16 ม.ค. 2021 เวลา 01:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
สวัสดียามเช้าทุกๆท่านด้วยนะครับ
วันนี้หมีอ้วน​ ก็นำเอาสาระความรู้มาฝากเช่นเดิ
เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ​ Big​ data​ มาบ้างแต่เคยสงสัยไหมครับว่าเจ้า​
Big​ data​ เนี่ย​มันคืออะไร และมีการทำงานอย่างไรกันบ้างนะ
.
ถ้าหากทุกท่านพร้อมแล้ว​ ตามหมีอ้วนมาชมได้เลยครับ
.
.
✏️ก่อนอื่นเรามาทราบประวัติของ​ BIG​ DATA​ กันก่อนที่จะไปชมว่ามันคืออะไรนะครับ
💡ประวัติและความเป็นมาของ big data
.
ถึงแม้ว่าแนวคิดเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data จะเป็นของใหม่และมีการเริ่มทำกันในไม่กี่ปีมานี้เอง แต่ต้นกำเนิดของชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้มีการริเริ่มสร้างมาตั้งแต่ยุค 60 และในยุค 70
.
โลกของข้อมูลก็ได้เริ่มต้น และได้พัฒนาศูนย์ข้อมูลแห่งแรกขึ้น และทำการพัฒนาฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ขึ้นมา
.
ประมาณปี 2005 เริ่มได้มีการตะหนักถึงข้อมูลปริมาณมากที่ผู้คนได้สร้างขึ้นมาผ่านสื่อออนไลน์ เช่น เฟสบุ๊ค ยูทูป และสื่อออนไลน์แบบอื่นๆ
.
Hadoop เป็นโอเพ่นซอร์สเฟรมเวิร์คที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกันให้เป็นที่เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และในช่วงเวลาเดียวกัน NoSQL ได้ก็เริ่มขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้น
.
การพัฒนาโอเพนซอร์สเฟรมเวิร์ค เช่น Hadoop (และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มี Spark) มีความสำคัญต่อการเติบโตของข้อมูลขนาดใหญ่ เนื่องจากทำให้ข้อมูลขนาดใหญ่ทำงานได้ง่าย
.
และประหยัดกว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนยังคงสร้างข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ทำมันขึ้นมา
.
การพัฒนาการของ IOT (Internet of Thing) ซึ่งเป็นเครื่องมืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เนตก็ทำการเก็บและรวบรวมข้อมูลซึ่งอาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ประสิทธิภาพของสินค้า หรือการเรียนรู้ของเครื่องจักรพวกนี้ล้วนทำให้มีข้อมูลขนาดใหญ่
.
แม้ว่ายุคของข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data มาถึงและได้เริ่มต้นแล้ว แต่มันก็ยังเป็นเพียงแต่ช่วงแรกๆ และระบบคลาวด์คอมพิวติ้งก็ได้ขยายความเป็นไปได้มากขึ้น คลาวด์มีความสามารถในการในการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นได้
.
.
หลังจากทราบประวัติมาคร่าวๆแล้วมาดูกันดีกว่าว่า​ Big​ data​ นั้นคืออะไร
.
Big Data ก็คือชุดข้อมูลใดๆ ก็ตามที่มีขนาดใหญ่และถูกเก็บบันทึกไว้ผ่านวิธีการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นฐานข้อมูลภายในองค์กรของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการทำ transaction ต่างๆ หรือข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า
ในปัจจุบันโลกกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ชุดข้อมูล (Data) จำนวนมากถูกสร้างขึ้นใหม่ทุกวัน และสามารถทำการเก็บรวบรวมได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต การรับชมสื่อออนไลน์ หรือธุรกรรมสำคัญต่างๆ
.
โดย Big Data นั้นสามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามโครงสร้างของชุดข้อมูลได้ดังนี้
.
ข้อมูลที่มีโครงสร้างชัดเจน (Structured Data)
หมายถึง ชุดข้อมูลที่มีการจัดเรียงโครงสร้างอย่างเป็นระเบียบ มีความชัดเจน หรือระบุได้ด้วยตัวเลข พร้อมใช้งานได้ทันที เช่น จำนวนการซื้อขายกับลูกค้า เปอร์เซ็นต์ความเคลื่อนไหวภายในตลาดหุ้น ฯลฯ
.
ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data)
หมายถึง ชุดข้อมูลที่มีโครงสร้างไม่ชัดเจน หรือไม่สามารถระบุความแน่นอนของข้อมูลนั้นๆ ได้ ยังไม่สามารถประมวลผลเพื่อนำไปใช้ได้ทันที อย่างเช่น บทสนทนาโต้ตอบกับลูกค้าทาง Social Media
.
ข้อมูลกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-Structured Data)
หมายถึง ชุดข้อมูลที่มีโครงสร้างระดับหนึ่งแต่ยังไม่สมบูรณ์ เช่น สเตตัสใน Social Media เป็นข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง แต่ในกรณีที่มี Hashtag (#) เข้ามาช่วยในการจัดหมวดหมู่ จะทำให้ข้อมูลมีความเป็นระเบียบขึ้นมาเล็กน้อย
.
ในส่วนทางด้านของคุณสมบัติของ Big Data
.
จะมีลักษณะโดยรวมอยู่ 6 ประการด้วยกัน หรือที่มีการพูดถึงในชื่อ “5Vs 1C” โดยคุณลักษณะทั้ง 6 ของ Big Data นั้น มีดังนี้
.
1. ข้อมูลที่มีปริมาณมาก (Volume)
หมายถึง มีปริมาณข้อมูลอยู่มาก มีขนาดใหญ่ สามารถนับรวมได้ทั้งข้อมูลแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ โดยข้อมูลต้องมีขนาดใหญ่เกินกว่า Terabyte
ยกตัวอย่างเช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรทั่วโลกที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งแต่ละคนมีพฤติกรรมการใช้งานข้อมูลที่หลากหลาย ทำให้ปริมาณของข้อมูลที่เกิดขึ้นมีจำนวนมหาศาล
.
2. ข้อมูลที่มีความหลากหลาย (Variety)
หมายถึง ข้อมูลแต่ละชนิดนั้นมีความหลากหลาย รวมกันทั้งรูปแบบมีโครงสร้าง ไม่มีโครงสร้าง และกึ่งโครงสร้าง
ยกตัวอย่างผ่านพฤติกรรมของ Social Media User ที่ในแต่ละวันสามารถสร้างชุดข้อมูลได้หลากหลาย
เช่น การคอมเมนต์ลงในโพสต์ทาง Facebook จัดเป็นข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้าง เพราะไม่สามารถคาดเดาคำตอบและโพสต์ที่เขาสนใจจากคอมเมนต์ได้
ส่วนข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบสอบถามผ่าน Google Form ที่มีคำถามและคำตอบให้เลือกอย่างชัดเจน และข้อมูลนั้นสามารถนำไปใช้ต่อได้เลยทันที จะจัดว่าเป็นชุดข้อมูลแบบมีโครงสร้าง
เนื่องจากการใช้งานของ Social Media User นั้นไม่ได้เป็นระเบียบแบบแผนตายตัว ทำให้นอกจากมีปริมาณข้อมูลเกิดขึ้นอย่างมหาศาลแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นยังเต็มไปด้วยความหลากหลายและซับซ้อนอีกด้วย
.
3. ข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Velocity)
หมายถึง ข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นและเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อมูลแบบ Real-time มากมาย อย่างเช่นข้อมูลการจราจร
ซึ่ง Google Map ก็ได้ใช้ประโยชน์จากการเข้าถึง GPS ของผู้ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน เพื่อวิเคราะห์และนำเสนอเส้นทางที่การจราจรคล่องตัวที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
.
4. ข้อมูลที่สร้างประโยชน์นำไปใช้ในทางธุรกิจได้ (Value)
หมายถึง ข้อมูลที่มีคุณค่าต่อการนำไปใช้งาน สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลผ่าน Google ที่ทำให้สามารถทราบถึงความสนใจของผู้คนในช่วงเวลานั้นๆ ได้
.
5. ข้อมูลต้องมีความถูกต้องชัดเจน (Veracity)
เนื่องจาก Big Data นั้นรวบรวมข้อมูลไว้เป็นจำนวนมหาศาล เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความถูกต้องชัดเจนของข้อมูล ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อการใช้งานต่อในอนาคตได้
.
6. ข้อมูลต้องมีความเชื่อมโยงกัน (Complexity)
การจะใช้ประโยชน์จาก Big Data ได้นั้น มีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญนั่นก็คือความเชื่อมโยงกันของข้อมูล
หากสิ่งที่รวบรวมมานั้นไม่สามารถหาจุดเชื่อมโยงกันได้ ข้อมูลเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์ การเก็บ Data ที่มีประสิทธิภาพนั้นจึงต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์กันของข้อมูล​ด​้​ว​ย
.
.
Big Data มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง?
จากคุณสมบัติของ Big Data ที่ได้กล่าวไปในข้างต้น มาดูกันว่าสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรบ้างต่อการดำเนินธุรกิจ โดยสามารถสรุปออกมาได้ทั้งหมด 3 ประการ ดังนี้
.
1. สร้างธุรกิจใหม่จาก insight ผู้บริโภคอย่างแท้จริง
Big Data ส่งผลเป็นอย่างมากต่อการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยชุดข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ทำให้มองเห็น pain point ของธุรกิจที่กำลังจะเริ่มเข้าไปได้ง่ายขึ้น และสามารถสร้างธุรกิจที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจ Local Food Delivery ที่ให้บริการในเขตต่างจังหวัด ได้นำเอาตัวอย่างโมเดลธุรกิจและ Data จาก Food Delivery รายใหญ่ๆ อย่าง Grab หรือ Food Panda มาใช้ในการทำธุรกิจ
https://www.google.com/search?q=food+panda&tbm=isch&client=ms-android-huawei&prmd=ivmn&hl=th&sa=X&ved=2ahUKEwjEz9uD3p3uAhXy1XMBHR6BAjsQrNwCKAF6BQgBEPMB&biw=360&bih=600#imgrc=OVKVFmagVHOflM
https://www.google.com/search?q=grab+food&client=ms-android-huawei&prmd=ivmn&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwjo79eC3p3uAhVnzjgGHaHWC-sQ_AUoAXoECAIQAQ&biw=360&bih=600#imgrc=UIzynxfAKDWc5M
ทำให้ Local Food Delivery สามารถเริ่มต้นธุรกิจนี้ได้อย่างรวดเร็วและเติบโตได้ไม่ยาก ตอบโจทย์ต่อผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย
.
2. เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น
บ่อยครั้งที่ในการทำ transaction ซื้อของออนไลน์ แล้วผู้บริโภคอยู่ระหว่างขั้นตอนการตัดสินใจเลือกซื้อหรือไม่สะดวกทำตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้นในเวลานั้นๆ ระบบซื้อขายออนไลน์ดังกล่าวจะมีการช่วยแจ้งเตือนจ่ายเพื่อให้ตัดสินใจซื้อและชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ พร้อมทั้งยังแนะนำสินค้าหรือบริการอื่นๆ ที่ลูกค้ากำลังให้ความสนใจได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่ AI ได้รวบรวม Data พฤติกรรมการค้นหา และเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคไว้อย่างละเอียด ทำให้สามารถคาดเดาพฤติกรรมในอนาคตของผู้บริโภคได้ว่า กำลังสนใจอะไร และสินค้าประเภทใดบ้างที่มีโอกาสจะซื้อ
การทำความเข้าใจในตัวลูกค้า (Customer Insight) จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่าง Netflix ที่ใช้ประโยชน์จากการรู้ถึงความชื่นชอบของผู้ใช้งาน แล้วจึงนำเสนอคอนเทนท์ใหม่ๆ ตามความสนใจที่แตกต่างกันให้กับลูกค้าอยู่เสมอ
จึงอาจกล่าวได้ว่า ธุรกิจในปัจจุบันใช้ประโยชน์จาก Big Data ในแง่ของการทำให้เกิด Data-Driven หรือการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ที่องค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ นำมาใช้วิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น
.
3. พัฒนาศักยภาพธุกิจ และก้าวนำหน้าคู่แข่ง
Big Data ทำให้แต่ละธุรกิจมีข้อมูลจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ ธุรกิจใดที่สามารถจับความเชื่องโยงภายในกลุ่มข้อมูลเหล่านั้นออกมาได้ จะสามารถสร้างกลยุทธ์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง และใช้มันเพื่อเข้าถึงตัวลูกค้าได้ก่อนใคร
การมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างคุ้มค่า จะเป็นกำลังสำคัญให้กับธุรกิจในอนาคต เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด จนสามารถแข่งขันกับคู่แข่งอื่นได้
.
Summary
ในยุคที่ Data สำคัญพอๆ กับทองคำ ความเป็นไปของโลกจะเป็นอย่างไรนั้น สามารถคาดการณ์ทิศทางได้จากข้อมูลที่คุณมีอยู่
Big Data เปรียบเสมือนการลงทุนในระยะยาว ที่คุณอาจยังไม่ได้ประโยชน์อะไรจากมันมากนักในช่วงแรก แต่ในอนาคต ข้อมูลมหาศาลที่มีคุณค่าที่คุณถือครองอยู่นั้น จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างมาก
.
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ​ บทควา​มเกี่ยว​กับ​
Big​ data​ หวังว่าทุกท่านจะได้ข้อมูลไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
สำหรับบทความถัดไปจะเกี่ยวกับอะไรนั้น​ รอติดตามชมต่อได้เลยครับ​ ถ้าไม่อยากพลาด​ ฝากกดไลค์กดติดตา​มด้วยนะครับ​
ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านนะครับบ🙏❤️
โฆษณา