" เมื่อพระพุทธเจ้าเดินลับสายตาไป ช้างปาลิไลยก์ก็สิ้นใจตาย ด้วยจิตที่เป็นกุศล ทำให้ไปจุติเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดางดึงส์
ไดอารี่อาร์ทฮิส บอกเล่าเรื่องราว ผ่านงานศิลปกรรม
ฝากติดตามกันด้วยนะครับ^^
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
