ปิดมหากาพย์ดาราเทวีเชียงใหม่เปิดทอดตลาด 2 พันล้าน
จากโรงแรมไฮเอนด์สู่ล้มละลายสังเวยโควิดทุนจีนจ้องซื้อ
ก่อนที่จะมีข่าวประกาศจากกรมบังคับคดี ขายทอดตลาดโรงแรมดาราเทวี โดยจะเคาะประมูลขายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยราคาเริ่มต้นประมูล 2,116 ล้านบาท เป็นราคาเริ่มต้นเพียง 50% ที่เป็นผลจากรณีศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องของบริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ภายใต้บริษัทแม่คือ บริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) ขอฟื้นฟูกิจการโรงแรมดาราเทวี ทำให้สถานะของบริษัทฯสู่กระบวนการล้มละลาย เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
กระแสก่อนหน้านี้ได้มีการยื้อเพื่อมาไม่น้อยกว่า 6 เดือนเพื่อหวังว่าสถานการณ์ผลกระทบจาก COVID จะคลี่ลายลง ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนสิงหาคม - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 แต่ก็ยื้อไม่ไหวก่อนสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่จะเกิดขึ้นเสียอีก
กระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม 2563 พนักงานโรงแรมดาราเทวี กว่า 200 คน ได้เดินทางเข้าพบนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามหน้าที่ ในฐานะนายทะเบียน ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ขอให้มีคำสั่งปิดกิจการโรงแรมดังกล่าว อย่างถาวร เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม หลังจากที่โรงแรมไม่จ่ายค่าจ้างพนักงาน และจากสภาพโรงแรม ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูให้กลับมามีสภาพที่พร้อมเปิดให้บริการได้ ซึ่งหากจะปรับปรุงเชื่อว่าจะต้องใช้เงินหลายร้อยล้านบาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 โรงแรมดาราเทวี ได้มีหนังสือบอกเลิกจ้างถึงพนักงาน ด้วยเหตุผลการแพร่ระบาดจาก Covid-19 หลัง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟู ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563
การประกาศขาดทอดตลาดของโรงแรมที่จะมีขึ้นภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงจึงเป็นการปิดฉากอย่างเป็นทางการของโรงแรมไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบล้านนา
นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยถึงกรณีการประกาศขายทอดตลาดของโรงแรมดาราเทวีว่าได้ติดตามสถานการณ์มาตลอด และทราบปัญหาว่ามีปัญหาจาการขาดทุนสะสมมาตลอดช่วง 3 ปีและการประสบปัญหาของ COVID ทำให้ไม่สามารถประกอบการได้ และต้องใช้งบประมาณสูงในการฟื้นฟูสถานที่และยังประเมินว่านักท่องเที่ยวกลุ่มต่างประเทศและมีกำลังซื้อสูงจะกลับมาเมื่อใด
หากย้อนประวัตการก่อตั้งโรงแรมดาราเทวีแห่งนี้ที่มีประวัติยาวนานกว่า 18 ปี ด้วยเงินลงทุนสมัยนั้นที่สูงกว่า 3,000 ล้านบาท ภายใต้เจ้าของ สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล บริษัท อีซูซุหาดใหญ่ จำกัด ดีลเลอร์ขายรถอีซูซุใหญ่ที่สุดในภาคใต้ โรงแรมนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2545 เปิดให้บริการเมื่อปี 2547 โดยได้เซ็น MOU กับแมนดาริน กรุ๊ป ในการบริหารงาน 15 ปี เพื่อให้ได้โนฮาวการบริหารโรงแรมระดับนานาชาติ
ต่อมาในปลายปี 2556 ผู้บริหารได้ออกมาให้ข้อมูลว่าได้พาร์ตเนอร์ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจีนเข้าร่วมทุน โดยการซื้อหุ้นในสัดส่วน 49% วงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังเป็น สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล และยังคงบริหารโดยเครือ “แมนดาริน กรุ๊ป” เช่นเดิม
ในระหว่างการบริหารงานโรงแรมดาราเทวีได้เข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการตั้งแต่ปี 2554 หลังประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการกู้เงินมาลงทุนก่อสร้างโรงแรม แต่ละปีต้องจ่ายค่าเสื่อมเฉลี่ย 200 ล้านบาท และดอกเบี้ยกว่า 100 ล้านบาท และได้ขาดสภาพคล่องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พอกพูนรวมมูลค่าของสินทรัพย์แล้วจะตกกว่า 5,000 ล้านบาท
ช่วงปลายปี 2558 “สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล” ได้ตัดสินใจขายโรงแรมให้ “หมอวิชัย ถาวรวัฒนยงค์” ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC คิดเป็นมูลค่า 2,520 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ แคป แมนเนจเม้นท์” หรือ ICAP เข้าซื้อหุ้นสามัญของ กลุ่มดาราเทวี เชียงใหม่ ประกอบด้วย บริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด บริษัท เอ.พี.เค.ดีเวลลอปเม้นท์ และบริษัท ดาราเทวี จำกัด รวมถึงซื้อภาระหนี้จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง
โดยผู้บริหารรายใหม่มีแผนว่าจะ พัฒนาที่ดินเปล่า 40 ไร่ ภายในโครงการ ให้แล้วเสร็จกลางปี 2561 แบ่งเป็น โรงแรมระดับ 6 ดาว 80 ห้อง คอนโดมิเนียม 4 อาคาร 200 ยูนิต และโครงการเรสซิเดนซ์ล้อมรอบสระน้ำขนาดใหญ่ หรือ pool resident 16 ยูนิต เพื่อเพิ่มมูลค่าโครงการ โดยวางแผนว่าจะทำกำไรมาจาก 3 ส่วน คือ 1. กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 3,000 ล้านบาท 2.กำไรจากการขายทรัพย์สินในส่วนของวิลล่า 2 แห่ง 760 ล้านบาท 3.กำไรจากการขายที่ดิน 40 ไร่ 625 ล้านบาท และ4.กำไรจากการเข้าพักโรงแรม 100 ล้านบาท เทียบกับปี 2558 ที่มีผลขาดทุนจากการเข้าพักโรงแรม 130 ล้านบาท
แหล่งช่าวในวงการโรงแรมเชียงใหม่เปิดเผยว่าโรงแรมดาราเทวียังเป็นโรงแรมที่มีจุดเด่นจุดขายด้านทำเลและสถาปัตยกรรม เชื่อว่ามีนักลงทุนภายในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะจีนที่ต้องการถ่ายการลงทุนมายังไทยให้ความสนใจซื้อด้วยราคาที่ไม่สูง ซึ่งหากลงทุนเพิ่มก็จะสามารถต่อยอดทางธุรกิจท่องเที่ยวในเชียงใหม่ในอนาคตที่มีจุดดึงดูดที่น่าสนใจ
สำหรับ โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 155 ไร่ จำนวน 123 ห้อง นอกจากจะโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมการก่อสร้างล้านนาโบราณแล้ว ยังมีชื่อเสียงในการเปิดธุรกิจเบเกอรี่ โดยเฉพาะ “มาการอง ดาราเทวี” ปัจจุบันมี 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ และ 1 สาขา ในกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันยังโดดเด่นในเรื่องของ สปาเพื่อสุขภาพ
การประกาศชายครั้งนี้จึงเป็นการปิดมหากาพย์ของโรงแรมที่มีเสน่ห์ที่สุดของภาคเหนือจากทุนเดิมเพื่อรอให้เปิดตำนานใหม่อีกครั้งภายใต้ทุนใหม่ ที่มีสายป่านยาวพอที่จะแบกต้นทุนหนัก ๆ ฝ่าสถานการณ์วิกฤติท่องเที่ยวจากผลกระทบของ COVID เพื่อรอจังหวะธุรกิจใหม่ ที่ไม่ต่ำกว่า 3 ปีในอนาคตซึ่งน่าจับตาว่าจะเป็นทุนไทยหรือทุนจากต่างประเทศ
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
