10 ม.ค. 2021 เวลา 13:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
MovieTalk หนังดีมูฟวี่ตีตรา’:
Last Letter จดหมายสุดท้าย...ฝากรักคืนใจ
(เทศกาลหนังอาทิตย์อุทัยของ...มูฟวี่)
เสน่ห์ของจดหมายคือ มันทำให้ระยะเวลา “รอคอย” มีคุณค่า และทำให้คำว่า “คิดถึง” มีความหมายอย่างแท้จริง
หลายชีวิตใน Last Letter ล้วนแต่มีบาดแผลในใจจากความรัก และการพลัดพราก
อายูมิ เด็กสาวที่สูญเสียแม่ไปจนไม่กล้าเปิดจดหมายฉบับสุดท้าย
ยูริ สาวลูกสองที่มีอดีตรักฝังใจจากรุ่นพี่สมัยมัธยม
และ เคียวชิโร่ นักเขียนนิยายรักที่ไม่เคยมูฟออนไปจากรักเก่าวัยเรียนไปได้เลย
ทั้งหมดเกี่ยวข้องกันผ่าน ‘จดหมาย’ ที่ส่งให้กันโดยมี มิซากิ ผู้จากไปเป็นจุดศูนย์กลาง
ชุนจิ อิวาอิ กลับมาทำหนังเกี่ยวข้องกับจดหมายอีกครั้งหลังจากที่เคยกำกับ Love Letter (1995) กับการถ่ายทอดเรื่องราวบาดแผลจากความรัก และการเยียวยาความรู้สึกผ่าน ‘จดหมาย’ กันอีกครั้ง ด้วยท่วงทำนองที่ซึมไปกับหนัง ไม่เร้าจนเกินพอดี หรือขยี้ให้สาแก่ใจ
หนังเติมเต็มในส่วนของความรู้สึกแบบเบสิค ๆ จนเรามองเห็นความงามในหลายสิ่งหลายอย่างจากวันเวลาในอดีต เพียงเราจะหยิบยกส่วนไหนมาคิดถึง
ในยุคที่ทุกคนสามารถส่งข้อความถึงกันผ่านไลน์ และสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะอยู่ซีกไหนของโลก แต่อิวาอิกลับเลือกให้แคแร็กเตอร์นำของเขา พากันส่งจดหมาย และรอคอยการตอบด้วยใจที่กระวนกระวาย เมื่อจดหมายมาถึงก็ได้เห็นความดีใจแกมตื่นเต้น
มันทำให้เราหวนกลับไปคิดถึงอดีต เมื่อครั้งที่เคยส่งจดหมาย ยิ่งถ้าคนรักอยู่ต่างประเทศห่างไกลคนละซีกโลก มันเป็นความรู้สึกรอคอยที่เนิ่นนาน เปิดตู้จดหมายหน้าประตูรั้วทุกวัน เฝ้ารอว่าเมื่อไรจะมาถึง ไม่เชื่อลองไปส่งจดหมายกันดูนะ
Last Letter เลือกใช้สิ่งที่ Out ไปแล้วอย่าง จดหมาย หรือ หนังสือ มาเป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้เราเห็นว่า ‘จดหมาย’ เชื่อมโยงคนแต่ละวัยเข้าหากัน แต่เมื่อมองลึกลงไป จริง ๆ ที่เชื่อมโยงมคือ ‘ตัวอักษร’ ที่ปรากฏอยู่บนกระดาษเขียนจดหมาย หรือ หน้ากระดาษพ็อคเก็ตบุ้คบางเล่มที่เลิกผลิตไปแล้วแต่มีคนกล่าวถึง และหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ใครหลายคนรู้สึกมีความหวังในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์
เราจึงได้เห็น ตัวละครสองรุ่น สองวัย คือรุ่นพ่อแม่ที่โตทันและผันผ่านการเขียนจดหมายได้มีโอกาสรำลึกถึงมันอีกครั้ง ส่วนรุ่นลูกที่โตมากับไลน์ที่ตอบกันทันทีทันใด ก็ได้ดื่มด่ำกับเสน่ห์ของจดหมายที่กว่าจะเดินทางมาถึงมาสร้างความรู้สึกร่วมให้แก่พวกเธอได้มากแค่ไหน
เหนือสิ่งอื่นใด ๆ จดหมาย หรือที่จริงคือ ตัวอักษร ยังคงทำหน้าที่ของมันในการถ่ายทอดความรู้สึกของคนเราให้คนอื่นได้รับรู้ หากแต่มันเป็นความในใจที่ส่งตรงถึงใครบางคนที่เฉพาะเจาะจง อาจจะต่างจากคนยุคนี้ที่มักจะลงแค็ปชั่นความในใจประกาศให้คนในโลกโซเชียลรับรู้อย่างเปิดเผย และคนที่ล่วงรู้ก็ไม่แม้แต่จะเคยเห็นหน้าค่าตาหรือรู้จักมักจี่
ทาคาโกะ มัตสึ ที่เคยร่วมงานกับอิวาอิใน April Story (1998) มารับบทเป็น ยูริ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบพอดิบพอดี ดูแล้วภาพของใครบางคนในอดีตที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ท่าทีที่แสดงออกล้วนยังชัดเจนเหมือนวันที่เคยมีกัน หากแต่ก็ทำให้ความเศร้าแฝงอยู่ในบางมุมของความคิดถึง
มาซาฮารุ ฟูกุยาม่า รับบทเป็น เคียวชิโร่ ชายหนุ่มที่มูฟออนจากรักครั้งเก่าไม่ได้ ช่างเหมือนภาพสะท้อนของใครบางคนแถวนี้ที่เหมือนจะไปต่อได้ แต่ก็เดินไปไม่ถึงไหน
ซุสุ ฮีโรเสะ และนานะ โมริ รับบทเป็น มิซากิ และยูริ ในวัยมัธยม พร้อมกับรับบทเป็น ลูกสาวของทั้งสองพี่น้อง ทำให้เราได้เห็นภาพเสมือนตัวแทนจากรุ่นสู่รุ่น อย่างกลมกลืน
ประทับตรา “หนังดีมูฟวี่ตีตรา” ไว้เลย ไม่ดู...ไม่ได้แล้ว
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เยียวยาคนเราให้เดินต่อไปได้คือ การบอกเล่าความในใจกับใครสักคน ร่วมแบ่งปันความทุกข์สุข หรือปลดปล่อยพันธนาการแห่งวันวาน เพื่อจะได้ก้าวเดินต่อไปตามเส้นทางสายใหม่โดยไม่มีอะไรค้างคาใจ
Last Letter (2020)
Directed: Shuji Iwai/Starring: Takako Matsu, Masaharu Fjukuyama, Suzu Hirose, Nana Mori
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Youtube, AsianWiki, Mongkol Major Mongkol Cinema
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: The Newpaper, movie.jorudan.co.jp, fashion-press.net, mainichi.jp, realsound.jp, lineblog.me
###หนังดีมูฟวี่ตีตรา
เป็นคอนเทนต์ใหม่ที่ผมอยากรีวิวหนังดี ๆ
ที่ดูแล้วรู้สึกให้อะไรแก่คนดู และเป็นหนังที่รู้สึกประทับใจครับ ไม่ยากเอาระบบดาว หรือคะแนนมากใช้ครับ เลยขอเป็นประทับตรา "หนังดี" แทนครับ
*** เห็นน้องยูริโพสต์รีวิวหนังญี่ปุ่น เลยคันไม้คันมือ
ขอรีวิวสักเรื่อง อยากรู้ด้วยว่า หนังญี่ปุ่นเหมือนกัน
แต่คนรีวิวคนละคน ในเพจเดียวกัน อัลกอริทึมชีกอมันจะบังเราไว้อีกรึเปล่า 😝😝😝😝
โฆษณา