13 ม.ค. 2021 เวลา 05:15 • ท่องเที่ยว
เปรียบเทียบบัตรเดบิตท่องเที่ยว Planet SCB | Travel Card | YouTrip | TMB All Free | Journey ใครน่าใช้และคุ้มค่าที่สุด
เรียกว่ามากันครบทั้ง 4 แบงค์ใหญ่ PLANET SCB, Krungthai Travel Card, TMB All Free, และ  Journey จาก KBANK ที่ต่างปล่อยบัตรเดบิตลงตลาดมาช่วงชิงเค้กการใช้จ่ายเงินในต่างประเทศกันอย่างดุเดือด แต่ละบัตรก็จะมีจุดดีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป จนดูในรายละเอียดแล้วไม่มีความเหมือนกันเลยก็ว่าได้ มีความยิบย่อยค่อนข้างสูง วันนี้เราเลยจะเอามาเปรียบเทียบให้ทราบกันครับ (*Updated 7 Nov : เพิ่มบัตร YouTrip)
ที่มาบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยว
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรฯ บอกว่าคนไทยมีการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่ราว 11 ล้านคนต่อปี ใช้จ่ายกันที่ราว 390,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ใช้บริการแลกเงินจากร้านรับแลกเงินต่างๆ ซึ่งจะมีเรตที่ประหยัดกว่าธนาคารพาณิชย์กันมาโดยตลอด ทางธนาคารก็ทราบดีถึงช่องว่างเรื่องนี้ จนธนาคารกรุงไทยก็ได้ออกบัตร Travel Card มาเป็นรายแรก ตั้งแต่ เมษายน 2561 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง จากการที่สามารถล็อคเรตค่าเงินตามวันที่แลกได้ เรตดีชนร้านแลกทั่วไป และไม่ต้องจ่ายค่าความเสี่ยง 2.5% อีกด้วย ซึ่งความสำเร็จนี้ก็ทำให้มีธนาคารพาณิชย์อื่นเริ่มตามมา โดยเจ้าแรกก็คือธนาคารทหารไทยเมื่อ พฤศจิกายน 2561 ที่ปรับคอนเซปต์จากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสามารถรูดได้เลยโดยไม่ต้องแลกก่อน จนมาปีนี้เราก็ได้เห็น SCB ตามมาด้วย KBANK ที่ลงมาร่วมแจมในตลาดนี้
สรุปจุดเด่นของบัตรท่องเที่ยวที่ทุกใบมีคล้ายๆกัน
ใช้จ่ายได้ในต่างประเทศโดยไม่ต้องมีค่าความเสี่ยง 2.5%*
ได้เรตดีชนร้านรับแลกเงินยอดนิยม
ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากเวลาเดินทาง
อยากใช้เงินสดก็เบิกจากตู้ ATM ประเทศต่างๆได้เลย
เปิดปิดบัตรเฉพาะเวลาต้องการใช้งาน เพื่อความปลอดภัย
มีประกันการเดินทางให้ฟรี
*ปกติเวลาเรารูดบัตรเครดิตหรือเดบิตในต่างประเทศ เราจะโดนชาร์จเพิ่ม 2.5% เสมอ เช่น ซื้อสินค้า $100 ก็จะโดนเก็บ $102.5 สาเหตุจากค่าเงินที่มีความผันผวนตลอดเวลา ธนาคารเลยขอเรียกเก็บส่วนนี้ แต่บัตรท่องเที่ยวจะยกเว้นค่าความเสี่ยงนี้ออกไปให้นั่นเอง
TIMELINE การออกบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยว
ในที่นี้จะหาเอาทั้งบัตรเครดิตและเดบิตซึ่งไม่คิดค่าความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% มารวมให้ทั้งหมดนะครับ
Krungthai Travel Card @ April 2018
TMB All Free @ Nov 2018
Citibank Global Wallet @ Dec 2018
TMB Absolute @ Jul 2019
PLANET SCB @ Aug 2019
KBANK Journey @ Oct 2019
YouTrip Powered by KBANK @Nov 2019
โดยตารางด้านล่างนี้ ทางผมจะขอดึงเอามาเปรียบเทียบเพียงแค่ 5 ใบที่เป็นบัตรท่องเที่ยวจากธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของไทยกัน และเราสามารถแบ่งกลุ่มของบัตรออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
บัตรเติมเงิน : ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน
Krungthai Travel Card
PLANET SCB
YouTrip powered by KBANK
บัตรเดบิต : ตัดเงินออกจากบัญชีเราโดยตรง
KBANK Journey
TMB All Free
วิเคราะห์จุดเด่น-ด้อยของแต่ละบัตร
PLANET SCB
จุดเด่น
ใช้ได้ทั่วโลก แม้สกุลเงินที่แลกไม่ได้
ใช้จ่ายในประเทศไทยได้
รองรับการแลกสกุลเงินหยวน, วอน, และไต้หวันดอลล่าห์
ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ
จุดด้อย
ต้องโอนเงินเข้ากระเป๋าของบัตรก่อน (ซึ่งอาจมองเป็นข้อดีก็ได้)
จากบรรดาบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยวทั้งหมด Planet SCB น่าจะเป็นใบที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วนความต้องการที่สุด โดยบัตรอื่นจะเน้นที่เรื่องการใช้งานในไทยควบคู่ไปด้วย แต่ Planet SCB จะค่อนข้างเน้นไปที่การใช้งานต่างประเทศแบบชัดเจน และที่สำคัญคือสมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆหยุมหยิ๋ม และสามารถทำได้ทั้งแลกเงินเพื่อล็อคเรตที่ดีไว้ในบัตรก่อนได้ หรือจะรูดเลยไม่ต้องแลกก่อนก็ได้อีก สะดวกสุดๆตามต้องการ แถมยังมีประกันการเดินทางเอาไว้ให้เรียบร้อย
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
KRUNGTHAI TRAVEL CARD
จุดเด่น
ไม่มีค่าธรรมเนียม
แลกสกุลเงิน Norway, Sweden, Denmark และ Russia ได้
จุดด้อย
ไม่สามารถใช้จ่ายเงินสกุลที่ไม่รองรับได้เลย
ไม่สามารถรูดได้ทันที หากไม่แลกในสกุลเงินที่รองรับก่อน
ไม่มีโปรโมชั่นดึงดูด
เป็นบัตรที่ออกมาก่อนใครเพื่อน และทำให้หลายคนเรียกบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยวทั้งหมดว่าเป็น Travel Card ได้เลย หลายอย่างเรียกว่าเป็นต้นแบบของ Planet SCB ก็ว่าได้ ล่าสุดก็มีการเพิ่มสกุลเงินที่รองรับเข้าไปอีก แต่ก็จะยังไม่มีรวมเงินหยวน, วอน, และไต้หวัน เข้าไปในบัตรอยู่ดี โดยเงินหยวนหากต้องการใช้งานต้องสมัครบัตรอีกใบเป็น Union เพิ่ม ไม่สามารถใช้งานเสร็จในใบเดียวได้ ทำให้วุ่นวายเล็กน้อย และด้วยความที่ออกมาก่อนใครเพื่อน ฐานลูกค้ามีมากในระดับนึงแล้ว ปัจจุบันจึงไม่ค่อยเห็นการทำโปรสักเท่าไหร่นัก
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️½
YOUTRIP POWERED BY KBANK
จุดเด่น
ใช้ได้ทั่วโลก แม้สกุลเงินที่แลกไม่ได้
ใช้จ่ายในประเทศไทยได้
ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆเลย
จุดด้อย
สกุลเงินที่ล็อคเรตได้น้อยกว่าบัตรอื่น
ต้องโอนเงินเข้ากระเป๋าของบัตรก่อน (ซึ่งอาจมองเป็นข้อดีก็ได้)
ชูจุดเด่นเรื่องปลอดค่าธรรมเนียมทุกสิ่ง ออกมาเป็นทางเลือกจากบัตร Journey ของธนาคารกสิกรเองที่มีค่าธรรมเนียมมากกว่าทุกใบ เรียกว่าเจาะตลาดคนละทางกันเลยก็ว่าได้ โดยการใช้งานจะแตกต่างจากบัตรใบอื่นเล็กน้อยที่ปกติผูกเข้ากับแอปธนาคารเลย แต่ของ YouTrip จะเป็นแอปแยกออกไป เพราะ YouTrip จะไม่ใช่ของ KBANK โดยตรง แต่มีการใช้หลังบ้านหลายส่วนจาก KBANK จึงเป็นที่มาว่า Powered by KBANK นั่นเอง ภาพรวมดีพอๆกับ Planet SCB แต่ด้อยกว่าในเรื่องจำนวนสกุลเงินที่สามารถแลกเก็บได้ ใช้เป็นบัตร Mastercard แทน VISA และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จะน้อยกว่าเล็กน้อย
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️⭐️
TMB ALL FREE
จุดเด่น
รูดได้ทั่วโลกโดยตรงไม่ต้องแลกก่อน
บัตรหายออกบัตรใหม่ฟรี
มีประกันซื้อของออนไลน์ โดนโกงมีชดใช้
สิทธิประโยชน์อื่นๆ
ใช้จ่าย ถอนเงิน ในประเทศไทย
จุดด้อย
ไม่สามารถล็อคเรตได้
มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
เป็นรายแรกที่ทำบัตรเดบิตให้สามารถรูดใช้ง่ายสกุลเงินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องแลกเงินเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ก่อน ได้เรื่องความสะดวกสบาย เพียงแค่มีเงินในบัญชีก็พร้อมใช้งานได้เลย ด้วยความที่มีการจ่ายค่าแรกเข้าและรายปี เสมือนเป็นบัตรเดบิตทั่วไป ทำให้ตัวบัตรมีโปรโมชั่นและทำได้มากกว่า Travel Card ของ SCB และ KTB ทั้งเบิกเงินสดได้จากตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วไทย โดยไม่ต้องมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และมีส่วนลด-สะสมแต้มสำหรับการใช้จ่ายในประเทศที่มากมาย ซึ่งถ้าไม่มีบัตรเครดิตอยู่แล้วก็ช่วยทำให้ใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดได้สบายขึ้น แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถแลกเงินเก็บเอาไว้ได้ ซึ่งจะจำเป็นมากในช่วงที่ค่าเงินผันผวน
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️⭐️
KBANK JOURNEY
จุดเด่น
รูดได้ทั่วโลกโดยตรงไม่ต้องแลกก่อน
โปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพียบ
สามารถใช้จ่าย-เบิกเงินสดในไทยได้
แลกเงินสดสกุลอื่น เรตเท่าแอป ได้จากช่องทางธนาคารกว่า 1,000 แห่ง
จุดด้อย
ค่าธรรมเนียมที่แพงกว่าคนอื่น
มีค่าความเสี่ยง 2.5% สำหรับการซื้อของออนไลน์และเบิกเงินสด
ทำเอาหลายคนงงที่ออกมาช้าสุดแต่มีการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าบริการรายปีที่แพงกว่าชาวบ้าน แต่ก็แลกมากับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพียบ คิดซะว่าจ่ายเพื่อซื้อของแถมเหล่านี้ก็อาจจะยังคุ้มได้ และถ้าต้องการจะแลกเงินสดติดตัวก่อนบินก็ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาร้านรับแลกแต่อย่างใด เพราะบูธรับแลกของกสิกรที่มีอยู่เยอะก็พร้อมจะให้รับแลกเรตเท่ากับในแอปได้เลยเพียงโชว์บัตรเท่านั้น อย่างไรก็ดีจุดด้อยเรื่องซื้อของ จองที่พัก ในเงินสกุลเงินอื่นยังคิดค่าความเสี่ยงตามปกติ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดี อาจทำให้ต้องมีการถือบัตรมากกว่า 1 ใบเพื่อความคุ้มค่าสูงสุด
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️
 
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่เรารวบรวมมาเอาไว้ให้นะครับ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ต่อไปจากแต่ละธนาคาร ซึ่งถ้าใครมีข้อท้วงติงอย่างไรสามารถแจ้งมาเพื่ออัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคอมเม้นต์เลยนะครับ
โฆษณา