7 ม.ค. 2021 เวลา 12:28 • ไลฟ์สไตล์
โสด จน แก่
เช้าวันนี้ ไล่อ่านบทความจากเฟสบุ๊ก มีประเด็นนึงน่าสนใจ เป็นผลสำรวจที่เค้าบอกว่า เทรนด์ โสด จน แก่ กำลังฮิตในหมู่ผู้หญิงไทย ต้องขอบอกว่า คงไม่ได้ตั้งใจจะฮิตมังคะ 555
บทความบอกว่า ไปสำรวจมาละ ผู้หญิงไทยเยอะกว่าผู้ชาย เป็นล้านกว่าคน ดังนั้น จึงมีสาวไทยเป็นโสดกันเยอะ แล้วหลายคน ไม่ได้เตรียมการเรื่องเงินทองไว้ให้ดี พอเข้าสู่ช่วงผู้สูงวัย เรี่ยวแรงทำงานไม่เหลือแหล่ว ก็ต้องเอาเงินเก็บมาเลี้ยงดูตัวเอง เลยกลายเป็นคอนเซป โสด จน แก่ !!!
ดิชั้นว่า ประเด็นนี้ สำคัญนะ มันสะท้อนและส่งผลกระทบชิ่งไปชิ่งมาได้ในหลายมิติกันเลยทีเดียว เด๋วค่อยๆ เรียบเรียงความคิดแล้วนำเสนอแล้วกัน
1. ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาหนึ่ง อันนี้เรื่องจริง หลายคน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องการเก็บเงินมากเท่าไหร่นัก เฮ้ย เงินเดือนออก ใช้มันสิ กินเที่ยวให้สุดเหวี่ยง ไม่พอ กู้หนี้บัตรเครดิตมาใช้อี๊ก ไม่พอ ซื้อบ้าน ซื้อรถ แบบไปกู้แบงก์มาอี๊ก จนบางครั้งลืมนึกไปว่า หน้าที่ของพวกเราคือการเก็บเงินจริงๆ นะ เก็บให้ได้ซักก้อนนึงก่อนมั้ย แล้วถ้าจะซื้อบ้าน อีกส่วนถ้าไม่พอ ก็ค่อยกู้แบงก์ มันจะได้เหลือต้นน้อยๆ หน่อย แล้วต้องรีบโปะหนี้บ้านให้มันจบโดยเร็วที่สุด
เพราะอย่าลืม งานการที่ทำอยู่ ยุคนี้ ไม่มั่นคงแล้วทุกอาชีพ ( ข้าราชการก็เช่นกัน อะไรจะเกิดในอนาคต โลกยุคนี้เปลี่ยนเร็วมาก ) ฟันเฟิร์ม !!! มนุษย์เงินเดือนแบบข้าเก่าเต่าเลี้ยงสไตล์ญี่ปุ่น หาได้น้อยมากๆ แล้ว แล้วถ้าวันนึง จู่ๆ เกิดถูกปลดจากหน้าที่การงาน แล้วไม่มีเงินส่งบ้าน กับ รถ อีกต่อไป ทำไง ขายทอดตลาด ??? ดังนั้น การเก็บเงินให้ได้ และพยายามเก็บ โดยตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยออกไปทั้งหมด จึงเป็นสิ่งจำเป็น อย่างน้อย มันทำให้เราไม่เซไปกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เริ่มเก็บเงินเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น ( คอนโด บ้าน รถ เอาเข้าจริง ไม่ใช่ทรัพย์สินที่จะเปลี่ยนสภาพเป็นเงินสดได้คล่องขนาดนั้น แถมยังเป็นทรัพย์สินที่มีค่าเสื่อม คือซื้อมาร้อย ขายต่อเหลือห้าสิบอะไรแบบนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้น ยกเว้นคุณโชคดีไปได้ที่แบบทำเลทอง ) สรุป เริ่มเก็บเงินเสียตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งโสดและไม่โสดจ่ะ
2
2. ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสอง ดิชั้นยังคงสนับสนุนให้ทุกคนมีคู่นะคะ จะได้แต่ง ไม่ได้แต่ง หรือยังไงก็ตาม แต่ก็ยังสนับสนุน หลายคนเป็นสาวโสด หน้าที่การงานดี เพลินกับชีวิตไปเรื่อยๆ แต่ทุกคนแหล่ะ เชื่อสิ มันต้องมีมุมเหงา ตอนยังสาว ยังมีเรี่ยวแรงทำนั่นนี่ มันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ถ้าแก่ตัวลงไป แล้วยังโสด จะเกิดอะไรขึ้น
2.1 กรณีที่คุณมีพี่น้องเยอะ มีหลานเยอะ แล้วสนิทสนมรักใคร่กันดี อันนี้ โสดก็ได้ตามใจเลย เพราะอย่างน้อย คุณมั่นใจได้ว่า แก่แล้ว ก็อพยพไปตั้งถิ่นฐานกับหลานๆ กับพี่น้อง แล้วมันจะไม่เหงาด้วย ดูแลกันและกันไป ( แต่ก็ต้องมีเงินเก็บบ้างนะจ๊ะ ไม่มีเงิน หลานก็เมินนะยุคนี้ 555 )
2.2 กรณีที่คุณมีพี่น้องไม่เยอะ หลานก็ไม่เยอะ แล้วไม่สนิทกับหลานด้วย อันนี้ แนะนำให้รีบวางแผนชีวิตไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้ ว่า แก่แล้ว เราจะไปอยู่กับใคร ในกรณีที่เราโสด แต่มีเงิน
1
2.3 กรณีเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ ไม่มีพี่น้อง ไม่มีหลาน อันนี้ แนะนำให้รีบหาคู่ชีวิต ผลิตลูกหลาน หรือถ้าอยากโสด ก็ต้องวางแผนชีวิตว่า แก่แล้ว เราจะไปอยู่ที่ไหน ถ้าเรามีเงิน
สองข้อแรกที่ขึ้นต้นมาว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เพราะสาวโสดหลายคน มักคิดว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องไกลตัว ไม่สำคัญเท่าไหร่ เด๋วแก่ตัวไป ไม่มีใครอยู่ด้วย เออ ไปซื้อบ้าน อยู่รวมกับเพื่อนๆ ที่มันแก่ๆ โสดๆ ด้วยกันกะด้ายยยย ถามจริง ชีวิตคนมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วลองคิดสิ อยู่รวมกันแต่กับเพื่อนที่แก่ๆ ไปด้วยกัน ใครมันจะดูแลใคร แล้วก็ต้องมีวันที่เพื่อนล้มหายตายจากกันไปทีละคนสองคน ท้ายสุด เราจะอยู่กับใครอีกล่ะ ??
ส่วนกรณีเรื่องการเก็บเงินอะไรแบบนั้น จริงๆ ก็แยกออกมาได้อีกสองเคส ถ้าเป็นเคสที่คุณมีมรดกจากพ่อแม่ คุณก็ไม่ต้องเครียดมากกับเรื่องเงินทอง แต่หลายคน มันไม่ได้มีมรดก ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง อันนี้ เตือนด้วยความหวังดี อย่าไปเพลินกับชีวิตมาก บางคนแบบว่า เฮ้ย ตอนนี้ รายได้ดี เงินเดือนสูง ใช้เพลิน ใครจะไปรู้อนาคต เกิดวันที่เราล้มป่วย กลายเป็นบุคคลทุพลภาพ ( มีคนรู้จักเป็นเคสแบบนี้เยอะ ) หรือจู่ๆ มีเรื่องที่แบบต้องจ่ายเงินงอกมาเป็นภาระกะทันหัน !!! เมื่อความไม่แน่นอนอยู่รอบตัวเต็มไปหมด เก็บเงินกันเถอะค่ะ
1
ดังนั้น อย่ามัวรอให้เจอสำนวนที่ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เพราะนั่นสะท้อนให้เห็นว่า คุณไม่ได้วางแผนอะไรกับชีวิตมาเลย แล้วพอสะดุดตอครั้งใหญ่เอาตอนแก่ ก็เกิดอาการ กลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง มันไม่สนุกนะคะ กับการมาเจอสารพัดปัญหารุมๆ ตอนที่เราไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอจะทำอะไรได้แล้ว
3. การหาคู่ การมีคู่ ดิชั้นรู้มันยากนะ แต่ในบางกรณี เรื่องแบบนี้ มันเป็นความจำเป็นเหมือนกันนะ เพราะถ้าคุณเข้าเกณฑ์ว่า เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ หรือมีพี่น้องน้อย ไม่สนิทกับหลาน เพื่อนก็ไม่เยอะ แล้วใจคอ คิดว่า จะอยู่คนเดียวอย่างแข็งแกร่งไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ ???
ปัจจุบัน เทคโนโลยีมากมายช่วยให้เราหาคู่ได้ง่ายขึ้น วันก่อนยังคุยกับเพื่อนต่างชาติคนนึง ที่แต่งงานเป็นรอบที่สามแล้วในวัยห้าสิบ ก็เจอจากเว็บหาคู่ นางพูดถูก นางบอกว่า ถ้าเรามัวแต่อยู่บ้าน แล้วรอให้เนื้อคู่มาเคาะประตูหน้าบ้าน มันจะเป็นไปได้มั้ยล่ะ ?? ดังนั้น เราต้องรู้จักโปรโมทตัวเอง และวิธีที่ง่ายสุดก็คือจากเว็บหาคู่ ( ของเพศที่สามก็มีนะยุคนี้ ) มันเป็นอะไรที่ตรงเป้า ตรงประเด็น และมีตัวเลือกเยอะ แต่วิธีนี้ คุณต้องเปิดใจกว้างหน่อยนะ หลายคนยังอคติกับวิธีนี้ แต่ดิชั้นมองว่า ชีวิตมีทางเลือกมากมาย แต่ต้องเปิดใจ ดิชั้นไม่อยากแบบว่า ไปเสียดายเอาตอนแก่ เอ๊ะ ทำไมตอนนั้นชั้นไม่ทำแบบนั้น แบบนี้ มัวแต่มีเงื่อนไขเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วพอตอนแก่ มาสะดุดตอโครม !!! โห เรา ปล่อยผ่านโอกาสมากมายให้หลุดลอยไปกับสายลม เพราะเงื่อนไขอะไรก็ไม่รู้ติงต๊อง 5555
4. มีคู่ดียังไง ??? เคยดูรายการสมาคมชมดาว สองแหม่ม ถามปิยะมาศ โมนยะกุล ไม่รู้เด็กรุ่นใหม่รู้จักป่าวนะ คือ ตอนนั้น นางมีข่าวว่า สามีที่อยู่กินกันมานาน ไปทำเด็กคนนึงท้อง ชีวิตรักที่กินเวลายาวนานหลายสิบปีจึงต้องพังลงในที่สุด สองแหม่มถามว่า ถ้าให้เลือก ยังอยากจะมีคู่มั้ย ?? นางบอกว่า มีค่ะ และแนะนำให้มี มีคู่มันดีกว่าอยู่ตัวคนเดียวเยอะเลย อย่างน้อย มันมีคู่คิด คู่ปรึกษา ( ที่สำคัญต้องได้คู่ชีวิตดีนะคะ )
5. สังคมไทยปัจจุบัน ยอมรับ ไม่เหมาะกับการมีลูกเลย อันนี้ พูดจริงนะ อาชญากรรมเยอะ หลักสูตรการศึกษาล้าสมัย มลพิษเพียบ ค่าครองชีพสูงเว่อร์ พ่อแม่หลายคนที่มีลูก มักต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเสมอ แต่ในความเป็นจริงของการพัฒนาความเป็นมนุษย์ เด็กไม่ต้องโตมาแบบเจอะไรที่ดีที่สุดตลอดก็ได้ ให้เด็กโตมา แบบ เจออะไรเว้าๆ แหว่งๆ มั่งในชีวิตก็ได้ จะได้รู้จักการแก้ปัญหา มีลูกแล้วเลี้ยงให้ดี อย่างน้อย ตอนเราแก่ แล้วคู่ชีวิตจากเราไป เราก็คงได้พึ่งพาลูกมั่ง ไม่ต้องพึ่งพาเงินทองจากลูกก็ได้ แต่อย่างน้อย ช่วยพาไปโรงพยาบาล ดูแลยามเจ็บไข้ และให้เราได้มีชีวิตที่ไม่เหงาจนเกินไป
6. แต่ถ้าคุณเป็นคนพี่น้องไม่เยอะ ไม่สนิทกับหลาน แล้วอยากโสด มันอาจจะมีบางอาชีพที่ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับความเหงา หรือ ไม่มีใครดูแลยามแก่ เช่น อาชีพครูบาอาจารย์ ที่ลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ( ต้องทำให้ลูกศิษย์รักด้วยนะ 555 ) เออ อันนี้ อาจพอฝากฝังอะไรได้บ้าง ในยามที่เราแก่ เจ็บไข้ได้ป่วย ก็อาจมีคนพาเราไปโรงพยาบาล หรือ อาชีพอะไรก็ได้ ที่ทำให้เราสร้างคุณูปการต่อประเทศ ต่อสังคม แล้วมีคนนับถือเราเยอะแยะ อันนี้ ก็ช่วยให้เราตอนแก่ ไม่สะดุดตอโครม แม้ว่า เราจะโสด ไม่มีลูกหลานก็ตาม แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น เราต้องมีเงินเก็บของเราเองด้วยนะจ๊ะ
สรุปแว่ ปีใหม่นี้ อยากให้ทุกคนวางแผนชีวิตไว้ให้ดีดี วางแผนไว้ตั้งแต่เริ่มเรียนจบได้ยิ่งดี หรือ มาวางแผนตอนนี้ ที่เรายังมีเรี่ยวแรงให้คิด มีเงินทองที่หามาได้ คือ เรื่องนี้ มันสำคัญจริงๆ นะ และเราต้องเพิ่มทางเลือกให้กับชีวิตไว้เยอะๆ อย่าคิดประมาณว่า อืมม์ โสด เด๋วตอนแก่ไปอยู่รวมกับเพื่อนๆ ที่แก่ด้วยกัน หรือ ไปซื้อคอนโดที่เค้าสร้างไว้สำหรับคนแก่ เพราะเอาเข้าจริง มนุษย์เราก็ต้องอยากอยู่กับครอบครัวของตัวเองไปจนแก่ตายอ่ะเนอะ ใครอยากจะไปอยู่รวมกับคนแปลกหน้ามั่งล่ะ ชีวิตจะไม่สะดุดชนตอตอนแก่แน่นอน ถ้าเริ่มเก็บตังค์เสียตั้งแต่วันนี้ และออกแบบชีวิตให้ดี ว่า เราอยากมีชีวิตแบบไหน อยู่กับใคร ตอนแก่ แบบไม่เศร้า ไม่เหงา ไม่อ้างว้างจนเกินไปนัก
แต่ถ้าไม่คิดวางแผนชีวิต ต่อไป ประเทศไทยก็จะเต็มไปด้วยมนุษย์ โสด จน แก่ เยอะแยะ แล้วมันก็จะทำให้ประเทศเราที่ยิ่งแย่อยู่แล้วตอนนี้ หยำเหยอะไปกันใหญ่ ไม่พูดมากแล้วกัน รู้แต่ผลกระทบในระดับประเทศมันจะเยอะเลยแหล่ะ ที่แน่ๆ ศักยภาพการแข่งขันในระดับเวทีนานาชาติ ด้อยลงทันที เพราะคนแก่แบบจนๆ น่ะ การสร้างผลผลิตอะไรให้ประเทศมันมีน้อยมากๆ ยังไม่นับรวมว่า ภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลคนแก่ ที่โสด และยากจน บางส่วนยังตกเป็นของรัฐอีกด้วยนะ จะมากมายมหาศาลขนาดไหนล่ะ
โฆษณา