11 ม.ค. 2021 เวลา 01:44 • ธุรกิจ
<< ค้นหาคำว่า แจ็ค หม่า ในจีน ผลการค้นหายอดนิยมคือ แจ็ค หม่า หนีออกนอกประเทศ >>
** โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน **
7
ช่วงนี้มีข่าวคราวการหายตัวของ แจ็ค หม่า อยู่ทั่วอินเตอร์เน็ต
ผมเลยค้นหาข้อมูลในจีนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าที่จีนเค้าว่ากันยังไง
ไปดูกันครับ
3
เมื่อค้นหาชื่อภาษาจีนของ แจ็ค หม่า นั่นคือคำว่า “马云” (หม่า หยุน)
ใน Baidu (ไป่ตู้ ) ซึ่งเป็น Search engine ที่นิยมมากที่สุดในประเทศจีน
แค่พิมพ์ชื่อก็มีผลค้นหาขึ้นคำแรกก็คือคำว่า “马云外逃” ซึ่งแปลว่า
"แจ็ค หม่า หนีออกนอกประเทศ” นั่นแปลว่าคำนี้ถูกค้นหาเยอะมาก
มีเป็นความไปได้สูงที่จะเป็นเรื่องจริง
7
เมื่อค้นหาชื่อ แจ็ค หม่า ผลค้นหายอดนิยมขึ้นมาว่า แจ็ค หม่า หนีออกนอกประเทศ
เมื่อเข้าไปดูในผลการค้นหา ก็ปรากฏภาพที่แคปหน้าจอบทสนทนาที่กล่าวถึงการหนีออกนอกประเทศจีนของ แจ็ค หม่า ในช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2020 ดังนี้:
1
********
A: เอาข่าวมาบอกท่านทั้งสอง .. ตอนนี้ หม่า หยุน หนีออกไปแล้ว
.. จากฮ่องกงไปยังสิงคโปร์ .. เริ่มต้นที่ เซินเจิ้น ใช้เครื่องบินส่วนตัว
แล้วก็ไปฮ่องกง .. ใช้พาสปอร์ตประเทศ Saint Kitts
.
A: SAMR (State Administration for Market Regulation),
SAFE (State Administration of Foreign Exchange),
และคนจากภาคธนาคาร พวกนี้รวม สี่กระทรวง เข้ามาตรวจสอบ อาลีบาบา แล้ว ตอนนี้คนของทั้งสี่กระทรวงออกไปแล้ว .. เข้าสู่กระบวนการสอบปากคำต่อไป
.
B: พาสปอร์ตประเทศ Saint Kitts นี่มันเตรียมไว้ให้พวกคนใหญ่คนโตโดยเฉพาะจริงๆ
.
A: เพิ่งประชุมเสร็จ ขอแก้ข่าวเมื่อวานนี้นิดนึง .. เค้าออกจากเซินเจิ้นไปฮ่องกง
โดยใช้เรือส่วนตัว จากฮ่องกงไปสิงคโปร์ใช้พาสปอร์ต Saint Kitts
*********
12
บทสนทนาที่พูดถึงการออกนอกประเทศของ แจ็ค หม่า
จากข้อมูลเล่าว่า แจ็ค หม่า มีทรัพย์สินจำนวนมากลงทะเบียนอยู่ที่ประเทศ Saint Kitts and Nevis ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของราชอาณาจักรอังกฤษ ถึงแม้ว่า Saint Kitts and Nevis จะเข้าร่วม CRS (Common Reporting Standard) หรือกลุ่มประเทศที่แลกเปลียนข้อมูลทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ของภาครัฐในการเก็บภาษีจากทรัพย์สินนอกประเทศ
8
แต่ที่ Saint Kitts and Nevis มีการเก็บภาษีที่ต่ำหรือไม่เก็บเลย แจ็ค หม่า จึงสมัครเป็นพลเมืองของประเทศ และมีพาสปอร์ตของ Saint Kitts and Nevis เพื่อใช้เกณฑ์การจ่ายภาษีของ Saint Kitts โดยไม่ต้อง
รายงานทรัพย์สินกลับมาจ่ายภาษีในจีน
2
ดูอย่างนี้แล้ว แจ็ค คงมีแผนจะไม่กลับมาแล้วกระมัง
2
จากคำวิจารณ์ที่ แจ็ค หม่า กล่าวถึงสถาบันการเงินของจีน ทำให้ชะตาชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
วันที่ 10 ตุลาคม ปี 2020 เป็นวันที่ฝันร้ายของบริษัทอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่หลายรายเริ่มต้นขึ้น
15
จากนั้น แจ็ค หม่า ก็ถูกเรียกพบ
Ant Finance ถูกระงับ IPO
ตามด้วย อาลีบาบา ถูกตรวจสอบเรื่องการผูกขาดทางการค้า
6
แต่เท่านั้นยังไม่พอ วันที่ 15 ธันวาคม ผู้อำนวยการหน่วยงานเสถียรภาพทางการเงินของธนาคารกลางจีน นาย ซุน เทียน ฉี 孙天琦 ได้แถลงการวิจารณ์ การฝากเงินและปล่อยกู้ออนไลน์ว่า เป็น “คนไม่มีใบขับขี่” กำลังทำกิจกรรมที่ผิดกฏหมาย จะต้องถูกหน่วยงานภาครัฐควบคุม
8
ภายใน 3 วันหลังจากนั้น Alipay ก็ได้ปรับการฝากเงินออนไลน์ทุกรูปแบบ
ความซวยลามไปถึง Tencent, JD, Baidu, Didi และทุกแพลตฟอร์มที่มีบริการแบบเดียวกันและ ธนาคารหลายแห่งก็ได้ถอนตัวออกจากการแพลตฟอร์ม Alipay
10
ที่น่าสนใจคือ ธนาคารที่มาร่วมปล่อยกู้ผ่านแพลตฟอร์ออนไลน์เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นธนาคารเล็กๆ ที่มีระดับการประเมินความเสี่ยงที่ค่อนข้างแย่ จึงเอาเงินฝากมาปล่อยผ่านกู้โดยมีระบบประเมินความเสี่ยงของ Alipay เป็นตัวช่วย
14
ยกตัวอย่างเช่น ธนาคาร อี้เหลียน เมืองจี๋หลิน ที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งในปี 2017
ขาดทุนถึง 149 ล้านหยวนในปี 2018 แต่หลังจากเข้าร่วมปล่อยกู้ในแพลตฟอร์มออนไลน์ กลับมีกำไรในปี 2019 ถึง 153 ล้านหยวน และมีเงินฝากเพิ่มจาก 8,600 ล้านเป็น 23,600 ล้านหยวน
การปล่อยกู้ออนไลน์จึงกลายมาเป็นเกมของ Online Traffic ใครมีคนเข้าเยอะชนะ
15
จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ แจ็ค หม่า มีพฤติกรรมหรือกล่าวคำที่ระคายเคืองรัฐบาลจีน เนื่องจากเขาเป็นคนที่ชอบแสดงออก และมีลีลาการพูดที่ฉะฉาน ประกอบกับอาณาจักรของอาลีบาบาก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้ แจ็ค ลำพองและไม่ทันระวัง
11
ยกตัวอย่างเช่น
ในปี 2015 สำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์จีน ได้ออกรายงานว่า
Taobao ของอาลีบาบา มีสินค้าปลอมอยู่อย่างน้อย 37.25%
9
4 วันหลังจากนั้น ก็ได้มีการโพสต์ข้อความลงบน Weibo ของ Taobao ว่า
"Taobao ไม่ใช่ผู้บังคับกฏหมาย ไม่มีอำนาจไปจัดการกับพวกของปลอมนี้
งานพวกนี้เป็นหน้าที่ของ สำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์”
แถมสุดท้ายยังมีการฟ้องร้องหน่วยงานรัฐอีก จนสำนักอุตฯ ออกมาวิจารณ์อาลีบาบาว่า “อวดดี”
12
และในปี 2017 แจ็ค หม่า ก็ได้กล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นว่า
“到2036年,全球五大经济体可能就是美国、中国、欧洲、日本和阿里” แปลว่า "เมื่อถึงปี 2036 ห้าผู้นำเศรษฐกิจของโลกก็คือ อเมริกา, จีน, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และ อาลีบาบา"
ทำเอาผู้ถือหุ้นเสียวสันหลังกันเลยทีเดียว
13
ถ้าย้อนกลับมาพูดถึง Ant Finance ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน
แค่เพียงคำพูดวิจารณ์ระบบการเงินจีนว่าล้าหลังเท่านั้นหรือ
ที่เป็นเหตุให้รัฐบาลระงับการ IPO ของ Ant Finance
7
จริงๆแล้ว แพลตฟอร์มการเงินออนไลน์ของจีนกำลังแตะขอบเขตอันตรายแล้ว อดีตนายกเทศมนตรีของเมือง ฉงชิ่ง นาย หวาง ฉีฟาน 黃奇帆 ได้กล่าวไว้ว่า “เงินที่แพลตฟอร์มเอามาปล่อยกู้มาจากไหน? กู้มาจากแบงค์ก่อน จากนั้นออก ABS (Asset Backed Security ตราสารหนี้ที่มีสินทรัพย์อื่น ที่ไม่ใช้หลักประกันการจำนอง) มีเงินทุนแค่ 3,000 ล้าน แต่ปล่อยกู้อออกไป 300,000 ล้านหยวน เกินไปถึง 100 เท่า ”
19
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2020 หน่วยงานกำกับดูแลธนาคารและประกัน
(China Banking and Insurance Regulatory Commission)
ได้ออกกฏระเบียบใหม่สำหรับการปล่อยเงินกู้ร่วม (Syndicated loan)
ที่มีการทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ จะต้องมีเงินทุนปล่อยกู้ร่วมของส่วนบริษัทไม่ต่ำกว่า 30%
5
ถ้ารวมยอดปล่อยกู้ของ Ant Fnance ของสองตัวหลักคือ “Huabei และ Jiebei” (Huabei 花呗 คือบัตรเครดิตออนไลน์, Jiebei 借呗 คือ สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ) ทั้งหมดมียอดปล่อยกู้ 1.73 ล้านล้านหยวน ซึ่งถ้าต้องมีเงินทุนร่วมปล่อยกู้ 30% บริษัทจะต้องมีเงิน 0.54 ล้านล้านหยวน มากกว่าเงินทุนของบริษัทปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 0.036 ล้านล้านหยวนเยอะมาก
5
มองในมุมนี้ Ant finance กำลังใช้เงิน 36,200 ล้าน Leverage เงินฝาก
1,730,000 ล้านหยวนของประชาชนจากธนาคารที่เข้ามาร่วมปล่อยกู้ในแพลตฟอร์ม หรือ มีเงินทุนเพียง 2% เท่านั้นเอง (Leverage 50x)
4
ลองนึกภาพว่าถ้า Ant finance เข้าตลาด บริษัทจะมีส่วนของเงินทุนเพิ่มขึ้นอีกมหาศาลและถ้ายังใช้อัตราส่วน Leverage 50x คงทำให้ระบบการเงินการธนาคารของจีนสั่นคลอนได้ทีเดียว
7
เมื่อกฏเกณฑ์ใหม่เงินทุนไม่ต่ำกว่า 30% นี้ถูกบังคับใช้ ทำให้บริษัทมีแรงกดดันมหาศาลด้านเงินทุน และทำให้บริษัทต้องลดเพดานเครดิตการปล่อยกู้ลงจนทำให้วัยรุ่นหลายคนออกมาบ่น
6
การใช้ ข้อมูลการบริโภค, AI และ Big data ที่บริษัทในกลุ่ม Alibaba มีอยู่
ในการคำนวณเครดิตและปล่อยกู้ให้กับผู้บริโภค ซึ่งสามารถบริหารให้มีหนี้เสียเพียง 1%เป็นเรื่องที่น่ายกย่องมากในด้านของเทคโนโลยี
9
แต่เสถียรภาพทางการเงินของประเทศอาจเกิดความแปรปรวน ถ้าปล่อยให้บริษัทที่มี Traffic และ Data กินรวบ อีกทั้งการทำให้วัยรุ่น เคยชินกับการกู้เงิน ที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อาจทำให้จีนกลายเป็นสังคมที่ผู้คนนิยมกู้เงินแทนการฝากเงินเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา
8
นี่น่าจะเป็นเหตุผลหลายข้อ ที่ทำให้รัฐบาลจีนระงับการ IPO
คงไม่ใช่แค่คำพูดไม่กี่คำของ แจ็ค หม่า เท่านั้น
7
โฆษณา