12 ม.ค. 2021 เวลา 00:45 • ครอบครัว & เด็ก
#ห้องดูดวิญญาณ​เด็ก
#วันนี้คะ .....เด็กกลัวตาย....ได้ไง ได้ไง 🤔😲
...งงเด้ งงเด้ 😢😭
เคสนี้คุยด้วยนานมาก..... น่าจะร่วมชั่วโมง....
แม่จูงเด็กผู้ชายเก้าขวบเข้ามาหา ด้วยสีหน้าทุกข์มาก....
หมอ ลูกบ่นเหนื่อย เจ็บหน้าอก เค้ากลัวเป็นโรคหัวใจ เค้ากลัวเค้าตาย....
ห๊าาาาาา...... อาการสำคัญ.... กลัวตาย.... 😭😭😭
แค่เริ่มต้นก็งานเข้า.....​คิดถึงจิตแพทย์เด็กมาก....
ช่วยด้วย....
พยายามไต่ถาม.... ดูแล้วเด็กไม่กล้าเล่า ไม่เปิดใจ....
สุดท้าย....
หนูอยู่กับหมอสองคนไหม แล้วมีอะไรเล่าให้หมอฟัง หมอจะให้แม่ ให้พี่ผู้ช่วยออกไปข้างนอกก่อน...
เค้าพยักหน้า ในห้องจึงเหลือแค่ เด็กกับหมอ....
หมอถอดหน้ากากนะ จะได้เห็นหน้ากัน แต่เรานั่งไกลกันนิดนึงนะ...😁
เกิดอะไรขึ้น ไม่สบายอะไรคับ
ผมแน่นหน้าอก จุกๆท้อง กลัวเป็นโรคหัวใจ กลัวตาย
ใบหน้าทุกข์มากกก..... กังวลจนหมอใจหาย ไม่เคยเห็นเด็กทุกข์แบบนี้ ......
เป็นมากี่วันแล้ว เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปทำอะไรมา
สามวันแล้วคับ ตั้งแต่หลัวดูหนัง.... ที่จริงมีดูคลิปก่อนครับ....
เล่าให้หมอฟังได้ไหม คลิปอะไร หนังเรื่องอะไร...ค่อยๆถาม กระเซ้าบ้าง แหย่ให้หัวเราะบ้าง...
หลังจากนั้นก็ถาม เพื่อชวนเค้าให้เล่าเรื่อง ปล่อยเค้าพูดไปเรื่อยๆ.....คอยฟัง พยายามสะท้อนอารมณ์และความรู้สึกของเด็ก ให้เค้าเข้าใจความรู้สึกของตัวเองที่เกิดขึ้นตอนนั้น....
พยายามให้เด็กเรียบเรียงเหตุการณ์ ลำดับความคิดของตัวเอง เหตุและผลที่เกิดขึ้นตามลำดับ..... สร้างข้อสรุป แง่คิดช่วยกันเป็นช่วงๆ...
พูดเท่าที่จำเป็น นั่งฟังยาวๆเป็นส่วนใหญ่ ..
ฟังจนรู้ว่า....
1.เด็กกลัวเวลาเสพสื่อเหล่านั้น....แต่ยังดูต่อจนจบ เพราะอยากรู้อยากเห็น
2.สื่อสร้างความตื่นเต้น ตกใจ วิตกกังวลจากเรื่องราว ภาพ และเสียงที่เด็กได้รับรู้
3.เด็กยังไม่สามารถแยกแยะเรื่องราวในคลิปที่เข้าดูได้ว่า เรื่องจริงหรือโกหก เค้าเชื่อสนิทว่ามันคือความจริง แม้เราฟังแล้วไม่สมเหตุสมผล แต่เราไม่คัดค้านสิ่งที่เค้าเชื่อ แล้วบอกว่าเค้าคิดผิดนะคะ เพราะเราเองก็ไม่รู้ความจริง และการตัดสินของเรามันไม่ได้ทำให้ใครพัฒนาความสามารถในการแยกแยะของตัวเค้าเองขึ้นมาได้ เรามีหน้าที่บอกว่า การทำคลิป เป็นการเสดงได้ ในแง่ความจริง สิ่งที่เป็นควรเป็นเช่นไร ในคลิปเป็นเช่นไร.... ให้เด็กคิด และเปรียบเทียบเองค่ะ เด็กต้องมีทักษาเหล่าานี้ในการเสพสื่อ ผู้ใหญ่ต้องช่วย... ....
แต่หนัง เข้ารู้ว่าเรื่องแต่ง.... บอกเค้าว่า หนูมีสิทธิ์หยุดตัวเอง ปฏิเสธ และออกมาจากภภาพและเสียงที่ทำให้เราไม่สบายใจ แล้วถ้ารู้แต่แรก เรามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่เสพ... แต่ที่เราทนดูเพราะ... เด็กตอบว่าอยากรู้ ตื่นเต้น..... และนี่คือผลของมัน ผลของความอยากรู้คือกลัวและ กังวล.... บอกเด็กให้เห็นชัดๆค่ะ....
 
4.คลิป เด็กได้ดูเพราะเลื่อนไปเจอโดยบังเอิญ..
เลื่อนดูไปเรื่อยๆ รู้สึกอยากดูก็กดไปดู.... ที่จริงมันก็เหมือนพวกเราแหละ แต่เด็กแยกแยะยังไม่ได้ และภาพแสดงในคลิปที่เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ที่รุนแรง ไม่ว่าจะเศร้า เสียใจ มันส่งผลกับเด็กมาก
ส่วนหนัง เคสนี้ ผู้ใหญ่พาดู.... 😭...
ไม่ว่าเค้าจะเกิดความรู้สึกอะไรก็ตาม อาจจะแย่มาก แต่เค้ายังดูต่อไม่หยุด เพราะความอยากรู้อยากเห็น.....
5.ความกังวล ความหวาดกลัว มันวิ่งเข้ามาในหัวเด็กเป็นระยะ.... ถ้าเค้าหาอะไรทำจะดีขึ้น เด็กเลือก เสพสื่อต่อ... เล่นมือถือ..... เพื่อลดความกังวลนั้น 😅
6.ความวิตกกังวลของเด็ก สร้างความกัวลให้ผู้ปกครอง ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความกังวลสะท้อนหากันไปมาในบ้าน..... 😅
7.เนื้อหาทั้งจากคลิป และหนังที่เด็กเสพ เด็กเอามา
สร้างเรื่องราวเชื่อมโยงกับตัวเอง จนเกิดความรู้สึกไม่สบายทางกาย ความกลัวตายตามตัวละคร
8. 😅.....ทำไมต้องเป็นตรู....หมอเด็กธรรมดา ไม่ใช่จิตแพทย์ใดๆ
......ระหว่างที่พูดคุย ด้วยกระบวนการตั้งคำถาม และการรับฟังจริงๆ..... ทำให้เด็กผ่อนคลายไปเยอะมากค่ะ เด็กเข้าใจสิ่วที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากขึ้น ทั้งอารมณ์ความรู้สึกและความคิด เค้าเริ่มเรียนรู้การเลือกสื่อ การปฏิเสธการเสพ และเราควรหยุด และมีสิทธิ์หยุด เมื่อรู้ว่าเราไม่ชอบ ทำแล้วไม่สบายใจ
เด็กยิ้มได้ หัวเราะได้ หน้ายังกังวลเป็นบางครั้ง.... แต่ยังอยากให้เช็คร่างกาย....
หมอเข้าใจว่าหนูกังวล หมอจะเช็คให้นะคะ แต่หมอมั่นใจว่ามันต้องปกติแน่ๆ หมอเชิญคคุณแม่เข้ามาได้ไหม แล้วหมอเล่าเรื่อวที่เราคุยกันให้แม่ฟังได้ไหมคะ
เค้าดีใจที่หมอจะยอมเช็คร่างกายให้ และยอมให้หมอเล่าให้แม่ฟัง....
เราก็เล่าไปตามที่ได้พูดคุย ต่อหน้าเด็ก เพื่อให้แม่ค่อยๆทำความเข้าใจ และจัดระเบียบความคิด...
ผลตรวจทุกอย่างกลับมาปกติ.....
หมอบอกแล้ววววว.... หนูแข็งแรง....
แม่คะ น้องบาดเจ็บทางความรู้สึก เค้ามาด้วยวิตกกังวล บางคนอาจซึมเศร้า แต่บางคนอาจจะก้าวร้าว โชคดีมากที่แม่ใส่ใจ เรารู้เร็ว.... ทุกอย่างเยียวยาได้ แต่ใช้เวลาหน่อยนะคะ.... แม่ต้องช่วยนะ...หมอไม่ให้ยาอะไรนะ เค้ายังกินได้นอนหลับสบาย มีแต่ความคิด ความกังวลที่คอยเข้ามาในหัวเวลาเค้าไม่มีอะไรทำ....
ตอนนั้น บอกแม่เท่าที่สติปัญญาจะคิดได้และนึกออกว่าควรทำอะไรบ้าง.... 😭... มวยวัดมาก....
1.ช่วงนี้งดการเสพสื่อ social ทุกประเภทนะคะ ไม่เอาเลย
ถ้าจะดูหนังดูละครดูทีวี ให้ดูกับลูกทุกครั้ง ให้เลือกเนื้อหาที่จะให้ลูกเสพ นั่งดูด้วยกัน พูดคุยกัน และจำกัดเวลาดู แต่มือถือหมอของดก่อนนะคะ เอาแค่ช่วงสั้น สักอาทิตย์นี้ก่อน....
2.พท.ในการใช้อุปกรณ์สื่อสาร ห้ามเป็นพท.ส่วนตัวลับหูลับตา มีพท.ใช้สอยร่วมกัน ที่มองเก็นกันค่ะ
3.หากิจกกรรมให้ลูกทำเพื่อระบายความเครียด หรือทำแทนการเล่นมือถือ..... เค้าชอบทำอะไร ให้ทำค่ะ หมอคุยกับเค้า เค้าชอบวาดรูป...
หากระดาษวาดรูป หาสีมาเลยค่ะ วาดเลย เอาให้เต็มที่ อยากลงสีอะไร จัดเลย ใส่วันที่ รวมไว้ดูเล่น
4.หากิจกรรมทำร่วมกับลูกค่ะ จะได้ใช้เวลาด้วยกัน จะได้ไม่ว่าง ง่ายที่สุดคืองานบ้าน.....
5.ใช้ชีวิตในบ้านให้มีความสุขค่ะ... บางเรื่องผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ช่างมัน
6.ผู้ใหญ่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพจิตใจและอารมณ์ในบ้านเพราะส่งผลกระทบถึงสภาพจิตใจและอารมณ์ สุขภาพจิตของเด็กๆได้ ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อได้รับการดูแลนะคะ
...... ลองดูนะคะ อีกอาทิตย์เจอกัน....
หนูแข็งแรงดี ช่วงนี้ป้างดมือถือนะ ไม่ให้เล่นเลย....
#จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า... ขอจิตแพทย์เด็กมาไว้ใกล้ๆ คิวไม่ยาวไกล...... จะได้ไหม.
#ปัญหาแบบนี้จะเยอะขึ้นนะคะ...... ตอนทำงานใหม่ๆ เรื่องพวกนี้หมอเด็กทั่วไปไม่เจอเลยค่ะ....

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา