7 ม.ค. 2021 เวลา 14:34 • ปรัชญา
เศรษฐีแปลว่า "ผู้ให้ได้"
ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่คิดถึงแต่คนอื่นก่อนเสมอ
1
ยายเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนที่ตากับยายอพยพย้ายถิ่นฐานจากจังหวัดสุรินทร์มาอยู่ที่บุรีรัมย์ใหม่ าเป็นคนแรกๆที่มาแผ้วทางป่าเพื่อตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ในสมัยก่อนใครทำได้เยอะก็มีที่มีทางเยอะ ทำให้ตาสามารถจับจองที่ดินได้ไกลสุดลูกหูลูกตา แต่เมื่อมีเพื่อนๆตาย้ายตามมาจากสุรินทร์ตา ก็แบ่งที่แบ่งทางให้เค้าเพื่อใช้ทำมาหากินและก่อร่างสร้างตัวจนเป็นหมู่บ้านโคกเกลา ที่ตั้งอยู่ริมทางถนนเส้น 324 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกมะขาม อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ได้จนถึงทุกวันนี้
ตอนเด็กๆ เราถูกเลี้ยงดูโดยยายอั้ว จันทร์งาม หญิงชราผู้ไม่เคยย้อท้อต่ออุปสรรคใดๆ เลยในชีวิต ยายเคยผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพจำในอดีตทำให้ยายรู้ซึ้งถึงคำว่า ไม่มี ความอดอยาก ความแน่นแค้นและภัยอันตรายที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งชีวิตที่ผ่านมา
ด้วยการที่เราถูกอบรมสั่งสอนมาโดยยาย ที่ค่อนข้างมีระเบียบวินัยในชีวิตค่อนข้างสูง ทุกๆวันยายจะไปทำสวน ดายหญ้า ปลูกผัก ผลผลิตที่ได้ก็เอาไปขายและแจกจ่ายชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ที่บ้านจึงเป็นที่รักของทุกคน ที่บ้านจึงมีแต่คำว่าพี่น้องและการแบ่งปัน มีอะไรก็คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ ไม่เคยอิจฉาริษยาใคร ทุกวันยายก็พาตักบาตร ไหว้พระทำบุญตั้งแต่เล็กๆ อ่านหนังสือธรรมะ คือเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มจำความได้ว่าต้องเป็นผู้ให้ ชีวิตนี้ก็เลยมีแต่คำว่าเสียสละกับแบ่งปัน คิดถึงแต่คนก่อนเสมอ
ตอนเด็กๆ เพื่อนๆจะพากันมาเล่น มาตั้งวงกินข้าว พากันหัดทำขนม ทำของหวาน กินเล่นอยู่ที่บ้านนับสิบๆคน ซึ่งยายก็ไม่เคยบ่นเคยว่ามีแต่สนับสนุนส่งเสริม จนทำให้เราทำอาหารเป็น ห่อข้าวต้มมัดได้ตั้งแต่ ป.3 ทำได้ก็แบ่งกันกินที่บ้านไม่เคยหวง ไม่เคยตระหนี่ขี้เหนียวอะไรเลย
พออายุ 15 ปี ยายก็เสีย แกป่วยด้วยโรคอัมพาตครึ่งตัว ตอนวาระสุดท้ายก่อนจะเสียแม่ก็เซ็นต์อนุมัติยินยอมให้ใช้ร่างกายเพื่อสอนนักศึกษาแพทย์อีกด้วย ไม่ว่าความรู้สึกจากการทดลองยาจะเจ็บปวดยังไงสุดท้ายแม่ก็ยอม เพราะคิดถึงแต่คนอื่นก่อนเสมอ
พูดถึงแม่ ผู้หญิงที่เสียสละให้คนอื่นก่อนเสมอ แม่เป็นคนรักพี่รักน้องมาก แม่ทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องดูแลทุกคนรวมถึงลูกๆหลานๆ ของป้า แม่เป็นคนเก่ง ฉลาด มีไหวพริบ สมบัติทุกชิ้นที่ยายมอบให้ แม่ก็ดูแลรักษาอย่างดีพร้อมๆกับการดูแลลุง ป้า ตาที่เป็นน้องยายด้วย คือญาติพี่น้องต่างพากันมาพึ่งพาแม่ แต่แม่ก็ไม่เคยปฏิเสธเลยซักครั้ง
เราเห็นแม่ทำงานจิตอาสามาตั้งแต่เด็ก ช่วยคนนู้นคนนี้เต็มไป แต่ก่อนแม่มีหน้าที่จดมิเตอร์ค่าน้ำประปาหมู่บ้าน เดินเก็บคา่น้ำ ซ่อมประปาแตก คอยเปิดปิดน้ำประปาให้คนทั้งหมู่บ้านใช้ทั้งเช้าและเย็น หลังๆ จึงเริ่มมีค่าตอบแทนให้บ้าง ซึ่งตอนมองตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว มันช่างไม่คุ้มเสียเลยกับเงิน 500 บาทต่อเดือนแล้วเวลาที่ต้องเสียสละมากถึงเพียงนี้ แม่เป็นหมอดินอาสา เป็นปราชญ์ชาวบ้าน เป็นทุกอย่างให้ชาวบ้านเสมอ
ภายใต้การเติบโตท่ามกลางความรักของคนในหมู่บ้านที่เรียกว่า สังคม มันหล่อหลอมให้เราเติบโตมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เราไม่เคยรู้สึกขาดอะไรไปจากชีวิต เพราะที่ผ่านมาเราเป็นผู้ให้ได้เสมอมา
มนุษย์จะแบ่งปันคนอื่นไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้มีมากพอ
#ความรักก็เช่นกัน#
โฆษณา