เคสแรกของโลก !! ลิงกอริลลาติดโควิด-19
มีรายงานการตรวจพบลิงกอริลลา(Gorilla) ติด
โควิด-19 ที่สวนสัตว์ซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา
กลุ่มลิงกอริลลาจำนวนแปดตัว ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด มีหลายตัวปรากฏอาการไอขึ้น
จึงได้มีการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาจากอุจจาระของพวกมัน และมีผลการตรวจออกมาเป็นบวก 3 ตัวแล้ว
ลิงกอริลลาจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าลิงใหญ่ ซึ่งมีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด เช่นเดียวกับลิงชิมแปนซี
จากการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA) พบว่ากอริลลามีดีเอ็นเอซ้ำกับมนุษย์มากถึง 98.4%
มีรายงานของสัตว์ที่ติดโควิดได้ ประกอบด้วย
สิงโตและเสือ สุนัขและแมว
นอกจากนั้นยังพบการติดในตัวมิ้ง(Mink) ซึ่งปลายปีที่แล้วเดนมาร์กได้ฆ่ามิ้งไปถึง 15,000,000 ตัว
การติดไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด จึงมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า นอกจากติดในมนุษย์แล้ว ยังสามารถติดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกหลายชนิดด้วยกัน
สิ่งที่น่าเป็นห่วงสองประการได้แก่
1) ถ้าไวรัสติดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งใกล้ชิดมนุษย์แล้ว เกิดมีการกลายพันธุ์ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหล่านั้น แล้วย้อนกลับมาติดในมนุษย์อีก
อาจจะมีผลกระทบเกี่ยวกับอาการความรุนแรงของโรค และความสามารถในการป้องกันโรคของวัคซีน
2) การติดไวรัสจากมนุษย์ไปสู่สัตว์ในกลุ่มสัตว์ซึ่งไม่มีภูมิคุ้มกัน และไม่มีระบบของการดูแลรักษาตัวเองที่ดี อาจทำให้มีการลดจำนวนของสัตว์เหล่านั้นเป็นจำนวนมาก และถ้าเป็นกลุ่มที่ใกล้สูญพันธุ์อยู่แล้วอาจถึงขั้นสูญพันธุ์ต่อไปได้ด้วย
เป็นที่น่าสนใจต่อไปว่า
ลิงกอริลลาเหล่านี้ ซึ่งมีสารพันธุกรรมแบบดีเอ็นเอใกล้เคียงมนุษย์เกือบ 100%
จะมีอาการความรุนแรงของโควิด-19 เหมือนมนุษย์มากน้อยเพียงใด
นอกจากนั้นแล้ว วัคซีนจะได้ผลในการป้องกันโรคกอริลลาหล่านี้หรือไม่
คงจะเป็นกรณีศึกษา ที่สัตวแพทย์และแพทย์ที่รักษามนุษย์ จะได้ร่วมกันใช้ประโยชน์ขององค์ความรู้ที่เกิดขึ้น มาพัฒนาการดูแลรักษา ตลอดจนควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไปครับ
Reference
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
