Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Peng’s Cafe
•
ติดตาม
8 ม.ค. 2021 เวลา 07:43 • อาหาร
เปรี้ยวคือดีกว่า?
Peng’s Cafe
เปรี้ยวดีกว่าจริงหรือ?
นับตั้งแต่ใน ค.ศ. 1783 ที่มีความต้องการการบริโภคกาแฟในอเมริกามากขึ้น มีการนำเมล็ดกาแฟดิบมาส่งยังท่าเรือนิวยอร์ก ก่อนจะกระจายไปยังพ่อค้าขายปลีกทั่วประเทศ ผู้ริเริ่มการคั่วกาแฟในรูปแบบของตนเองและสร้างแบรนด์ขึ้นทำให้กาแฟมีความหลากหลายทั้งในด้านรสชาติและกลิ่น กระทั่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บรักษากาแฟที่ดีพอในช่วงศตวรรษที่ 19-20
จนมาถึงยุคที่มีเครื่องปรุงกาแฟแบบหยดที่มีตัวกรองถอดเปลี่ยนได้ในปี 1907 ซึ่งเครื่องปรุงกาแฟนี้ได้กลายเป็นพื้นฐานของเครื่องปรุงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ที่เราใช้กันในปัจจุบัน
.
นั่นคือส่วนหนึ่งจากหลายๆสิ่งที่ผมกำลังค้นหาว่า การคั่วกาแฟที่อยู่ในระดับกลางลงไปจนถึงอ่อนนั้น เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคใด...
แล้วก็ไม่พบ
.
แต่ที่พบนอกเหนือจากความเข้าใจผิดเรื่องกาแฟเปรี้ยวคือกาแฟไม่ดีเป็นกาแฟเก่าหรือบูดนั้น ก็คือความเชื่ออันได้รับมาจากความรู้ของผู้ดื่มกาแฟรสเปรี้ยว ที่กลายเป็นแอนตี้กาแฟขม ที่เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย (ทุกวันนี้ไม่รู้ว่ามากแค่ไหนแล้ว)
กลายเป็นว่า
“กาแฟไม่เปรี้ยว คือกาแฟที่ไม่ดี”
.
สืบจากประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่การคั่วกาแฟด้วยไฟ เปลี่ยนมาเป็นการให้รังสีความร้อน หรือความร้อนจากลมซึ่งให้การกระจายความร้อนที่ดีและทั่วถึง สม่ำเสมอกว่า กาแฟที่เหมาะกับการสกัดด้วยเครื่องเอสเปรสโซ่ ก็เห็นจะมีแต่กาแฟคั่วเข้ม ที่การคั่วมักจะได้ยินเสียงแคร็คจากเมล็ดถึงสองครั้ง (Second Crack)
นั่นคือความจริงที่บอกว่านับตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ยันกาแฟมาถึงเมืองสยามและเรารับประทานกันแบบโอเลี้ยง เราก็ดื่มแต่กาแฟเข้มๆ ขมๆ กันมาตลอด
กระทั่งวิธีการสกัดที่หลากหลาย รวมไปถึงเครื่องคั่วที่พัฒนาขึ้นถึงระดับโปรแกรมการคั่วเป็นโปรไฟล์ด้วยคอมพิวเตอร์ได้นั่นแหละ กาแฟแบบ Specialty ถึงได้ฤกษ์ถือกำเนิด
.
คนเมื่อได้เรียนคั่วก็จะได้ความรู้ใหม่ๆ คนดื่มเมื่อได้รับสารจากผู้ผ่านการเรียนคั่ว ก็จะได้ความรู้ชุดหนึ่งซึ่งตรงกันว่า เมล็ดกาแฟที่คั่วอ่อนหรืออยู่ในระดับไม่เกินกลางนั้น จะยังคงให้รสชาติเปรี้ยวในรูปแบบต่างๆ หรือมีรสอมหวาน(ดริปจะชัด) มีกลิ่นคล้ายผลไม้หรือสมุนไพรตามเอกลักษณ์ของสายพันธุ์หรือที่มาของแหล่งปลูก
ที่เหลือหลังจากนั้น ก็อยู่ที่ว่า พวกเขาเหล่านั้นจะมีมุมมองต่อเมล็ดกาแฟคั่วเข้มอย่างไร ในเมื่อตามหลักการคั่ว เมื่อให้ความร้อนเป็นระยะเวลานานขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นและรสในตัวดังกล่าวก็จะค่อยๆ หายไป เหลือรสขมและกลิ่นในโทนกาแฟหรือช็อกโกแลตไว้(แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต่างกัน)
ซึ่งส่วนหนึ่ง ศรัทธากาแฟคั่วอ่อนถึงกลาง จนเกิดความรู้สึกไม่ชอบ หรือแอนตี้กาแฟคั่วเข้มไปเลยก็มี เพราะมองว่ากาแฟคั่วเข้ม คือกาแฟรูปแบบเดิมๆในตลาดที่ทำให้รสชาติแท้จริงในเมล็ดเสียไป หรือพูดง่ายๆว่า
“เสียของ”
.
กาแฟคั่วเข้มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบ้านเรา จึงกลายเป็นกาแฟเสียของในสายตาของคนเหล่านี้ไป ซึ่งอันที่จริงแล้ว ผู้เขียนจะไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะความเชื่อ ความศรัทธาและรสนิยมมันคือสิทธิส่วนบุคคล
แต่ที่รู้สึก คือช่วงหลังมานี้ ได้เจอผู้ขายหลายๆคน พยายามโน้มน้าวให้ลูกค้าดื่มกาแฟเปรี้ยว
หากจะโน้มน้าวว่าเป็นกาแฟดีมีที่มาอย่างไร ก็พอเข้าใจได้ แต่กับคนที่ไม่ค่อยเข้าใจ คือมากกว่าการโน้มน้าว คือการใช้คำว่า
“ต้องฝึกกิน”
.
รสนิยมอันมาจากความชอบ หากพิจารณาย้อนกลับไปต้นทางของมัน ไม่ว่าจะเกิดจากความรู้หรือไม่ แต่เมื่อได้สัมผัสรับรสแล้วชอบ ก็คือความชอบ
ซึ่งความชอบที่ว่านั้น ก็คงจะไปกล่าวเชิงบังคับให้คนที่ไม่ชอบเหมือนตนเองหันมาชอบตามไม่ได้
ยิ่งใช้คำว่า “ฝึก” กับความชอบ ในสิ่งที่อาจไม่จำเป็นต้องฝึกหรือชอบตามด้วยแล้ว ผู้เขียนกลับรู้สึกว่ามันยิ่งไปกันใหญ่ เพราะกาแฟคั่วอ่อนไม่ได้จัดอยู่ในอาหาร 5 หมู่ ที่ทุกคนจำเป็นต้องทานให้ครบเพื่อสุขภาพที่ดี
.
ฉะนั้น กาแฟที่ดีสำหรับทุกคนไม่จำเป็นต้องเปรี้ยว แม้ผู้เขียนจะชื่นชอบกาแฟรสเปรี้ยวก็ตาม
#เป้งคาเฟ่
#pengscafe
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
silapa-mag.com
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย