เพรชสีเลือด. Blood Diamond
Civil war
หากพูดถึงการขุดค้นพบเหมืองแร่ เราคงคิดว่าต้องมั่งคั่งร่ำรวย แต่คงไม่ใช่กับแผ่นดินนี้ "แอฟริกากลาง"
ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของแผ่นดินแอฟริกา เมื่อไหร่ที่มีการค้นพบสิ่งของมีค่า คนท้องถิ่นจะต้องตายอย่างโหดร้ายและเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาช้าง ยาง ทองคำ น้ำมัน และ เพชร
จากข้อมูลของ Global Witness ประมาณการณ์ว่าเพชร 15% ของตลาดโลก มาจากเขตสงคราม ในประเทศเซียร์ราลีโอน, แองโกลา ,คองโก
โดยมีผู้คนนับล้านเสียชีวิตจากสงครามกลางเมือง ที่มีเพชรเป็นเงินสนับสนุนสงคราม กลุ่มกบฏใน3ประเทศ จะดำเนินแผนการต่อสู้คล้ายๆกัน คือ
ต่อสู้กับรัฐบาล ยึดเหมืองเพชร เข็ญฆ่า ตัดแขนตัดขาประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยให้เหตุผลว่า"ประชาชนใช้มือในการเลือกรัฐบาล ถ้าถูกตัดมือก็จะไม่มีมือไปเลือกตั้งรัฐบาล " ชาวบ้านถูกเผาทั้งเป็น เด็กผู้หญิงถูกข่มขืนและฆ่า ส่วนเด็กผู้ชายบางคนจะถูกฝึกเป็นทหาร โดยบางครั้งจะให้เด็กผู้ชายเสพยา แล้วสร้างความเชื่อให้เด็ก เชื่อและเห็นด้วยกับแนวทางกลุ่มกบฏ
จนในปี 1999 สหประชาชาติ ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพ เข้าไปรักษาสันติภาพจนสงครามยุติลงในปี 2001
ประมาณการณ์กันว่า มีคนเสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองในแองโกลา อยู่ที่ 1 ล้านคน และในเซียร์ราลีโอน จำนวน 120,000 คน อีก2 ล้านคน กลายเป็นผู้ลี้ภัย
ในปี2001 ทางสหประชาชาติและอีกหลายๆองค์กร ได้ร่วมมือกันทำสัญญาต่อต้านการรับเพชรจากเขตสงคราม โดยการออกใบรับรอง
"Kimberly Process"
ที่รัฐบาลของประเทศผู้ส่งออกเพชร จะออกให้กับผู้ค้าเพชร เพื่อยืนยันว่าเพชรนั้นได้มาจากธุรกิจถูกกฎหมายและปลอดสงคราม เพชรจึงจะไหลเข้าสู่ตลาดโลกได้
ปัจจุบัน บริษัทค้าเพชร ได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการติดตามข้อมูลที่มาของเพชร เพื่อให้ทราบแหล่งที่มาของเพชร โดยข้อมูลจะถูกต้องและไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้