15 ม.ค. 2021 เวลา 16:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ศัพท์การเงินที่ได้ยินบ่อยๆ
ช่วงแรกๆ ที่บุ่นสนใจเรื่องลงทุน บุ่นหาข้อมูลแบบมั่วมาก คือไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ซื้อหนังสือมาอ่านก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะศัพท์เยอะมาก แล้วเป็นศัพท์ที่ไม่คุ้นทั้งนั้น ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะเริ่มจับทางได้บ้าง
พอตัดสินใจเรียนต่อการเงิน แค่คอร์สปรับพื้นฐานก็แทบหยุดหายใจ 555 ไม่รู้เรื่องมากกว่าเดิม คำว่า compound interest ไม่รู้จัก ไป google หาคำแปลคือดอกเบี้ยทบต้น ก็ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะไม่รู้ว่าดอกเบี้ยทบต้นคืออะไรจริงๆ
ช่วงหลังๆ มีโอกาสได้ฟังข่าวเศรษฐกิจและการลงทุนมากขึ้น ได้ยินคำศัพท์ที่ได้ยินบ่อยๆ ในข่าวและตอนเรียน เลยมาจดไว้ในสมุดเล่มนี้ดีกว่า
Active investing = กลยุทธ์การลงทุนเพื่อให้ชนะตลาด เช่น ภาพรวมตลาดให้ผลตอบแทน 10% Active investing พยายามทำให้ได้ผลตอบแทนมากกว่า 10%
Asset allocation = การจัดสรรเงินเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น ตราสารนี้ ทองคำ
Capital gain = ส่วนต่างราคาที่ได้กำไร เช่น ชื้อหุ้นมาเมื่อวาน 30 บาท ขายวันนี้ราคา 32 บาท ได้กำไร 2 บาท
Capital loss = ส่วนต่างราคาที่ขาดทุน เช่น ซื้อหุ้นมาเมื่อวาน 30 บาท ขายวันนี้ราคา 29 บาท ขาดทุน 1 บาท
Compound interest =ดอกเบี้ยทบต้น คือ การไม่ถอนดอกเบี้ยออกมาใช้ ปล่อยให้ดอกเบี้ยรวมกับเงินต้นไปเรื่อยๆ
Diversify = กระจายการลงทุน เช่น ลงทุนในหุ้น แบ่งเป็น หุ้นในประเทศ 50% หุ้นต่างประเทศ 50%
Dividend = เงินปันผล คือเงินที่อาจจะได้จากการลงทุน
Equity = ตราสารทุน เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ
Fixed income = ตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้
Future value = มูลค่าในอนาคต
Market capitalization = มูลค่าทางการตลาด เช่น บริษัท A มีหุ้นจำนวน 100 หุ้น ราคาวันนี้คือ 5 บาท แสดงว่าบริษัท A มีมูลค่าทางการตลาด 100*5=500 บาท
Money market = ตลาดเงิน คือ ตลาดที่มีการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี
Passive investing = กลยุทธ์การลงทุนเพื่อให้เคลื่อนไหวตามตลาด ภาพรวมตลาดให้ผลตอบแทน 10% Passive investing ก็พยายามเกาะตลาดไป
Present value = มูลค่าปัจจุบัน
Return = ผลตอบแทน เช่น ซื้อหุ้นมาเมื่อวาน 100 บาท วันนี้ขายหุ้นที่ 110 บาท ผลตอบแทนที่ได้คือ ((32-30)/30)*100 = 6.67%
Risk = ความเสี่ยง หมายถึงโอกาสขาดทุน เช่น ซื้อหุ้นกับฝากเงินในธนาคารเป็นจำนวนเงินเท่ากัน 100 บาท 1 เดือนผ่านไป มูลค่าหุ้นอาจทำให้เราได้กำไร เช่น มูลค่าหุ้นขึ้นไป 105 บาท แต่ก็อาจจะขาดทุนเพราะมูลค่าหุ้นตกลงไปเหลือ 95 บาทเหมือนกัน แบบนี้คือซื้อหุ้น มีโอกาสขาดทุนหรือเสี่ยงมากกว่าฝากเงินในธนาคาร
Valuation = การประเมินมูลค่า จะได้ยินบ่อยๆ จาก value investors เนื่องจากจะมีการประเมินมูลค่าหุ้น เพื่อหาราคาที่เหมาะสม
Volatility = ความผันผวน บางทีบุ่นได้ยินนักวิเคราะห์พูดว่าหุ้นตัวนี้มี volatility สูงแทนคำว่าผันผวนมาก
Weight = สัดส่วน เช่น ลงทุนในหุ้น weight = 50% ที่เหลือเป็นตราสารหนี้
ขอบคุณที่กดติดตามนะค้าาา ถ้าชอบกดไลค์ ถ้าใช่ฝากกดแชร์ค้าาาา ♥️❤️♥️
โฆษณา