9 ม.ค. 2021 เวลา 04:07 • กีฬา
เลอะเทอะ
จริงๆผมไม่อยากจะมาเขียนเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ เหมือนกับว่าผมจะต้องมานั่งให้กำลังใจ หรือจะต้องคอยมานั่งปกป้องบอสหรือนักเตะในทีมอยู่เป็นประจำเวลาที่ทีมแพ้
แต่จริงๆซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมานั่งปกป้องตะบี้ตะบันจนลืมหูลืมตาว่าคนนี้ฟอร์มตกแต่ปกป้องว่าดี คนนั้นฟอร์มดีแต่ทำไมถึงด่า
ผมจะพูดด้วยความเป็นกลางมากที่สุด เพราะนักเตะที่ผมอวยมาตลอดนั้นย้ายออกจากทีมไปเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะมาชนะวิลล่าในเกมเมื่อคืนนี้ ลิเวอร์พูลไม่พบกับชัยชนะมา 3 นัดติดต่อกัน เสมอ 2 และก็แพ้ 1
ซึ่งผมไม่ได้ซีเรียสและก็แปลกใจอะไรมากนัก เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่นักเตะจะฟอร์มตก ฤดูกาลก่อนลิเวอร์พูลเคยทำสิ่งที่ไม่เคยได้ทำมาก่อนคือชนะรัวๆและทิ้งห่างอย่างไม่เห็นฝุ่น
เป็นช่วงที่เจอร์เกน คล็อปป์ พีคสุดๆในการใช้แผน 4-3-3 มีนักเตะที่ฟอร์มเข้าฝักเกือบทุกตำแหน่ง ตัวสำรองเปลี่ยนลงมาก็ยิงได้ทั้งนั้น ทั้งชาคิรี่ อ๊อกเลด ลัลลาน่า โอริกี้ ไม่ว่าใครจะถูกเลือกมาให้ช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่าไหร่ คนนั้นจะลงมาเปลี่ยนเกมได้เสมอ
พูดแบบไม่ต้องอวยก็รู้ว่าไม่มีลิเวอร์พูลชุดไหนในประวัติศาสตร์แกร่งกว่าลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2019/2020 อีกแล้ว
ฤดูกาลถัดมาลิเวอร์พูลเสริมโชต้าเข้ามาช่วยในเกมรุก บวกด้วยนักเตะระดับโลกอย่างธิอาโก อัลคันทาร่า มาอีกคน
ไม่เสียนักเตะตัวหลัก แถมยังได้นักเตะเวิลด์คลาสเข้ามา แบบนี้ไม่ถูกยกให้เต็งหนึ่งในการลุ้นแชมป์ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วครับ
แต่ปัญหามันบังเกิดก็เมื่อเซ็นเตอร์ตัวหลักอย่างฟาน ไดจ์ค เจ็บยาว อีกทั้งโกเมซดันมาเจ็บไปอีกคน ลิเวอร์พูลไม่ได้เสียขบวนไปซะทีเดียว แต่เสียการตั้งเกมจากแผงหลังไปพอสมควร
เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค เปรียบเสมือนเพลเมกเกอร์คนที่ 2 ต่อจากเทรนท์ในตำแหน่งกอลหลัง เพราะเจ้าตัวมักจะมีลูกโยนยาวคิลเลอร์พาสเข้าไปทำประตูได้บ่อยๆ
แม้ว่าลิเวอร์พูลจะไม่ได้เสียประตูไปมากมาย แต่ก็เหมือนเสียก้อนหินในการผสมปูนที่จะต่อเติมบ้านให้แข็งแรงไปมากพอสมควร
ลูกทีมของเจอร์เกน คล็อปป์ หลุดเสมอหลายครั้งในเกมที่น่าจะชนะ ปัจจุยมีด้วยกันหลายอย่าง ทั้งฟอร์มการเล่นของมิดฟิลด์ ฟอร์มการเล่นของแนวรุก และบวกด้วยความลำเอียงของ VAR
ทุกอย่างสะสมก่อให้เกิดปัญหากลายเป็นทำให้ลิเวอร์พูลไม่ชนะในหลายๆเกมที่น่าจะชนะในฤดูกาลนี้
แต่สิ่งที่ผมได้ติดตามทางโลกโซเชียลในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่าไปเจอข้อความ(จากเพจอื่น)บอกว่า
"คล็อปป์ควรจะเปลี่ยนแผนการเล่น เพราะเขาจับทางได้หมดแล้ว"
"ขายคนนี้ ซื้อคนนั้น"
.
.
.
ผมไม่คิดว่าการที่ลิเวอร์พูลไม่ชนะมา 3 นัด จะทำให้อะไรหลายๆอย่างมันเลอะเทอะได้ขนาดนี้
ลองคิดดูนะครับ แผนการเล่นที่เจอร์เกน คล็อปป์ ปลูกฝังตั้งแต่ระดับเยาวชวนมาจนถึงชุดใหญ่ประสบความสำเร็จมากมายมาตั้ง 3 ปี แล้วกลับถูกตัดสินให้ควรจะเปลี่ยนแผนการเล่นในแค่ 3 นัดที่พลาด
เฮ้ยยย อะไรกันครับเนี่ย!!
อีกทั้งยังบอกว่านักเตะที่ฟอร์มตกก็สมควรจะถูกขายด้วย
ความคิดนี้มันชักจะเลอะเทอะกันไปใหญ่แล้ว
บางคนบอกว่าก็แผนนี้มันใช้มา 3 ปีกว่า ควรจะเปลี่ยนด้วยซ้ำ เพราะเขาจับทางได้หมดแล้ว
งั้นขอถามกลับไปว่าอะไรที่มันดีอยู่แล้วเราจะไปเปลี่ยนมันทำไม ?
เพราะหลายเกมที่เจอร์เกน คล็อปป์ลองใช้ 4-2-3-1 มันไม่เคยเวิร์คเลยสักครั้ง
อีกทั้งนักเตะที่นำเข้ามา ก็เพิ่อจะรองรับระบบ 4-3-3 กันทั้งนั้น จะให้เปลี่ยนเลยเพราะว่าไม่ชนะมา 3 นักติดคงตลกไปหน่อย
ถ้าคิดแบบนี้เราคงเปลี่ยนแผนการเล่นทุกครั้งที่ทีมแพ้เลยสิ
ผมไม่คิดว่าแผนการเล่นมันจะมีปัญหาขนาดนั้น สิ่งที่ผมเห็นก็คือนักเตะฟอร์มตกกันมากกว่า
ยกตัวอย่างเทรนท์เล่นในตำแหน่งแบ๊คขวา ก่อนหน้านี้แอสซิสต์กระจาย แต่เกมที่แพ้เซาท์ดันทำบอลเสีย 38 ครั้ง
แบบนี้ไม่ได้อยู่ที่แผนการเล่นนะครับ มันอยู่ที่ฟอร์มของเจ้าตัว เพราะลิเวอร์พูลก็เล่น 4-3-3 เหมือนเดิม เทรนท์ก็ยืนตำแหน่งเดิม
.
.
.
นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกจริงๆ แต่พออธิบายเยอะไปก็ดูเหมือนปกป้องทีมมากจนเกินไปอยู่ดี
ไม่อยากจะอธิบายอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะบางความคิดมันดูเลอะเทอะจนเกินไปจนต้องมาอธิบาย
ผมเชื่อว่าลิเวอร์พูลแค่ฟอร์มตกเฉยๆ อีกไม่นานเดี๋ยวก็คงกลับมา
หลายๆทีมอยากได้เจอร์เกน คล็อปป์ไปเป็นผู้จัดการทีม และในเมื่อเรามีโค้ชที่เก่งขนาดนี้ ถ้าไม่เชื่อในบอสแล้วคุณจะเชื่อใคร
โฆษณา