9 ม.ค. 2021 เวลา 04:47 • การ์ตูน
เรื่องที่ไม่ต้องรู้ก็ได้ของ Attack on Titan : ตัวตนที่สับสนของ ไรเนอร์ บราวน์
***มีการสปอยล์บางส่วนของเนื้อเรื่อง***
ถ้าเป็นคนที่เคยดูอะนิเมะหรืออ่านมังงะเรื่อง Attack on Titan แล้วละก็ คงจำกันได้ว่ามีตัวละครที่ชื่อว่าไรเนอร์ บราวน์ หรือในร่างไททันของเขาคือเจ้า “ไททันเกราะ” หรือใครจะเรียกว่าไททันกระสอบทรายก็ได้ หยอก ผมค้นพบความน่าสนใจของตัวละครตัวนี้หลังจากได้ดูอนิเมะ Attack on Titan The Final season เน้นว่าดูนะครับ เพราะไม่ใช่คนที่ตามอ่านมังงะเลยไม่รู้เรื่องหลังจาก EP 4 (EP ล่าสุด ณ ขณะที่เขียนเรื่องนี้) และการกลับมาดูอนิเมะตั้งแต่ Season 1 ใหม่อีกครั้ง ทำให้ผมเข้าใจและมองมิติของตัวละครตัวนี้ได้ลึกขึ้น
ไรเนอร์ บราวน์ เมื่อครั้งที่ดูอนิเมะที่ครั้งแรกนั้น ผมไม่มีความสนใจใยดีอะไรในตัวนายคนนี้เลย อารมณ์ว่าตอนนั้นยังคิดเลยว่าถ้าคนเขียนจะเขียนให้ใครโดนไททันจับกินต่อไป ไอ้เจ้านี่ต้องอยู่ในลิสแน่ๆ จนกระทั้งถึงจุดเฉลยว่าเขาคือหนึ่งในผู้ก่อการทำลายกำแพงมาเรียและตัวตนที่ซ่อนอยู่ของเขาคือไททันเกราะ อันนี้ทำให้เริ่มสนใจขึ้นมาบ้าง แต่ครั้นที่ยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขานั้นก็ไม่เข้าใจในมิติของตัวละครตัวนี้อยู่ดี แล้วผมเห็นอะไรบ้างหลังจากกลับมาเริ่มดูใหม่ตั้งแต่ต้น
ความจริงแล้วการกระทำและคำพูดของไรเนอร์ หรืออาจจะรวมถึงเบอร์โทลต์ที่มักจะตามติดกันไปในทุกสถานการณ์ ในฐานะสายลับถือว่าแนบเนียนมากแทบไม่มีพิรุธเลย แต่หลังรู้ความจริงแล้ว พอสังเกตดีๆ ทั้งสองคนมักจะพูดในแนวถามเอาข้อมูลหรือชี้นำตัวละครอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ของตัวเอง นั่นก็คือการสืบข่าวเรื่องพลังไททันตนอื่นในกำแพงและช่วงชิงมา จนกระทั่งเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ ไรเนอร์นี่แหละที่มักจะพูดหรือมาอาการแปลกๆ อยู่เสมอแม้แต่เบอร์โทลต์ยังเริ่มระแวงในตัวไรเนอร์
และตอนล่าสุดก็ได้เผยให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ไรเนอร์เติบโตขึ้นมาอย่างไร มีปมในใจอะไร แล้วอะไรที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเขา(ไปติดตามรายละเอียดกันในเนื้อเรื่อง) แต่เอาเป็นว่าไรเนอร์เรียกว่าเป็นตัวละครที่น่าสงสารคนหนึ่ง ไม่ต่างจากเอเรน เพียงแต่สิ่งที่ซับซ้อนกว่านั้น คือเขาเป็นคนที่ไม่รู้ว่าต้องยึดถืออะไรและต้องการการยอมรับในการมีตัวตนอยู่ เขาพยายามฝึกหนักเพื่อให้ได้รับการสืบทอดพลังไททัน แม้ว่าตามจริงแล้วคะแนนของเขาต่ำจนไม่น่าเป็นไปได้ แต่พอได้มาก็ดีใจได้เดี๋ยวเดียว กลับต้องมารู้ความจริงว่าตัวเองได้พลังมาเพราะถูกล็อบบี้จากเพื่อนผู้คะแนนสูงสุด เพราะเขาไม่ต้องการให้น้องชาย(ที่เป็นนักรบฝึกหัดเหมือนกัน)อายุสั้นจากการสืบทอดพลังไททัน แถมยังถูกเพื่อนคนนี้ช่วยชีวิตไว้อีก เขาจึงเริ่มสับสนในการมีอยู่ของตัวเอง ว่าควรจะเป็นใครและทำอะไรต่อ แต่เมื่อเดินทางมาถึงขนาดนี้แล้วภารกิจก็ต้องเดินต่อไป คงเป็นสิ่งเดียวที่ไรเนอร์ในตอนนั้นพอจะยึดถือเพื่อมีชีวิตต่อไปได้
1
การเป็นสปายไม่ว่ายังไงก็ต้องยึดภารกิจที่แท้จริงไว้ อย่าเข้าไปผูกพันหรือรู้สึกอะไรกับฝ่ายที่เรียกว่าศัตรู แต่บ่อยครั้งที่เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นว่าไรเนอร์โศกเศร้ากับการตายของเพื่อนในหน่วย เฮฮาและมีชีวิตชีวาไปกับเหล่าเพื่อนพ้องในกำแพง ราวกับว่าตัวตนของเขาถูกยอมรับอย่างแท้จริง แต่แล้วความจริงก็กระแทกหน้าเขาเต็มๆ อีกครั้งเมื่อได้เห็นเอเรนในร่างไททัน มันจึงทำให้เขาคิดได้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร
ใน season ที่ 2 ขณะที่เขาสามารถจับตัวเอเรนและยูมีร์มาได้ ในระหว่างที่ทั้ง 4 คนกำลังถกถามข้อมูลกัน ครั้งแรกที่ดูผมงง งงเหมือนเอเรนในตอนนั้นเลย ว่าพวกมึงพูดเรื่อง***อะไรกันวะ ไม่เข้าใจสถานการณ์เลยแม้แต่น้อย รวมไปประโยคคำพูดไรเนอร์และรีแอคของเบอร์โทลร์ด้วย แต่พอกลับมาดูอีกครั้ง กลับรู้สึกถึงความสับสนในตัวเองของไรเนอร์ได้อย่างดี ในภารกิจอันยาวนานที่ไม่มีวี่แววว่าจะสำเร็จ ความเกรงกลัวโทษที่ทำให้เพื่อนต้องตายและถูกช่วงชิงพลังไป และความผูกพันกับทีมสำรวจที่ก่อเกิดอยู่ในใจ มันสะท้อนออกมาเป็นคำพูดและการกระทำของเขาในหลายๆ ฉาก จนเอเรนในร่างไททันมาจุดประกายแห่งความหวังที่จะได้กลับบ้านเกิดของเขาขึ้นมา แต่พร้อมกันนั้นแอนนี่ก็ต้องถูกผนึกอยู่ในผลึก นั้นยิ่งทำให้เขาสับสนหนักขึ้นไปอีกว่าควรจะเอายังไง คำพูดและความทรงจำที่แสดงออกมาดูปะติดปะต่อแบบจับต้นชนปลายไม่ถูก แม้แต่เอเรนยังรับรู้ได้ว่าไรเนอร์เหมือนคนที่กำลังเสียสติและหลงลืมตัวตนของตัวเอง
ทุกสถานณ์ที่บีบคั้นทำให้เขาดำเนินแผนแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ทั้งครั้งที่ถล่มกำแพงมาเรียหรือตอนที่ชวนเอเรนออกไปนอกกำแพงและเผยตัวตนของตัวเองเอาดื้อๆ ล้วนมาจากความคิดของไรเนอร์ทั้งสิ้น ไรเนอร์เป็นพวกคิดแล้วทำเลยบางครั้งก็เวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้าง ตามแต่สถานการณ์ แต่เมื่อเขากลับมายังบ้านเกิดและได้เป็นนักรบต่อกรกับประเทศคู่อริสมใจ ซึ่งการรบที่มีแผนการวางไว้อยู่แล้วเขาอาจมั่นใจว่าคงปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ แต่เมื่อเจอกับสิ่งเหนือความคาดหมายก็ไม่วายที่เขาจะพลาดท่าเสียอย่างนั้น แสดงให้เห็นว่าแท้จริงความสามารถของเขาอาจไม่ได้เหมาะกับการเป็นไททันเสียจริงๆ แต่พลังใจที่อยากได้การยอมรับทำให้เขาฝืนที่จะทำตัวเข้มแข็งอยู่ทุกครั้งไป
แต่แล้วไรเนอร์ก็พบว่าชีวิตที่ได้กลับมาเป็นนักรบเต็มตัว ได้ต่อสู้เพื่อชาติ ได้รับการยอมรับจากแผ่นดินเกิดอย่างที่เขาเคยตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก มันกลับว่างเปล่า แม้ปากจะเล่าให้ครอบครัวฟังว่าชาวเกาะสวรรค์(คนในกำแพง) เป็นพวกปีศาจไร้มนุษยธรรม แต่ภาพที่สะท้อนในหัวเขามีแต่ความทรงจำที่ดีของเหล่าอดีตเพื่อนร่วมหน่วย เห็นได้ชัดว่าใจจริงของเขาก็มองเห็นเหล่าคนในกำแพงเป็นมนุษย์ เป็นเพื่อนผ่องชาวเอลเดียเฉกเช่นเดียวกันกับเขา เขาเริ่มแยกไม่ออกว่าตอนนี้ความตั้งใจของตัวเองคืออะไรกันแน่ เขาเป็นคนทรยศ เป็นนับรบผู้รักชาติ เป็นฆาตกรหรือเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่เติบโตขึ้นโดยแรงผลัดดันที่ต้องการถูกยอมรับ เขาไร้หลักยึดจนกระทั่งอยากจะปลิดชีวิตตัวเอง แต่แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่ช่วงเวลาของเขาอีกแล้ว เขาได้ทำสิ่งที่คิดว่าต้องทำไปหมดแล้ว ที่เหลือคือการส่งต่อให้คนรุ่นถัดไป ตัวตนของเขาในตอนนี้มันคงมีความหมายได้เพียงแค่นั้น
###
โฆษณา