14 ม.ค. 2021 เวลา 06:39 • ประวัติศาสตร์
• Andrew Johnson
ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา
ที่ถูกยื่นถอดถอน Impeachment
แอนดรูว์ จอห์นสัน (Andrew Johnson) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 17 ของสหรัฐอเมริกา จากพรรคเดโมแครต
แอนดรูว์ จอห์นสัน ประธานาธิบดีคนที่ 17 ของสหรัฐอเมริกา
ในสมัยของประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) แอนดรูว์ จอห์นสัน ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี จนกระทั่งในค่ำคืนของวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1865 ลินคอล์นได้ถูกลอบสังหาร และได้เสียชีวิตลงในเช้าวันถัดมา
เมื่อลินคอล์นเสียชีวิตลง จอห์นสันในฐานะรองประธานาธิบดี ก็ได้ถูกเรียกตัวมายังกรุงวอชิงตัน ดีซี. เพื่อให้มาดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ต่อจากลินคอล์น
ซึ่งในตอนนั้นเรียกได้ว่า จอห์นสันไม่ได้มีความพร้อมหรือเตรียมตัวใด ๆ กับการที่เขาจะต้องรับหน้าที่เป็นประธานาธิบดีเลย
ในช่วงเวลาที่จอห์นสันเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ นั้น สงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายเหนือ (รัฐบาลสหรัฐฯ) กับฝ่ายใต้ (สมาพันธรัฐ) พึ่งที่จะยุติลง
ดังนั้นประธานาธิบดีจอห์นสันจะต้องทำหน้าที่ในการฟื้นฟูประเทศ และทำให้สหรัฐอเมริกา เกิดความสมานฉันท์และรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง ภายหลังจากที่ประเทศได้แตกแยกในช่วงสงครามกลางเมือง
ประธานาธิบดีคนก่อนหน้าของจอห์นสันก็คือ อับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งเป็นประธานาธิบดีที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รักของชาวอเมริกัน ดังนั้นการรับตำแหน่งประธานาธิบดีแบบกะทันหันของจอห์นสัน จึงเป็นสิ่งที่ยากที่จะทำให้ตัวของจอห์นสันได้รับความรัก และความนิยมจากชาวอเมริกันเหมือนกับลินคอล์น
อับราฮัม ลินคอล์น กับแอนดรูว์ จอห์นสัน
จอห์นสันยังมีปัญหาในเรื่องของบุคลิกภาพ การพูดจาดูไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีภาวะของความเป็นผู้นำ และที่สำคัญคือ เขายังมีแนวคิดและนโยบาย ที่เรียกได้ว่าอยู่ขั้วตรงข้ามกับลินคอล์น
ไม่ว่าจะเป็นการที่จอห์นสันสนับสนุนให้มีทาสต่อไป ซึ่งตรงข้ามกับเจตนารมณ์ของลินคอล์น ที่ต้องการให้มีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา
รวมไปถึงจอห์นสันยังมีนโยบายที่จะลงโทษขั้นรุนแรงกับรัฐทางใต้ ที่ได้แยกตัวไปในช่วงสงครามกลางเมือง ตรงข้ามกับแนวคิดของลินคอล์น ที่มีนโยบายประนีประนอมกับรัฐทางใต้ เพื่อสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติ
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เอง ที่ได้ทำให้ แอนดรูว์ จอห์นสัน กลายเป็นประธานาธิบดีที่เรียกได้ว่า แทบจะไม่มีชาวอเมริกันคนไหนให้ความนิยมหรือชื่นชอบในตัวเขาเลย
ในที่สุด ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1868 สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ จึงได้ยื่นเรื่องถอดถอน แอนดรูว์ จอห์นสัน จากการเป็นประธานาธิบดี ซึ่งนี้ก็คือเหตุการณ์การยื่นถอดถอนจากการเป็นประธานาธิบดี (Impeachment) ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
1
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้จอห์นสันถูก Impeachment นั้น เกิดจากการที่เขาได้ไปปลดรัฐมนตรีกลาโหม โดยที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา
ซึ่งการกระทำของจอห์นสันนี้ ถือว่ามีความผิดฐานไม่ยอมทำตามกฎหมาย Tenure of Office Act 1867 ที่ได้ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะสามารถปลดข้าราชการออกจากตำแหน่งได้ ก็ต่อเมื่อวุฒิสภาให้ความเห็นชอบแล้วเท่านั้น
กระบวนการ Impeachment ของจอห์นสัน เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1868 จนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1868
การพิจารณา Impeachment ของแอนดรูว์ จอห์นสัน
โดยการ Impeachment จะประกอบไปด้วยการพิจารณาใน 2 ขั้นด้วยกัน คือ
- ขั้นสภาผู้แทนราษฎร : จะต้องมีคะแนนเสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างน้อย 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด เห็นชอบให้มีการ Impeachment ถ้าการพิจารณาในขั้นนี้ผ่าน กระบวนการ Impeachment ก็จะถูกพิจารณาต่อในขั้นของวุฒิสภา
- ขั้นวุฒิสภา : จะต้องมีคะแนนเสียง จากสมาชิกวุฒิสภาอย่างน้อย 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด เห็นชอบให้ Impeachment ถ้าการพิจารณาในขั้นนี้ผ่าน ประธานาธิบดีที่ถูก Impeachment ก็จะต้องถูกไล่ออกจากการเป็นประธานาธิบดี
ซึ่งผลของการ Impeachment ของจอห์นสันนั้น ในขั้นของสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีมติ 2 ใน 3 ให้ Impeachment จอห์นสัน
แต่ในขั้นของวุฒิสภา กลับมีคะแนนเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ส่งผลให้ แอนดรูว์ จอห์นสัน รอดพ้นจากการถูก Impeachment และสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ต่อไป
แอนดรูว์ จอห์นสัน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนหมดวาระ ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1869 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง ในวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1875 ด้วยวัย 66 ปี
สื่อหลายแห่งของสหรัฐฯ มองว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนที่คล้ายคลึงกับแอนดรูว์ จอห์นสัน
เรียกได้ว่า แอนดรูว์ จอห์นสัน เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่ได้สร้างแง่ลบและไม่เป็นที่นิยมของชาวอเมริกันมากที่สุด คนหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา