13 ม.ค. 2021 เวลา 08:40 • ความคิดเห็น
#ความล้มเหลวของการศึกษาไทย
เป็นสิ่งที่ตั้งคำถามมาตลอด ตั้งแต่เข้ามาในระบบการศึกษาแบบที่คนปกติเค้าอยู่กัน เราว่าเราโชคดีในหลายๆเรื่อง เราโชคดีที่ตอนเด็กๆไม่ได้ถูกปลูกฝังให้ต้องแข่งขัน ม.ต้นมาก็เรียนวิชาชีพ เรียนดนตรี ซึ่งโรงเรียนเราไม่ได้สังกัดกระทรวงศึกษา แต่อยู่กระทรวงวัฒนธรรม😂 (เอ่อ ชีวิตไม่มีอะไรปกติเลยเอาจริง) เราว่าเพราะเราไม่ได้อยู่ในระบบที่เราอยู่แบบนี้มาตั้งแต่แรก พอเข้ามาเราเลยเห็นความผิดปกติชัดกว่าคนอื่นๆ
แนะนำแบคกราวนด์การศึกษาคร่าวๆ เผื่อจะช่วยให้เห็นภาพ
-ประถมเราเรียนโรงเรียนเล็กๆในจังหวัดบ้านเกิด
-ม.ต้นเข้ามาเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป ศาลายา (เรียนขับร้องเพลงสากล)
-ม.ปลาย เตรียมอุดมฯศึกษา ศิลป์-คำนวณ
-ป.ตรี สถาปัตจุฬาฯ และดรอปตอนปี4
ต้องเรียกว่าจากม.ต้น ไปม.ปลาย เป็นการเปลี่ยนแบบ ก้าวกระโดดแบบ culture shocked เลย เพื่อนทุกคนเก่งมากๆ จนเรารู้สึกว่าตัวเองโง่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เราก็ตั้งเป้าหมายไว้แค่ว่า ต้องสอบเข้ามหาลัยให้ได้ แค่นั้น โดยที่เราก็ไม่รู้หรอกว่าเราอยากเป็นอะไรกันแน่
ระหว่างทางที่อยู่ในระบบการศึกษา เรารู้สึกเป็นคนนอกระบบมาตลอด เรามีเพื่อนๆหลายคนที่มุ่งมั่นตั้งใจมาก (เราว่าเพื่อนๆเราจัดอยู่ในกลุ่มเด็กเรียนนะ) แต่มีคนไม่น้อยเลยที่รู้สึกไม่แฮปปี้กับการเรียน บางคนก็เป็นซึมเศร้า บางคนไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร (เราก็ไม่รู้เหมือนกัน)
เราเคยเครียดมากๆ รู้สึกเหมือนลืมตัวตนของตัวเองไป เรามองเห็นแต่เรื่องเรียนและก็คิดแต่ว่าจะทำอะไรต่อ จบไปทำงานบริษัท เราต้องเก่ง ต้องไปแข่งกับคนอื่น เหมือนเห็นภาพอนาคตแล้ว แต่เราไม่ชอบเลย เหมือนก็รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ แต่ลืมไปว่าเลือกได้
เราผ่านสิ่งที่ทุกคนผ่านมาเหมือนๆกัน คือการพยายามสบเข้าโรงเรียนที่ดีที่สุด ทำคะแนนให้ได้มากที่สุดเพื่อได้เข้ามหาลัยที่ดีที่สุด แต่สุดท้ายพอลองหยุดมองภาพแล้วได้แต่ถามตัวเองว่า เพื่ออะไรวะ ดีที่สุดสำหรับใครวะ
เราไม่สามารถปฏิเสธได้หรอกว่ามันไม่ดี เราได้โอกาสมากมายจากการเรียนเตรียมอุดม จากการอยู่จุฬาฯ คอนเน็คชั่นดีๆ เพื่อนดีๆ ตรงนี้เถียงไม่ได้เลย เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราต้องเรียน และทำให้ดี
แต่เรารู้สึกว่าระบบการศึกษาแบบนี้เป็นเหมือนเครื่องจักรที่ผลิตคนออกมาเพื่อไปเป็นเครื่องมือให้กับบริษัทต่างๆ สอนให้เราเชื่อง ให้เราขยันมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน mindset ทุกอย่างเหมือนถูกออกแบบมาให้เป็นพนักงานที่ดี ให้เป็นคนที่บริษัทอยากได้ไปทำงาน มันกลายเป็นค่านิยมที่มากลืนกินความเป็นปัจเจก และความเป็นไปได้อื่นๆที่คนๆนึงจะเติบโตไปเป็นตัวเอง มันไม่มีที่ยืนให้คนอย่างเราเท่าไร ซึ่งทำให้เราหงุดหงิดมากๆ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่โชคดีอย่างเรา
เรารู้ตัวว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราก็ดรอปเลย แต่เพราะเราโชคดีที่ครอบครัวเข้าใจ มีพี่มีแม่ที่คอยช่วย คนอื่นๆไม่กล้าที่จะออกมา ไม่ใช่เพราะเค้ากลัว แต่ทุกคนมีความจำเป็นที่แตกต่างกัน ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำได้ อย่างที่เราเคยบอก โลกนี้มีพื้นที่ให้เราผิดพลาดน้อยเกินไป และเป็นความเสี่ยงที่คนส่วนมากไม่สามารถรับได้
1
ความรู้สึกเหมือนอยู่ในกระแสน้ำที่ทุกคนว่ายไปทางนี้อะ เราก็ต้องว่ายต่อไป ทั้งที่มันไม่ใช่ปลายทางที่เราอยากไป ไม่ได้อยากว่าย จะว่ายฝ่ากระแสน้ำออกมาก็ออกมาโคตรยาก เพราะทุกคนจะว่ายต่อไปและทิ้งเราไว้ข้างหลัง สิ่งที่ยากที่สุดคือการยอมรับความรู้สึกเคว้งคว้างและอ้างว้างกลางมหาสมุทร ที่มาพร้อมกับอิสระภาพ ถ้าจะไม่ว่ายไปตามกระแสน้ำพร้อมคนอื่นๆ เราก็ต้องหาทางของตัวเองในมหาสมุทรนี้ให้เจอ
การศึกษาในประเทศเราแม่งไม่ได้สอนเรื่องที่สำคัญๆต่อชีวิตเลย โคตรน่าเศร้าที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์แท้ๆ การที่จะรู้จักตัวเอง การเข้าใจการทำงานของอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ ควรจะเป็นเรื่องที่เราเรียนรู้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว เราไม่ควรจะต้องมานั่งสับสนถามหาถึงความหมายของชีวิตตัวเองด้วยซ้ำ
โอเค บ่นจบแล้ว มาแชร์กัน😂
โฆษณา