คำตอบง่ายๆ ก็คือ กำแพงของภาษา หลายๆ คดีที่น่าสนใจ ลึกลับ แปลกประหลาด กลายเป็นเพียงข่าวท้องถิ่นของคนพื้นที่ และมีคนกลุ่มเล็กๆ ที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับมัน
.
ถ้าให้ยกตัวอย่างแบบเข้าใจง่ายก็คือ คดีน้องชมพู่ แม้จะเป็นคดีดังในไทย แต่ต่างประเทศเองก็ไม่คิดจะสนใจการเต้นของลุงพล อะไรประมาณนั้น
.
คดีที่จะเอามานำเสนอในครั้งนี้มาจากประเทศจีน หาข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่ข่าวและข้อมูลต่างๆ เป็นภาษาจีน และผมก็ไม่ถนัดภาษาจีนเสียด้วย แต่บอกได้เลยว่าคดีนี้ มีแต่ความเละเทะแน่นอน
.
.
"คดีชำแหละศพสุดสยองสองพันชิ้นแห่งมหาลัยหนานจิง"
.
****คำเตือน ถ้าต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปภาพของคดี โปรดใช้วิจารณญาณ เพราะรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มันน่ากลัวและสยดสยอง คนขวัญอ่อนควรหลีกเลี่ยง ผมเตือนแล้วนะ****
.
คดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีที่โหดเหี้ยมและโด่งดังอีกอันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของจีนเลยก็ว่าได้ แต่อย่างที่บอก ผมเชื่อว่าหลายๆ คน ไม่เคยได้รู้เรื่องราวของคดีนี้เพราะกำแพงของภาษา แต่จากการหาข้อมูลของผม เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่ามันเป็นยังไงบ้าง
.
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 มหาวิทยาลัยหนานจิง ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ในมหาลัยระดับประเทศ สร้างนักเรียนและบุคลากรดีๆ มากมาย สถานที่ๆ ไม่มีชื่อเสียงเสื่อมเสียและเป็นที่เรียนในฝันของใครหลายๆ คน
.
ณ ตอนเช้าของวันที่ 19 มกราคม สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนในเขตมหาลัยนั้นต้องอกสั่นขวัญแขวน
.
ได้มีแม่บ้าน คนงานกวาดถนนของมหาลัยคนหนึ่ง กำลังกลับบ้านพร้อมกับถุงขยะที่ใส่เนื้อที่เธอนำมาจากถังขยะของร้านอาหารในมหาลัย เพื่อจะนำเนื้อเศษๆ ที่ทางร้านไม่ใช้มากินต่อ ประหยัดค่าอาหาร
.
เมื่อถึงบ้าน เธอก็ได้จัดแจง เตรียมทำความสะอาดเนื้อที่ได้มา ในขณะที่กำลังล้างอยู๋ เธอได้สังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่ก้นถุงนั่นก็คือ นิ้วมือของคน 3 นิ้ว
.
จากถุงที่แม่บ้านคิดว่าเป็นเศษเนื้อหมู เนื้อไก่ กลายเป็นถุงใส่เนื้อคน และนี่ไม่ใช่ถุงเดียว หลังจากเกิดเรื่องนี้ ทางตำรวจก็ได้เข้ามาสืบสวนและค้นหารอบบริเวณมหาลัย ได้พบกับถุงในลักษณะนี้อีก 8 ถุง
.
ภายในถุงนั้นประกอบไปด้วยเนื้อมนุษย์ที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเหมือนเนื้อหมูเนื้อไก่ และยังถูกต้มให้สุก และยังมีชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์อยู่ในนั้น
.
ตรงหน้าประตูทางเข้า ได้มีการพบกับผ้าห่อที่ข้างในมีหัวของมนุษย์ ในลำคลองใกล้ๆ ก็มีการพบส่วนตัวของคน พร้อมกับเสื้อผ้าที่ผู้ตายเคยใส่ พับไว้ข้างๆ มีรอยเลือดเปื้อนอยู่ เสื้อผ้าดูเรียบร้อยมาก ไม่มีการเปรอะเปื้อนอย่างอื่นนอกจากเลือด และไม่มีการฉีกขาด แต่ไม่มีการพบชุดชั้นในของผู้ตาย
.
ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนต่างๆ ของร่างกายเธอ จะถูกนำไปทิ้งไว้หลายๆ จุด ในตอนเช้าของวันเกิดเหตุ แต่ไม่มีใครสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติ โดยรวมแล้วทางเจ้าหน้าที่ ได้ค้นหาและรวบรวมชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายมาได้ทั้งหมดกว่า 2000 ชิ้นส่วน
.
เป็นงานหนักของเจ้าหน้าที่อย่างมากที่ต้องนำเศษร่างกายมนุษย์ที่เป็นชิ้นๆ มาปะติดปะต่อเพื่อหาหลักฐาน เบาะแสเพิ่มเติมที่อาจจะโยงไปถึงคนร้าย
.
ในขณะที่กำลังต่อชิ้นส่วนร่างกายอยู่ เจ้าหน้าที่ก็ได้สังเกตุเห็นความผิดปกติบางอย่างว่า เครื่องในของเธอได้หายไป มีทั้งหมด 4 ส่วนหลักๆ ที่หายไปก็คือ หัวใจ ตับ ม้าม และส่วนหนึ่งของลำไส้
.
ชิ้นส่วนที่เหลือของเธอถูกต้มทั้งร่างกาย แม้กระทั่งหัว ดูเหมือนว่าการหั่นศพครั้งนี้ คนร้ายจะลงมือด้วยความเชี่ยวชาญในการตัดอย่างมาก และการจะทำแบบนี้ได้ ก็ต้องใช้เครื่องมือหลายอย่างเข้าช่วย
.
เมื่อศพถูกพบ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดต่อผู้ปกครองของเหล่านักศึกษาในมหาลัย เพื่อติดตามหาว่ามีใครหายตัวไปไหม จนไม่กี่วันต่อมา แม่ของเหยื่อก็ได้เข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ และระบุตัวว่าผู้ตายเป็นลูกสาวของเธอใช่ไหม
.
โชคดีในความโชคร้ายที่ยังสามารถระบุตัวผู้ตายกับแม่ของเธอ เพราะแม่ของเธอจำไฝบนใบหน้าที่ถูกต้มได้
.
ผู้ตายชื่อว่า เตียว อ้ายฉิง (Diao Aiqing ถ้าเขียนคำอ่านผิดตรงนี้ยังไงบอกด้วยนะครับ) นักศึกษามหาลัยอายุ 19 ปี เป็นคนขี้อาย อยู่อย่างสันโดษ แต่เธอเป็นคนเรียนเก่ง
.
ในมหาลัยเธอไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่มีศัตรูหรือคนที่หมั่นไส้เธอเช่นกัน ซึ่งก่อนที่จะพบกับชิ้นส่วนศพ เธอได้หายตัวไปถึง 9 วัน
.
แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนเงียบๆ ชอบอยู่คนเดียว ทำให้คนที่เรียนในชั้นเดียวกันไม่ได้สังเกตุถึงความผิดปกตินี้เลย ซึ่งเราไม่สามารถระบุได้ว่า เธอเสียชีวิตวันไหน ในระหว่างที่เธอหายไปถึง 9 วันนี้ ได้มีบันทึกว่า เพื่อนในชั้นเรียนได้เห็นเธอเดินเตร่อยู่ในตลาดในคืนที่เธอหายตัวไป
.
หลังจากที่เรื่องนี้ได้ออกข่าว มันก็ได้กลายเป็นพาดหัวใหญ่ทันที ทำให้เหล่าตำรวจ นักสืบ ต้องตามจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ขั้นแรกก็คือการรวบรวมข้อมูลเลือดของเหล่านักศึกษาที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อนที่เรียนชั้นเดียวกับเธอ รวมไปถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ ซึ่งทางตำรวจก็ได้สืบสวนเรื่องราวนี้หนักมาก มีคนกว่าหมื่นคนที่ถูกตรวจสอบและสอบสวน ตลาดที่มีคนพบเห็นเธอก่อนหายตัวก็ถูกค้นทุกซอกทุกมุม
.
แต่เจ้าหน้าที่ ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรที่เป็นประโยชน์เลย จนคดีดังนี้ก็ได้เงียบไป
.
แล้วสรุป เกิดอะไรขึ้นกับเตียวกันแน่ ใครเป็นคนที่ลงมือสังหารโหดและชำแหละเธอออกเป็นพันชิ้นขนาดนั้น และทำไปทำไม?
.
อย่างที่บอกว่า คดีนี้เป็นคดีดัง เมื่อข้อมูลของคดีอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตแล้ว มันก็ได้แพร่กระจายไปทั่ว จนเกิดทฤษฏีต่างๆ มากมาย ชาวเน็ตก็ได้มาช่วยกันหาคำตอบ ซึ่งบางอันก็เป็นทฤษฏีที่น่าสนใจ บางอันก็เหมือนเพ้อๆ แปลกๆ ไปเลยก็มี
.
มีกระทู้นึงที่น่าสนใจ และข้อมูลค่อนข้างแน่นมาก ถ้าหากใครอยากอ่านเต็มๆ ตามไปได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ ซึ่งผมจะหยิบยกบางส่วนของทฤษฏีที่น่าสนใจมาให้อ่านกัน
.
ทฤษฏีที่ 1
เตียวถูกจับและถูกฆ่าโดยคนในมหาลัยที่กำลังทดลองเรื่องการปลูกถ่ายอวัยวะครั้งแรกของประเทศจีน และเตียวก็เป็นเหยื่อที่ดวงซวยโดยจับไป
.
ทฤษฏีที่ 2
เตียวได้เข้าไปซื้อซีดีเพลงเมทัลที่เกี่ยวกับซาตาน ในย่านตลาดที่เธอหายตัวไป และเข้าไปพบกับเจ้าของร้านที่คลั่งไคล้ในซาตานและเพลงเมทัล จนจับเธอมาฆ่า ทำพิธีกรรมเพื่อดูดซับพลังวิญญาณของเธอ
.
ทฤษฏีที่ 3
เตียวถูกฆ่าโดยฆาตกรต่อเนื่องกินคนโรคจิตที่อาจจะอยู่แถวนั้น เพราะช่วงนั้นได้มีข่าวฆาตกรรมต่อเนื่องแถวๆ นั้น หลายคดี
.
ทฤษฏีที่ 4
เตียวถูกฆ่าเพื่อเอาอวัยวะภายใน 4 ชิ้นส่วน ไปขายในตลาดมืด
.
ทฤษฏีที่ 5
เตียวถูกฆ่าโดยเพื่อนร่วมชั้นที่เธอเคยมีปากเสียงด้วย ตามความเชื่อของลัทธิของจื๊อกับการทำพิธีกรรมสาปวิญญาณไม่ให้ผุดให้เกิด
.
5 ทฤษฏีที่กล่าวมาข้างต้น บางอันก็มีความเป็นไปได้ แต่บางอันก็ดูแปลกๆ แต่มันก็เป็นเพียงทฤษฏี ไม่ใช่ความจริง ซึ่งผ่านมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว พวกคุณคงคิดว่า มันน่าจะต้องมีคนที่ตกเป็นผู้ต้องสัยสัยหลักแน่ๆ ใช่ไหม
.
ถ้าหากไปตามเรื่อง ตามหาข่าวในจีนจริงๆ ผมก็ได้พบว่า คดีนี้ถูกไขปริศนาเรียบร้อย แถมคนร้ายยังถูกจับด้วย โดยคนที่ถูกจับก็คือ ลี จี โชว
.
ลี จี โซว เป็นศาสตราจารย์ทางด้านการแพทย์ที่ได้รับการนับหน้าถือตาเป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในคนสำคัญของวงการแพทย์ในจีน แถมเขายังเป็นลูกชายของนักการเมืองระดับสูงในจีนอีกด้วย โดยในข่าวของจีนที่เขียนเป็นภาษาแมนดารินได้บันทึกไว้ว่า เขาได้รับสารภาพว่าฆ่าเตียวและหั่นเธอเป็นชิ้นๆ จริง แต่ต่อมา เขาก็ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ
.
และเขาก็ได้หนีออกนอกประเทศจีนไปยังสหรัฐอเมริกากับภรรยาของเขาหลังถูกปล่อยตัวทันที
.
ถ้าหากว่าข่าวนี้เชื่อถือได้ นั่นก็เท่ากับว่าคดีนี้ถูกปิดเรียบร้อย แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ข่าวบนโลกออนไลน์ที่ผมเจอเพียงแค่แหล่งข่าวเดียวเท่านั้น ผมจึงไม่อยากจะปักใจเชื่อข่าวนี้ว่าจริง หรือไม่จริงกันแน่
.
ถ้าหากมองดูดีๆ ถึงระบบยุติธรรมในจีนที่ค่อนข้างเน่าพอๆ กับบ้านเรา มันก็ฟังดูมีความเป็นไปได้ เพราะเขาเป็นศาสตราจารย์การแพทย์ ที่น่าจะมีทักษะในการผ่าตัด ทำให้การผ่าคนไม่ได้ยากเย็นอะไรสำหรับเขาเท่าไหร่
.
แต่นี่ก็เป็นเพียงแหล่งข่าวเดียวที่พบ ไม่มีหลักฐานหรือแหล่งอ้างอิงอะไรมารองรับ ไม่มีบทสัมภาษณ์คนร้ายหรือครอบครัวผู้ตาย มันเลยกลายเป็นว่า ยิ่งหาข้อมูลอัพเดทของข่าวนี้ ก็เหมือนกับเจอหลุมดำอยู่ตรงหน้า เป็นปริศนาว่า สรุปคดีนี้ถูกไข หรือยัง?
.
ถ้าหากว่าคุณลองค้นคำว่า Diao Aiching เป็นภาษาจีน (刁爱青) คุณจะเจอกับชื่อของศาสตราจารย์คนนี้ขึ้นมาพร้อมกับผลการค้นหา และจะมีเว็บไซต์ที่คุยเกี่ยวกับเรื่องคดีนี้เป็นภาษาจีน มีการตั้งทฤษฏีตั้งคำถามกัน
.
บ้างก็ว่าเขานี่แหละเป็นคนฆ่าเตียว เพราะต้องการทดลองทางการแพทย์กับเลือดของเธอ (เตียวมีกรุ๊ปเลือด RH ที่หายาก) หรือบ้างก็ว่าเตียวกับลี เป็นอดีตคู่รักกัน ซึ่งมันเป็นเพียงทฤษฏีและเป็นแค่ข่าวลือ เชื่อถืออะไรมากไม่ได้ ไม่มีหลักฐานอะไรมารองรับ
.
อาจจะเป็นไปได้ที่ว่า ลี จี โชว เป็นคนฆ่าเตียวจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่แพะรับบาปของคดีที่ยังหาคำตอบไม่ได้กว่า 20 ปีนี้
.
บอกตามตรงว่า การหาข้อมูลของคดีนี้ในแบบอัพเดท ค่อนข้างหายาก เพราะส่วนใหญ่แล้วข้อมูลจะเป็นภาษาจีน แต่ก็มีบ้างที่ถูกหยิบยกหัวข้อของคดีนี้มาพูดคุยกันในเว็บบอร์ดของฝรั่งอย่าง Reddit ซึ่งถ้าหากคุณผู้อ่านสนใจ สามารถไปหาอ่านเพิ่มเติมตามลิงค์ที่ผมแปะไว้ข้างล่างนี้ได้ (ภาษาอังกฤษล้วน)