10 ม.ค. 2021 เวลา 11:33 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง “คัมภีร์เก้าบุปผา”
ตอนที่ 14
ความเดิมตอนที่แล้ว
เซียวอี้สามารถเอาชัยเหนือเหล่ายอดฝีมือของฝ่ายธรรมมะได้ทั้งหมดสร้างความตกตะลึงให้บรรดาชาวยุทธเป็นอย่างมาก
แต่ในตอนที่เซียวอี้ยื่นกระบี่ให้หลินหลินเพื่อที่จะคืนให้กับเจ้าสำนักเอี้ยเทียนนั้น
หลินหลินก็ได้แทงเซียวอี้ที่หน้าอกด้านซ้ายจนได้รับบาดเจ็บ
อินทรีย์ปีกขาวและราชห์สีลิ้นทองต่างรีบเข้ามาช่วยเซียวอี้ในทันที
คงเกี่ยง ไต้ซือจึงเดินเข้ามาแล้วคลายจุดให้กับเจ้าสำนักเอี้ยเทียน แล้วพูดขึ้นว่า
วันนี้ 5 สำนักฝ่ายธรรมมะได้พ่ายแพ้ให้กับจอมยุทธเซียวอี้อย่างราบคาบ
หากพวกเราจะรุมทำร้ายพรรคมารอีก
จะได้ชื่อว่าฝ่ายธรรมมะได้อย่างไร
5 สำนักฝ่ายธรรมมะ เส้าหลิน บู๊ตึ้ง
สำนักมังกรฟ้า สำนักพยัคฆ์บิน
และสำนักหงส์อัคคี จึงได้เดินทางออกจาก
พรรคอสูรจันทรา
อินทรีย์ปีกขาวจึงรีบพาเซียวอี้ไปรักษาที่ห้องในทันที ส่วนราชห์สีลิ้นทองได้สั่งการให้เหล่าลูกศิษย์ที่เหลืออยู่เก็บซากศพของศิษย์ที่เสียชีวิตไปฝังให้เรียบร้อย
เตี่ยเมี่ยงที่รู้สึกเป็นห่วงเซียวอี้จึงไปคอยเฝ้าดูอาการของเซียวอี้อย่างใกล้ชิด
และคอยดูแลเป็นอย่างดี
2 วันผ่านไป
เซียวอี้หายจากอาการบาดเจ็บ
และกำลังภายในก็กลับมาคงที่แล้ว
อินทรีย์ปีกขาว ราชสีห์ลิ้นทอง
แมงมุมทมิฬดำ วานร 8 มือ
พร้อมด้วย 16 อาวุโส และเหล่าศิษย์ที่เหลือ
จึงคุกเข่าลงและก้มคำนับพร้อมพูดว่า
“คารวะท่านประมุข”
เซียวอี้ที่เห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า
นี่!พวกท่านทำอะไรกันเนี่ยรีบรุกขึ้นเถิด
อินทรีย์ปีกขาว จึงกล่าวขึ้นว่า หลายสิบปี
มานี้นับตั้งแต่ประมุขอึ้งเจียซุนหายสาบสูญ
ภายในพรรคเองก็มีแต่การแก่งแย่ง
ชิงอำนาจภายใน
สองพี่น้องรองประมุขพรรค
ต้าเหลียง ต้าจง เข้าครอบงำพรรค
ทำให้เหล่าบรรดาผู้อาวุโสต่างๆต่างพากัน
แยกตัวไปตามทางของตนเอง
วันนี้พรรคอสูรจันทรามีภัยร้ายแรงได้ท่านจอมยุทธเซียวอี้เข้าช่วยเหลือ
นับเป็นบุญวาสนายิ่งนัก
ตามประเพณีธรรมเนียมโบราณผู้ใดก็ตามที่เป็นวิชาลมปราณตะวันจันทราก็คือประมุขพรรค
เซียวอี้จึงบอกว่าเดิมทีข้ามิได้มีความตั้งใจที่จะฝึกลมปราณตะวันจันทราของพวกท่านเลยแต่ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับตอนที่ถูกขังอยู่ในถ้ำ
หากจะให้ข้าผู้เป็นฝ่ายธรรมะรับตำแหน่งในพรรคมารเกรงว่าคงไม่ได้ข้าขอปฏิเสธ!
ราชสีห์ลิ้นทองจึงกล่าวขึ้นว่าหากท่าน
ไม่รับตำแหน่งนี้ เกรงว่าต่อไปในอนาคตพรรคอสูรจันทราก็คงจะต้องแตกแยกอีกเป็นแน่แท้
วานร 8 มือ จึงคิดขึ้นได้แล้วพูดว่า
ท่านบอกว่าท่านเป็นฝ่ายธรรมะจะเข้าร่วมพรรคมารไม่ได้ใช่ไหม
ถ้าอย่างนั้นท่านก็ขึ้นเป็นประมุขพรรคแล้วเปลี่ยนพรรคมารของพวกเราให้เป็นพรรคในฝ่ายธรรมะเสียก็สิ้นเรื่องนิ
ด้วยการขอร้องของ 4 พญาผู้คุมกฎ
และ 16 อาวุโส และด้วยความเกรงอกเกรงใจของเซียวอี้จึงจำใจเข้ารับตำแหน่งประมุขพรรคอสูรจันทราในที่สุด
ภายหลังจากที่เซียวอี้เข้ารับตำแหน่งประมุขพรรคก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อพรรค
จากพรรคอสูรจันทรามาเป็น
“พรรคสุริยันจันทรา”
และยังได้มีการปรับโครงสร้างตำแหน่งภายในพรรคสุริยันจันทราทั้งหมด
โดยเริ่มจาก...
ประมุขพรรค
ทูตซ้าย ทูตขวา
4 ผู้คุมกฎ
อินทรีปีกขาว ราชสีห์ลิ้นทอง
แมงมุมทมิฬดำ วานร 8 มือ
16 อาวุโส แบ่งเป็น
8 อาวุโส สาขาตึกดารา
8 อาวุโส สาขาเต่าวิเศษ
5 หัวหน้ากองธง
กองธงหินผา กองธงวารี กองธงพายุ
กองธงอัคคี และกองธงอัสนี
เรียกได้ว่าเป็นการปรับโครงสร้างครั้ง
ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรรคสุริยันจันทรา
ทั้งนี้เซียวอี้ยังได้สั่งให้รวบรวมสมาชิก ศิษย์พรรคสุริยันจันทรา ที่กระจัดกระจายกันอยู่ทั่วทุกสารทิศ
ให้รวมกับเข้ามาอยู่ที่ส่วนกลางแต่เพียงอย่างเดียว จึงส่งผลให้มีกำลังของพรรคสุริยันจันทรา ถึง 30,000 คน
หลังจากนั้นเซียวอี้ยังมีคำสั่งหลังจากนี้อีก 1 เดือน เราจะเร่งกระจายกำลังกันออกตามหาอดีตประมุขพรรคอึ้งเจียซุน
และตามไล่ล่าศิษย์ทรยศพรรคสุริยันจันทรานั่นก็คือต้าเหลียงกับต้าจง
มาลงโทษให้ได้
เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วเซียวอี้
จึงสั่งการให้แบ่งศิษย์พรรคสุริยันจันทราออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ได้แก่
กลุ่มที่ 1 เซียวอี้ เตี่ยเมี่ยง ทูตซ้าย ทูตขวา
4 ผู้คุมกฎ และ 5 กองธง
จะไปตามหาตัวอดีตประมุขพรรค
กลุ่มที่ 2 แปดอาวุโสสาขาตึกดารา
อยู่รักษาการที่พรรคสุริยันจันทรา
กลุ่มที่ 3 แปดอาวุโสสาขาเต่าวิเศษ
ให้เร่งออกเดินทางตามล่าตัวศิษย์ทรยศพรรคสุริยันจันทรา ต้าเหลียง ต้าจง
เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้ง 3 กลุ่มใหญ่จึงออกเดินทางในทันที
จบตอนที 14
โฆษณา