**ต่อจากโพสต์เทคนิคสัมภาษณ์งาน
เคยไหมที่ส่งเมลสมัครงานไปเท่าไหร่
ก็ไม่มีการตอบกลับจากบริษัทเลย
ส่งไปหลายสิบบริษัทตอบกลับมาบริษัทเดียว
ทั้งที่ตั้งใจเขียนดีแล้วแท้ๆ เช็คแกรมม่าถูกแล้ว
แต่ทำไมไม่มีผลตอบรับเลย
ขออ้างสถิติอีกครั้ง จาก 10 ใน 10 คน
หรือแม้กระทั่ง 50 ใน 50 คน
ไม่ว่าจะแป็นเด็กจบใหม่หรือคนที่พอมีประสบการณ์บ้างแล้ว
เคยสอบถามล้วนมีอาการแบบนี้กันทั้งนั้น
ปัญหาหนึ่งที่สำคัญเลย
มันไม่ได้อยู่ที่ว่า HR หรือ
ผู้มีอำนาจตรวจสอบเขาอ่านแล้วเขาไม่ชอบ
แต่เขาไม่เคยอ่านมันเลยดีกว่า
ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาไม่เลือกที่จะอ่าน
และยังมีที่แย่สุดคือเขาไม่เคยเห็นเมลฉบับนั้น
ในโพสต์นี้จะขอแชร์เทคนิคส่วนตัวที่ใช้มาไม่ว่าจะส่งเมล
หรือเอกสารให้แผนกไหนก็ตาม
1. การต้องส่งเมลหรือ e-mail เป็นภาษาต่างประเทศหรือ
ที่ส่วนใหญ่ส่งเป็นภาษาอังกฤษนั้น
จงตรวจสอบดูให้ดีว่าควรเขียนแบบแพรวพราว
ใช้สำนวนที่แม้แต่เจ้าของภาษายังต้องว้าวเลยไหม ส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็น
เพราะเคยทำการทดลองแล้วว่า ส่ง e-mail จากคนละแอคเคาท์ คนละชื่อ
แต่ในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ที่อีกอันเขียนแบบธรรมดา
ใช้คำศัพท์ไม่ง่ายเกินไปและ ไม่ยากเกินไปที่คนไทยจะเข้าใจได้
และอีกฉบับคือใช้ภาษาแพรวพราว
เน้น Perfect tense, ศัพท์เฉพาะวิศวกร
ปรากฏว่าส่วนใหญ่ที่ตอบกลับมานั้นคือฉบับที่ Simple และเรียบง่าย
2. ชื่อแอคเคาท์ที่ใช้ส่งเมลนั่นก็สำคัญ
หากตอนนี้แอคเคาท์ที่ใช้อยู่เป็นรูปแบบประมาณว่า
หรือแม้แต่ kasemsanza1234@gmail.com
ขอให้ลองทำแอคเคาท์ใหม่ขึ้นมาอย่างเป็นระเบียบอ่านแล้วไม่ชวนหยี
อาจจะตั้งเป็นชื่อพร้อมกับนามสกุลแบบย่อไปก็ได้
3.ชื่อไฟล์เอกสารแนบก็สำคัญ หลายคนติดตั้งชื่อไฟล์แบบเล่นๆ ประมาณว่า Hear.pdf, adhfjsr.pdf หรือแม้กระทั่งตั้งชื่อไฟล์ว่า สมัครงานตำแหน่งอื่นในบริษัทอื่นเช่น กำลังจะส่งไฟล์ให้บริษัท Thaio หลังจากที่ส่งไฟล์ให้บริษัท Pt ตั้งชื่อไฟล์เป็น
สมัครงานPt.pdf
แน่นอน HR เห็นก็คงจะตะหงิดใจอยู่ไม่น้อย
ส่วนนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่อาจมีผลกับการพิจารณาได้ดังนั้นรอบคอบเข้าไว้
4.ส่วนนี้สำคัญมาก!
เมื่อเตรียมตัวมาดีแล้วให้เลือกเวลาส่งเมลให้ดี
ขอแนะนำช่วงเวลาทองที่เคยทำการทดลอง
จากการเดาใจว่าช่วงเวลาไหน
ที่ HR พร้อมที่จะอ่านเมลทันที
วันที่ควรส่งมีดังนี้
- 08.15 น. ในช่วงเช้าเป็นช่วงที่กำลังเริ่มเปิดคอมพ์
และอาจรอบูสเครื่อง ในช่วงรอนั้นมีโอกาสที่เขาจะลุกไปชงกาแฟ
หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน
ให้เผื่อเวลาไว้ 15 นาทีหลังเข้างานจึงส่ง
- 10.15 น. เป็นช่วงของการทำงานครึ่งเช้าหรือ
บางที่ อาจจะกำลังประชุมเสร็จเมื่อเวลา 10.00 น.
ให้เผื่อเวลาไว้ 15 นาทีอีกเช่นเคยหากการประชุมนั้นมีความเครียด
ก็อาจจะเบาลงเมื่อมาเปิดอ่านเมล
-13.15 น. เป็นช่วงเวลาหลังพักเที่ยง
ซึ่งอิ่มจากมื้อกลางวันแล้ว เป็นช่วงที่ยังไม่ง่วงมาก
มีโอกาสที่จะเปิดมากกว่าตอนที่ง่วงแล้ว
-15.00 เป็นช่วงเวลาที่ HR จะเริ่มเคลียร์งานค้างให้เสร็จภายในวัน
หรือแม้กระทั่งเสร็จงานในวันนั้นแล้วมีเวลาเปิดเช็คเมลอีกครั้งก่อนเลิกงาน
คราวนี้มาถึงวันที่ควรส่ง
จากประสบการณ์ผมมักจะส่งเมลสมัครงานในช่วงวันจันทร์
ตามเวลาข้างบนที่กล่าวไว้ แต่ไม่ได้หวังผลมากเท่าไหร่
ด้วยเหตุที่ว่า เป็นวันแรกของการทำงานในสัปดาห์นั้น
HR อาจต้องเคลียร์งานที่ค้างเมื่อสัปดาห์ก่อนในกรณีที่ต้องเร่งส่ง
จากสถิติที่ตอบกลับมา
เป็นอีเมลที่ส่ง วันอังคาร พุธ พฤหัสบดี
ซึ่งเป็นช่วงที่พนักงานจะเริ่มปรับตัวจากวันหยุดและ
ยังไม่เตรียมตัวที่จะพักผ่อนเหมือนวันศุกร์
ซึ่งหากส่งวันศุกร์มีโอกาสที่จะถูกมองข้าม
เพราะใจมุ่งอยู่กับวันพักผ่อนสุดสัปดาห์ตั้งแต่เย็นวันพฤหัสบดีแล้ว
คราวนี้ก็ช่วงเดือนกันบ้าง
ในหนึ่งเดือนงานของ HR จะต้องทำเงินประกันสังคม
หรือคำนวณเงินเดือน ภาษี ค่านู้นนี่ต่างๆของพนักงาน
เพื่อส่งให้บัญชีซึ่งปกติแล้วจะทำในช่วงต้นเดือนและปลายเดือน
ช่วงกลางเดือนจึงมักมีโอกาสเปิดอีเมลสมัครงาน
มากกว่า จากประสบการณ์การตอบกลับมักจะตอบกลับมาหลังวันที่ 10
และในระหว่างวันที่ 10 ถึง 20 จะมีโอกาสตอบกลับเพราะไม่มีภาระเร่งด่วน
ขึ้นอยู่กับบริษัท
สิ่งที่ควรเลี่ยงคือ อย่าส่งอีเมลตอนกลางคืน
เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่เมื่อ HR มาเปิดเมลตอนเช้าแล้วแล้วจะมีเมลกองทับกันหลายฉบับ
และนี่เป็นสาเหตุพร้อมวิธีปรับแก้กลยุทธ์การ
ส่งเมลให้ HR ได้อ่าน
ซึ่งหลายคนมองข้ามไปว่าทำไมเขียนเมลดีแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับ
สาเหตุหลักอาจเป็นเพราะ
"เขาไม่เห็นเมลคุณเลยต่างหาก"
ไม่ว่าคุณอยากจะทำอะไร "เริ่มซักที"
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
