13 ม.ค. 2021 เวลา 16:39 • หนังสือ
The law of few เมื่อคนตัวเล็กก็เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ได้
กลับมาอีกครั้งกับภาคต่อเนื้อหาจากหนังสือ The Tipping Point โดย Malcolm Gladwell ก่อนหน้านี้เราได้เล่าให้ฟังถึงเรื่องของ the connector หรือ นักเชื่อมสัมพันธ์ ไปกันแล้ว (ย้อนกลับไปอ่านกันได้ที่ https://www.blockdit.com/articles/5feabba93cde8e049ecff116)
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงคนอีก 2 กลุ่ม ที่เป็นตัวชนวนให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นได้
เริ่มจาก maven หรือผู้เชี่ยวชาญ
พวกเราคงรู้จักบางคน หรือมีเพื่อนที่มักจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรอบรู้
ชอบแนะนำและช่วยเหลือเราในหลายๆเรื่อง
บางคนก็แนะนำร้านอาหารแสนอร่อยที่ราคาคุ้มค่า โรงแรมในซอกหลืบที่ถ้าไม่มีคนบอกเราคงไม่รู้ว่ามีอยู่ แต่กลับมีห้องพักและบริการระดับ 5 ดาว
หรือแนะนำวิธีการยื่นภาษีในรูปแบบที่จะช่วยให้เราประหยัดได้มากที่สุด
ใช่แล้วครับ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เป็นเหมือนคลังข้อมูลเคลื่อนที่
ผู้ซึ่งสนุกและหลงไหลไปกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ
และเมื่อเราได้รู้จักกันแล้ว พวกเขาก็มักจะอดไม่ได้ ที่จะแบ่งปันความรู้ดีๆให้กับเรา
คุณคงนึกถึงเพื่อนที่เคย"ช่วยชีวิต"เราไว้ได้
อาจจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่ถึงแก่ชีวิตจริงๆ แต่พอแก้ปัญหาได้ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ผู้เชี่ยวชาญนั้นอาจจะไม่ได้รู้จักคนมากมายเหมือนกับนักเชื่อมสัมพันธ์
แต่ทว่าแทบทุกคำแนะนำของพวกเขา กลับสะกดให้เราทำตามได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
อาจจะไม่ใช่เพราะการโน้มน้าวสุดเก่ง
แต่เพราะเรารู้อยู่เต็มอกว่าคนเหล่านี้รู้จริง และแนะนำสิ่งที่ดีให้กับเรา
ผู้เชี่ยวชาญมักจะไม่ได้คิดอะไรมากตอนแนะนำ
ไม่ได้คิดว่าเราจะต้องกลับมาตอบแทนพวกเขาภายหลังหรืออะไร
แต่เพราะว่าพวกเขาสนุก
สนุกที่ได้แนะนำ สนุกที่ได้แบ่งปันสิ่งที่ตัวเองรู้
และช่วยให้ชีวิตของเพื่อนๆผ่านปัญหาไปได้
จะว่าไป ผู้เชี่ยวชาญก็เหมือนครูดีๆนี่เอง
ครูผู้ซึ่งเราพร้อมที่จะฟัง และทำตามข้อแนะนำที่ได้รับมา
นักเชื่อมสัมพันธ์อาจจะรู้จักคน 20 คน และเมื่อแนะนำร้านอาหารให้พวกเขาเหล่านั้นไปลอง อาจจะมีสัก 7-8 คนที่ตั้งใจไปลองจริง
แต่สำหรับ maven หรือผู้เชี่ยวชาญ เขาอาจจะรู้จักกับคนแค่ 10 คน แต่เมื่อได้แนะนำร้านอาหารซักร้าน คนทั้ง 10 ก็มักจะตั้งใจตามไปลองกันดู ...
ต่อมาคือ salesmen หรือว่านักขาย
เทียบกับ 2 กลุ่มแรก นักขายดูจะเป็นกลุ่มคนที่เรามีภาพในหัว และคิดว่าตัวเองรู้จักดีที่สุดแล้ว
ทว่านอกจากความสามารถในการโน้มน้าวใจคน ราวกับร่ายมนต์สะกด
เหล่านักขายยังสามารถที่จะถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ของตัวเอง ไปยังผู้อื่นได้ดีมากอีกด้วย
พิธีกร หรือผู้ประกาศข่าว ผู้มากความสามารถหลายๆคน
สามารถส่งต่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ไปสู่ผู้ชม ซึ่งดูผ่านอุปกรณ์อย่างทีวีหรือคอมพิวเตอร์ได้ด้วยซ้ำ
ในปี 1984 ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งระหว่าง Ronald Reagan กับ Walter Mondale
มีกลุ่มนักจิตวิทยา นำโดย Brian Mullen ได้ทำการทดลอง โดยทำการบันทึกเทปรายการข่าวดังที่ดำเนินรายการโดยพิธีกรชื่อดัง 3 คน บน 3 ช่องยอดนิยมในสหรัฐฯ
จากนั้นทีมนักจิตวิทยาได้ทำการตรวจสอบและตัดช่วงเฉพาะที่มีการพูดถึงผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ตัดออกมาได้ราว 37 ช่วง ช่วงละประมาณ 2 วินาทีครึ่งเท่านั้น
นักวิจัยได้รวบรวมอาสาสมัคร และให้พวกเขาดูเทปเหล่านั้น โดยที่ไม่มีเสียง
สิ่งที่เหล่าอาสาสมัครต้องทำคือการให้คะแนนการแสดงออกและอารมณ์ ของคนในเทปที่พวกเขาเห็น
จากแสดงออกเชิงลบสุดขั้ว ไปถึงแสดงออกเชิงบวกสุดขั้ว บนสเกลคะแนนเต็ม 21
2 ใน 3 ของพิธีกรได้ผลลัพธ์ออกมาในแบบกลางๆ นั่นคือไม่ได้แสดงความชอบหรือไม่ชอบฝั่งไหนเป็นพิเศษ
สิ่งที่น่าสนใจคือพิธีกรอีกหนึ่งคน ที่ได้คะแนน 13.38 เมื่อพูดถึง Walter Mondale
แต่เมื่อพูดถึง Ronald Reagan กลับได้คะแนนไปถึง 17.44
สิ่งที่นักวิจัยสรุปออกมาคือ Peter Jennings พิธีกรของช่อง ABC มีการแสดงออกทางสีหน้าอย่างมีอคติ(ในเชิงบวก)กับ Ronald Reagan อย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งไปกว่านั้น ทีมวิจัยยังได้รวบรวมคนจากหลายๆเมืองทั่วประเทศที่รับชมข่าวเป็นปกติ
เพื่อถามความเห็นว่าพวกเขาจะโหวตให้ใครในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ผลที่ได้คือคนที่ดูช่อง ABC บอกว่าจะโหวตให้ Ronald Reagan มากกว่าอีก 2 ช่องทีเหลืออย่างมีนัยสำคัญ
ดูเหมือนว่าการแสดงออกถึงอคติอย่างไม่รู้ตัว ของพิธีกรจากช่อง ABC จะส่งผลกระทบต่อความคิดของผู้ชมในการโหวต
หลายๆครั้งที่สิ่งเล็กน้อยนี่แหละ ที่เป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่
บางครั้งปัจจัยเล็กๆน้อยๆ อย่างการแสดงออกทางสีหน้า หรือท่าทางบางอย่าง ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ ได้มากกว่าคำพูดเสียอีก
The Tipping Point เป็นหนังสือที่อ่านไม่ยาก แถมยังสนุกจากเรื่องราวเหตุการณ์ รวมถึงงานวิจัยที่ Malcolm Gladwell ได้เล่าให้เราฟังผ่านตัวหนังสือ (บางเรื่องอาจจะเก่าไปบ้าง เพราะตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2000 แต่หลายอย่างก็สามารถใช้ได้กับยุคปัจจุบัน)
ถ้าใครที่รู้สึกสนใจ ผมอยากจะแนะนำให้ลองไปหามาอ่านกันดูนะครับ
และนี่ก็คือ The law of few การที่สิ่งเล็กๆ คนตัวเล็กๆ เป็นจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดของความคิด จนจุดชนวนให้เกิดการพลิกผันครั้งใหญ่ขึ้นมาได้
ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ไว้มาเจอกันใหม่นะครับ
โฆษณา