6 ม.ค. 2021 เวลา 17:57 • ประวัติศาสตร์
กรุงเทพฯ ที่ใช้คติเทพคนละองค์
ถ้ายังพอจำวิชาประวัติศาสตร์กันได้ เราจะพอจำกันได้ว่ากรุงเทพมหานครถูกสร้างขึ้นจากความพยายามทำให้เป็นเหมือน”เมื่อครั้งบ้านเมืองดี” ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยกลุ่มชนชั้นนำใหม่ที่เป็นผู้คนในอยุธยา
กรุงศรีอยุธยา ถูกสถาปนาขึ้นโดย “สมเด็จพระรามาธิบดี” ที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) โดยใช้ชื่อว่า “กรุงเทพทวารวดีศรีอโยธยา” หรือก็คือเมืองอยุธยาในวรรณกรรมรามเกียรติ์ ผู้มีเผ่าพงศ์ของพระราม ในฐานะอวตารของพระนารายณ์ เป็นกษัตริย์ปกครอง
คติเหล่านี้ถูกส่งผ่านจากศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไวศณพนิกาย ในเมืองพระนครหลวงสู่อยุธยา และเข้มข้นขึ้นเมื่ออยุธยาตีเมืองนครหลวงแตก แล้วขนสรรพปัญญาต่างๆ มาปรับใช้ในอยุธยาเอง โดยเฉพาะการยกสถานะของกษัตริย์ให้อยู่ในฐานะสมมติเทพของพราหมณ์ มีอำนาจสิทธิ์ขาดทั้งหมดในราชอาณาจักร และอยู่ในฐานะของเจ้าชีวิตของราษฎรทุกคนในบังคับ ในขณะที่พุทธศาสนากลับเป็น soft power ที่ถูกใช้กับราษฎร และอุปถัมภ์โดยชนชั้นนำขนานกันไปกับคติพราหมณ์
สถาปัตยกรรมต่างๆ ในอยุธยา แม้ในวัดของพระพุทธศาสนา จึงรับเอาคติพราหมณ์มาปรับใช้อย่างเข้มแข็ง เช่น วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม ที่วางผังโดยมีพระปรางค์ อันเป็นศิลปกรรมที่ถูกถ่ายทอดมาจากศิวลึงค์เป็นประธาน
ก่อนปี 2310 ระบบควบคุมไพร่ในอยุธยาคลายความเขม็งเกลียวลงอย่างชัดเจนเห็นได้จากการเกิดกบฏ การรัฐประหารมากกว่า 10 ครั้งในช่วงร้อยปีให้หลัง สถานะกษัตริย์ในฐานะสมมติเทพไม่ได้ถูกเคารพเหมือนแต่ก่อน พิธีกรรมของศาสนาพราหมณ์ที่เคยใช้ควบคุมอย่างได้ผล เช่น การถือน้ำ กลับไม่ประสบความสำเร็จในช่วงก่อนกรุงแตกอีกเลย
ภายหลังปี 2310 จนถึง 2325 ชนชั้นนำในสมัยกรุงธนบุรี-รัตนโกสินทร์ รับรู้ถึงฐานะของสมมติเทพที่ย่อหย่อนประสิทธิภาพลง จึงพยายามปรับเปลี่ยนสถานะของความเป็นเทพที่เด็ดขาดอย่างคติพราหมณ์ลง แล้วใช้คติเทพของพุทธเข้ามาแทนที่
การตั้งกรุงเทพฯ จึงถูกสถาปนาโดยใช้คติของพระอินทร์ เทพผู้พิทักษ์พุทธศาสนา มากกว่าพระราม อวตารแห่งพระนารายณ์มาใช้สร้างบ้านเมือง เช่น ชื่อของกรุงเทพฯ ในสมัยรัชกาลที่ 1 อย่าง “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” หรือคติการใช้พระพุทธรูปเป็นแกนกลางของผังวัด อย่างวัดสุทัศน์ แทนการใช้พระปรางค์ตามจารีตเดิม
รวมถึงการปกครองที่ผู้ปกครองเลือกใช้ soft power อย่างพุทธศาสนา และแสดงตนในบทบาทพระโพธิสัตว์มากกว่าการเป็นอวตารแห่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ ในการปกครองคนในบังคับ จนถึงการนำคติบางส่วนกลับมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ก่อนจะเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475
สรุป: แม้ดูในมิติหนึ่งกรุงเทพฯ จะพยายามถ่ายแบบของอยุธยาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชนชนนำของกรุงเทพฯ เอง ก็เลือกที่จะปรับปรุงหลายๆ อย่างให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น อย่างคติการปกครองหรือการสร้างเมืองก็ตามที
โฆษณา