9 ม.ค. 2021 เวลา 04:48 • หุ้น & เศรษฐกิจ
5 มุมมองที่ Top Traders คาดว่าจะเกิดขึ้นและส่งผลต่อตลาดการเงินในปี 2021
Reuters รวบรวมมุมมองของ Top Traders ในกลุ่ม investment banks และ asset managers ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและมีอิทธิพลต่อตลาดการเงินโลกในปี 2021
1
1. เงินดอลลาร์อ่อนค่า
การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็น Position ที่นักลงทุนหมู่มากต้องมีเป็นอันดับที่ 2 ข้อมูลจาก U.S. Commodity Futures Trading Commission แสดงให้เห็นว่ามี Net short dollar มูลค่า 30,000 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมซึ่งเป็น Net long ที่ 17,000 ล้านเหรียญ
เหตุผลเกิดจากเงินดอลลาร์ที่เพิ่มเข้าระบบตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 นอกจากนั้น Fed ยังปรับลดดอกเบี้ยแตะ 0% ทำให้ความน่าสนใจในการถือเงินดอลลาร์ลดลงเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่น ข้อมูลจากระหว่างปี 2003 ถึงปี 2018 พบ 5 รอบการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะอ่อนค่าประมาณ 8%-10% ต่อปี
ปี 2008 และ 2017 รอบอ่อนค่ากินเวลาประมาณ 1 ปี แต่ถ้าเป็นรอบใหญ่ก็สามารถกินเวลาไปถึง 3 ปี เช่น ปี 1984 ถึง 1984 และปี 2001 ถึง 2004
2. Emerging Market กลัมาอีกครั้ง
การค้าระหว่างประเทศฟื้นตัว ราคาโภคภัณฑ์ปรับขึ้น อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าสะท้อนการไหลเข้าลงทุนใน Emerging Market ของเม็ดเงินจากประเทศพัฒนาแล้ว
โดยเม็ดเงินลงทุนไม่ได้ไหลเข้าเพียงตลาดหุ้น แต่เข้าลงทุน(เก็งกำไร)ทั้งค่าเงินและตราสารหนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์เหล่านั้นต่ำเกินความเป็นจริง
แนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดปี 2021 แต่เมื่อใดก็ตามที่ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า เมื่อนั้นต้องรีบลุกออกจากโต๊ะให้ไว
1
3. ธนาคารกลางจัดหนักนโยบายการเงินต่อไป
ธนคารกลางประเทศที่สำคัญยังคงเพิ่มสภาพคล่องเข้าระบบต่อไป และคาดกันว่าธนาคารกลางหลัก 5 ประเทศ จะเพิ่มเงินเข้าระบบในปีนี้อีก 3 ล้านล้านเหรียญ ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วกว่า 80% จะอยู่ระดับต่ำกว่า 0% ซึ่งหลายสถาบันการเงินเริ่มแนะนำลดสัดส่วนกลุ่มตราสารหนี้ดังกล่าวเนื่องจากอัตราผลตอบแทนต่ำมาก อีกทั้งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้น
4. จุดเริ่มต้น ESG
COVID-19 เริ่มต้นกระแส ESG โดยดัชนีหุ้นกลุ่มความยั่งยืนกว่า 80% สร้างผลตอบแทนโดดเด่นกว่ากลุ่มที่ไม่ได้มีนโยบายลงทุนแบบนี้ (Non-ESG) และแน่นอนว่า 2 ใน 3 ของการลงทุนในกลุ่ม ESG ตกอยู่กับสินทรัพย์ประเภทหุ้น แต่ตราสารหนี้ที่ระดุมทุนภายใต้เงื่อนไขความยั่งยืนเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อปี 2020 และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนการออกตราสารหนี้กลุ่มนี้ ส่วนธนาคารกลางกำลังสนใจเข้าซื้อตราสารหนี้ในกลุ่มนี้
5. Biden ดันกลุ่มเทคฯ
Biden มาพร้อมนโยบายพาอเมริกากลับมาเป็นผู้นำโลกอีกครั้ง ซึ่งเทคโนโลยีกลุ่ม big data, 5G, artificial intelligence, electric vehicles, robotics และ cybersecurity เป็นสิ่งที่คู่แข่งสำคัญอย่างจีนกำลังแซงแล้ว ดังนั้นกลุ่มเหล่านี้อาจได้อานิสงส์จากนโยบายของ Biden
โฆษณา