23 ม.ค. 2021 เวลา 00:50 • ท่องเที่ยว
🏕 เที่ยวอุทยานแห่งชาติปางสีดาในช่วง Low Season ของที่นี้จะเป็นยังไงมาดูกัน.... 🦋
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเลยว่าเรามาเที่ยวในช่วงฤดูกาลไม่ใช่หน้า ผีเสื้อซึ่งช่วงที่เหมาะแกการไปชมผีเสื้อคงมีคนรีวิวค่อนข้างเยอะแล้ว ลองมาเที่ยวในช่วงใกล้หนาวกันดูบ้างว่า จะสู้แถบฝั่งโซนเหนือของบ้านเราได้หรือเปล่า
การเดินทางของเราเดินทางจาก นครราชสีมา - สระแก้ว โดยผ่านเส้น 304 วิ่งตรงไปที่ปราจีนบุรีเนื่องจากเราไม่ได้พูดคุยกันกับแฟนว่าจะไปเส้นทางไหน โดยส่วนตัวเราพอทราบคราวๆว่าจะมีอยู่เส้นทางหนึ่งไม่สามารถไปได้ โดยวิ่งข้ามเขาจากฝั่งนครราชสีมา ไปยังจุดชมวิว กม.5 ได้เลยแต่....ใน GPS นั้น ยังคงมีเส้นทางไปได้นั้นเอง
จับจากนครราชสีมา วิ่งมาสระแก้วจะมีให้เลือก2 ทางซึ่งทางที่วิ่งไม่ได้คือเส้นที่กากบาท ซึ่งจุดนี้จะไปโพล่ที่จุดชมวิว กม.5 ซึ่งเป็นจุดทางตันของรถบนอุทยานแห่งนี้ ถ้าวิ่งจากด้านล่างฝั่งสระแก้วขึ้นไปถือเป็นจุดสูงสุด
แต่เนื่องด้วยคนขับแฟนเราไม่ทราบก็ได้เดินทางไปเส้นดั่งกล่าวและได้ทักทวงกัน ระหว่างทางทำให้เสียเวลาการเดินทางไป โดยคืนแรกเราได้ไปพักในตัวเมืองสระแก้วก่อน 1 คืน ราคาไม่แรงมากแถมที่พักดี
ซึ่งตัวแฟนของเราเคยมาพักแล้วครั้งนึ่งเมื่อตอนมาวิ่งมาราธอนที่จังหวัดสระแก้ว บรรยากาศ ดีห้องกว้าง มีตั้งแต่ 350 ถึง 500 บาทต่อคืน เราเลยได้นอนคือ 400 บาทเพราะไม่ค่ำเหลือแค่ราคานี้ ใน 400 บาทห้องสะอาด มีครบทุกอย่าง ตามโรงแรมทั่วไป ตอนเช้าก็มีบุฟเฟต์อาหารเช้าปกติ อร่อยใช้ได้เลยค่ะ ☺️ ปล.ลืมถ่ายในห้อง ต้องขออภัยด้วยน๊า
พอตื่นเช้าเราก็มุงหน้าสูอุทยานแห่งชาติกันเลย เอาจริงๆร้อนมากเลยช่วงบ่ายๆ 🥵 ด้วยที่ว่าเรายังไม่ขึ้นเขาด้วยสภาพอากาศด้านล่างทั่วไปมากมีลานให้กางใกล้ๆศูนย์ด้วยล่ะ
คิดว่าตอนเย็นๆน่าจะอากาศดีเพราะต้นไม้เยอะมาก
มุงตรงไปถ่ายและเก็บหลักฐานว่ามาแล้วนะ 🤩
ห้องน้ำบริเวณศูนย์บริการสะอาดมากกก และหินตั้งโชว์แต่ละประเภทให้เรามาเรียนรู้
น้องกระรอกเผือกที่บริเวณลานกางเต็นท์ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวน้องเยอะมาก น่ารัก 🐿
นี้จะเป็นภาพของส่วนลานกางเต็นท์ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว คิดว่าเหมาะกับปลายฝนต้นหนาวนะเพราะบริเวณนี้มีล่องลอยของธารน้ำตกแต่มาหน้าหนาวหนาวนี้น้ำแห้งเลย แต่เราก็ไม่ได้หวังมาชมน้ำตกอยู่แล้วเพราะก่อนมาเราก็ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ไปบ้าง 🏕
โดยบริเวณนี้มีห้องน้ำทั้งหมด 3 โซน ถือว่าเยอะมาก สะอาดปลอดภัย
จะมีธารน้ำไหลบริเวณป้ายก่อนเดินเข้าไปเลย ถ้ามีน้ำคิดว่าสวยจริงๆเลยล่ะ ไปหารูปใน Google เราก็พบว่ามีจริงมีเด็กๆตัวเล็กๆเล่นน้ำกันด้วยเพราะไม่ลึก ☺️
หลังจากที่เราเดินชมลานด้านล่างรอเพื่อนๆอีกกลุ่มเดินทางตามมาถึง เราก็ตัดสินใจขับรถขึ้นไปลานกางเต็นท์ก่อนรอบนึ่ง จะบอกว่า ก่อนเรามาเราได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนแล้วว่า เส้นทางนั้น เจ้าหน้าที่ไม่แน่ะนำรถเก๋ง 🚗หรือโหลดต่ำ
เพราะไม่ได้ลาดยาง ทางไม่ดี และก็น้ำตกปางสีดาในช่วงหนาวนี้ก็ไม่มีน้ำแล้ว ส่วนผีเสื้อนั้น 🦋 ยังมีตลอดน๊าแต่ก็ไม่เยอะเท่าช่วงต้นเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่คนจะมาดูผีเสื้อโดยเฉพาะ
แต่เป้าหมายเราคืออยากมาช่วงหนาวดูสิจะมีอะไรหน้าสนใจบ้างเราไปกลางเดือนธันวาคมพอดี พอเดินทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ไปสักพัก เราจะเจอ น้ำตกปางสีดา และก็เลยไปสักนิด ก็จะเจอเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ขับไปอีกหน่อยถนนขาดเปลี่ยนเป็นดินแดง และมีด่านเช็คก่อนขึ้นเขาเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานสอบถามว่าเราทำการจองหรือยังพักแรมหรือไม่ เราก็แสดงหลักฐานปกติ 🚙
และที่สำคัญมีโป่งผีเสื้อตรงนี้ด้วยสำหรับใครที่ไม่ขึ้นไปข้างบนเราก็สามารถขับรถมาชมตรงบริเวณนี้ได้เลย น้องผีเสื้อก็จะบินเต็มไปหมด 🦋
เพียงรถแตะกับพื้นดินแดง สัญญาณโทรศัพท์มือถือก็ปลิวหายไป กับอากาศ 🤣 แต่เราทราบแล้วเพราะก่อนมา เจ้าหน้าที่แจ้งไว้แล้วว่าไม่มีสัญญาณมือถือ ข้างบนมีแต่โซลาเซลล์ ห้องน้ำและไฟห้องน้ำมีตลอด และเรากับแฟนเมื่อเจอสัญญาณเป็นบางช่วง เราก็รีบจอดเพื่อโทรคุย 😆 ติดต่อกับเพื่อนว่ามาถึงไหนแล้ว
เพราะเราต้องใช้เวลาขึ้นลงพอสมควรเพราะรถเราไม่ได้ยกขึ้นสูงมากกะบะบ้านๆทั่วไป ส่วนเพื่อนเราเป็นรถเก่งเราเลยต้องมารับขึ้นไปเพราะเส้นทางไม่เหมาะกับเก่งจริงๆ
เส้นทางขับพอลุยได้ถ้ามาในช่วงหน้าหนาว แต่ถ้ามาในช่วงฝน โอกาสติดโคลนสูงมาก และที่เส้นทางไม่ค่อยดีก็มีผลมาจาก รอยรถที่เคยติดเมื่อช่วงฝนเยอะมาก เจ้าหน้าที่ก็ดีมากค่ะจะเตือนเราไว้ก่อนเดินทางขึ้นมา มีแอบตกใจด้วยว่าเราขึ้นลง เพราะคนส่วนมากขึ้นไปรอบเดียว 🤣
เส้นทางราบด้านบน สลับชันเล็กๆบางช่วง
พอไปถึงที่นั่นเขาเรียกจุดกางเกงเต็นท์ห้วยน้ำเย็น บริเวณนั้นจะมีธารน้ำไหลผ่าน แต่เราไปไม่มีเลย ไม่ได้สนใจอะไร ลานกางเต็นท์ไม่มีจุดชมวิวอะไรเหมือนเราไปกางเต็นท์ อยู่ทามกลางป่าเขา อากาศเย็นมีบ้านพักเจ้าหน้าที่ ห้องน้ำหลายห้องสะอาดมาก. 🌲
ลานติดถนน อากาศเย็น
เต็นท์เรามีมา 2 เต็นท์ เราเป็นกลุ่มที่ 2 ที่เดินทางขึ้นมากาง
เราเองก็เดินทางไปถึง สถานที่ไม่ราบเรียบพื้นเอียงนิดหน่อย
ช่วงกลางวันค่อนข้างเย็นเลยล่ะ เราก็ไปกางทั้งหมด 2 เต็นท์
วันที่เราไป มีเกือบ 10 เต็นท์ได้แต่ละคนกระจัดกระจายอยู่คนละมุม. ส่วนเราเองอยู่ล่างๆ บ้างคนก็ชิดป่าไปเลยก็มี 🍃
พอกางได้สักพักเราก็รีบลงไปรับเพื่อนเพราะเราติดต่อกันไม่ได้ เดินทางขึ้นลง ใช้เวลามากพอสมควร
พอลงไปถึงไปรับเราก็ได้แวะที่น้ำตกปางสีดา ถึงแม้จะมีน้ำเพียงนิดก็ขอลงไปชมสักหน่อย น้ำตกอยู่ไม่ไกลเดินลงไปเพียง 300 เมตร อยู่ระหว่างทางวิ่งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปที่กางเต็นท์ทางผ่านพอดี
น้ำใสมาก เห็นดูน้ำน้อยแบบนั้น ลึกเหมือนกันนะคะ แล้วก็มีน้องปลาตัวน้อยๆ ให้ชม 🐟
ส่วนที่เราถ่ายเป็นด้านบนของน้ำตกที่ยังคงมีน้ำอยู่
น้ำด้านล่างที่ชมน้ำตก ก็เปลี่ยนเป็นน้ำหยดไปเลย. 🐠 😆
จากนั้นเราก็มุ่งหน้ากลับขึ้นไปพักที่ด้านบน น้ำของเต็มเข้าเต็นท์หมดเราก็ เดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิว กม.25 คือจุดสิ้นสุดเส้นทางรถ ที่ในแผนที่ GPS มีเส้นทางแต่ความจริงไม่มีเส้นทางไปต่อ 😅
จุดนี้จะมองเห็นสุดลูกหูลูกตา ภูเขาหลายลูกเรียงซ้อนกัน จากป้ายจะเขียนว่า “หุบเขาห้วยโสมง”
จะมีศาลาอยู่ 1 จุด
บริเวณนี้เราสามารถขึ้นมาได้ ตอนกลางวันเท่านั้น ถ้าค่ำหลังจากพระอาทิตย์ตกต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้นถึงจะมาได้ แต่ตอนเราไปสอบถามกะจะมา ดูดาวตอนกลางคืน แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่พามาเลยอด
เพราะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าลานกางเต็นท์ด้านบนเพียงคนเดียว เท่านั้น เราก็ต้องเคารพกฎ อดมาชมดาวบริเวณนี้เลย แต่เพียงแค่ตอนเย็นก็สวยมากๆแล้ว 🌲
แถวนี้เมื่อก่อนสามารถกางเต็นท์ตรงบริเวณนี้ได้ แต่ต่อมาก็ไม่อนุญาตให้กางเพราะมีช้างป่าออกมาประจำ เคยมีคนฝ่าฝืนกฎมาแอบกางตอนกลางคืน น้องก็โดนเตะตกผาไปพร้อมกับเต็นท์เลย เพราะฉะนั้นเราควรเคารพและเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ทุกครั้งจะดีที่สุดนะคะเมื่อเราเข้าป่า 🙏🏻
ขอถ่ายรูปสวิทกันนิดหน่อยแล้วกันเนอะ 🌻
ฝั่งขวามือที่บอกว่ามีเส้นทางก็นั้นแระค่ะมีหินตั้งบอกเป็นมรดก โลก เส้นทางขวามือเราเป็น ทางป่าๆหญ้าขึ้นเต็มเลย ไปไม่ได้พยายามหาข้อมูล ในอินเตอร์เน็ต บ้างก็ว่าเมื่อก่อนน่าจะเคยเป็นเส้นทาง แล้วเวียนคืนให้กับมรดกโลก เส้นทางน้ำท่วมขาด จนไม่สามารถใช้ได้ อย่าเผลอมาตาม GPS ทางนี้เชียวนะ
ขอถ่ายไว้หน่อยแล้วกัน 😆
รูปจากอินเตอร์เน็ตที่มีคนเคยถ่ายไว้น่าจะนานมากแล้ว จะเห็นว่าเป็นเส้นทางวิ่งเข้าป่า แต่ใน GPS มีถนนตัดผ่าน 😆
หลังจากที่เราทั้ง 4 คนนั่งชมพระอาทิตย์ที่ค่อยๆมืด พร้อมกับลมที่พัดเข้าหาจุดชมวิวตลอดเวลา ทำให้เราหนาวพอได้ ใครไปแนะนำเสื้อแขนยาวรับลมด้วยนะคะ
หลังจากเริ่มจะมืดเราได้รีบลงจากบริเวณที่จุดชมวิว เพราะระหว่างทางเราก็ไม่อยาก ให้มันค่ำจะอันตรายเข้าไปใหญ่เราไม่อยาก พบเจอพี่ใหญ่ประจำถิ่นออกมาทักทายเราสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เว้นจะเจอเจ้าถิ่นมาทักทายจริงๆค่ะ แต่เป็นน้องจิงจอก 🦊 กับน้องหมูป่า 🐗 น้องหมูป่าถ่ายไม่ทันค่ะ
ความโชคดีอีกอย่างคือ เรามีนกเงือกบินมาต้อนรับเราระหว่างทางไปที่จุดชมวิวด้วย อยากบอกว่าที่นี้มีนกเงือกให้เราชมด้วยนะ แต่ไม่คิดว่าจะเจอโดยบังเอิญ บินมาเกาะกิ่งไม้ด้านบนหัวระดับสายตาเราพอดี 🕊 ปลื้มมาก
หมาจิ้งจอก 🦊
ส่วนรูปนกเงือกเป็นรูปที่มีนักท่องเที่ยวที่นั้นถ่ายได้ที่จุดชมวิวที่นั้น เพราะฉะนั้นเวลานกบินผ่านพยายามมองดีๆค่ะ อาจเป็นนกเงือกบินอยู่ก็เป็นได้ 🕊
น้องนกเงือก
เรากลับมาถึงที่พัก 🌕 ตกดึกมาก็ไปเดินชมดาว เยอะมากเราสามารถ ล่าทางช้างเผือกได้สบายเลย แต่กล้องเราเป็น มิลเลอร์เลนส์ทำธรรมดา แต่ก็พยายามถ่ายมาฝากเพื่อนๆกันนะ 💫⭐️
รูปนี้พระจันทร์ขึ้นกำลังจะโพล่มาเต็มดวง พร้อมกับมีดาว
บริเวณที่เราอยู่จะมีต้นไม้ใหญ่หนาแน่น เราเลยไปตรงบริเวณลานด้านบน เลยเห็นชัดแบบนี้ค่ะ อากาศค่อนข้างหนาวเย็นในตอนกลางคืน วันนั้นเราไม่ได้นำที่วัดอุณหภูมิไปด้วย ตกดึกน่าจะราวๆ 12-14 องศาได้ค่ะวันนั้น แต่จะเริ่มมีลมแรงขึ้นเรื่อยๆ
น่าจะเป็นลมที่พัดมาจากฝั่งหน้าผา
ดาวเต็มไปหมดเลย 🌟
พอเช้ามาเราก็ได้ทำการตื่นชงกาแฟกับทานอาหารเช้าจากสิ่งที่เหลือเมื่อคืน ช่วงเวลาอาบน้ำในตอนเช้า น้ำในอ่างเย็นมาก 🥶
หลังจากนั้นเราก็เก็บข้าวของ ลงไปที่จุด เดินเส้นศึกษาธรรมชาติที่เราสามารถเดินเองได้
สภาพลุงโก้นักเดินทางในไทยและเพื่อนบ้านของเรายังเอาอยู่ 😂 เราต้องปิดถ้ายรถเพื่อกันฝุ่นอย่างที่เห็น น้องคลุกฝุ่นเลย 🤣
พอเราลงมาถึงด้านล่าง เส้นทางศึกษาธรรมชาติหัวใจดงพญาเย็น ด้วยความที่เรา ลงมาเราเลยใช้เวลาในการโทรคุยงานจนเกือบบ่ายสาม หลังจากที่ไม่มีสัญญาณมา 2 วัน
จากป้ายเจ้าหน้าที่ เขียนว่าให้ออกมาก่อน 16.00 น. เพราะสัตว์ป่าจะออกหากินในตอนเย็น จะอันตรายมาก เราเลยเดินไปถึงแค่จุดที่ 3 แล้วลงมาโพล่ที่โป่งผีเสื้อ ที่เราแวะแรกๆ แล้วเดินวนกลับมาขึ้นรถ
พอเราเดินทางเข้าไปอากาศเปลี่ยนเป็นชื้นๆเย็นๆ ตามชื่อเส้นทางเลยค่ะ ไปถึงบริเวณน้ำไหล คือช่วงนี้ไม่มีแล้ว ตามรูปแต่ด้วยความเย็นมากแล้วเรา ก็เดินทางกลับออกมา ถือว่าป่าจะทึบไปเรื่อยๆ ที่นี้สัตว์ป่าค่อนข้างเยอะ เดินที่นี้ต้องระมัดระวังระดับนึ่งเลย ลองมาเดินกันดูน๊าาา ☺️
หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับ รู้สึกว่าที่นี้หน้าหนาว ก็สามารถมาเที่ยวได้ อากาศดี มีสัตว์ป่าออกมาทักทายระหว่างเดินทาง รู้สึกประทับใจกับที่แห่งนี้มากและเกินความคาดหมายเรามาก ถ้าหนาวมาเยือนแล้วเราอยู่โซนนี้ ก็อยากแนะนำเข้ามาเยี่ยมชม ธรรมชาติสวยๆ ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่อื่นเลยนะ อยากให้มา กันเยอะๆนะ ☺️
📌ที่สงบ ไม่วุ่นวาย เจอสัตว์ป่ามากมาย อากาศเย็นไปจรหนาว ห้องน้ำสะอาดปลอดภัย มีไฟห้องน้ำตลอดเวลา ระบบไฟที่นั้น เป็นโซลาเซลล์
📌สัญญาณโทรศัพท์ไม่มีตั้งแต่ล้อแตะพื้นดินแดงที่ไม่มีราดยาง 🍃🚙🛵
📌เส้นทางลูกรัง สลับดินแดง เส้นทางมีหลุมค่อนข้างเยอะ ไม่แน่ะนำรถเก๋ง ส่วนมากเจ้าหน้าที่จะให้ใช้รถ กะบะ แต่ก็มีคนที่มาถึงแล้วอยากจะขึ้นไปชมจุดชมวิวสักครั้ง ก็มีเก๋งขึ้นมา ค่อยๆขับ แต่ส่วนตัวมาแล้วไม่แนะนำรถเก๋งจริงๆค่ะ สงสารใต้ท้องรถ 🍃🚙
📌เส้นทาง GPS : https://goo.gl/maps/LJm7qbQPgbsErXXy7
ที่อยู่
Pang Sida National Park
Tha Yaek, Mueang Sa Kaeo District, Sa Kaeo 27000
037 247 948
#ปักหมุดเที่ยว #เที่ยวไทย #ฉันอยากเที่ยว #บันทึกความทรงจำ 🌲🕊🐗🦊🌟
โฆษณา