16 ม.ค. 2021 เวลา 12:19 • การตลาด
Charnchalard DHAWEESAP :
Japanese Style 1
D.ALCH : the Dream Alchemist EP.14
สวอต อะนาลิสิส (SWOT Analysis) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่นักการตลาดนำมาวิเคราะห์ตน หาจุดอ่อน จุดแข็ง โอกาสและสิ่งที่เป็นอุปสรรค การรู้ตนนำมาสู่ความแตกต่าง บ้างก็เสริมตนในส่วนที่เป็นจุดอ่อน บ้างก็เหลาด้านแข็งให้แหลมขึ้น หรือบ้างก็ทำที่ตนถนัดไปเช่นเดิม แต่มองหาคนที่มีจุดแข็งอื่นมาเติมเต็มตนเองแทน วูดส์ ออฟฟิศ โมเดลก็เป็นเช่นนั้น เมื่อมองว่าการเปิดตัว เจมส์ในฐานะนักร้อง ชาวญี่ปุ่นน่าะเปิดใจรับได้ง่ายกว่าการเป็นนักแสดง (ในฐานะนักร้องญี่ปุ่นไม่ใช่นักร้องต่างชาติที่มาโชว์) แผนที่วูดส์นำเสนอคือการสร้างพันธมิตรมาทำพันธกิจนี้ วูดส์ดูแลด้านการจัดการ "ฮาคูโฮโด"(Hakuhodo) ดูเรื่องการตลาดและการสร้างแบรนด์ "ยูนิเวอร์แซล มิวสิค"(Universal Music) ดูแลเรื่องการทำเพลง
นอกจากนี้เนื่องด้วยไม่มีทรัพยากรใดๆเลยในการรองรับงานบันเทิง ทางบริษัทจึงหาผู้ที่เชื่อว่าเป็นมือหนึ่งในด้านนั้นๆ เข้ามาร่วมงานเฉพาะกิจ ก่อให้เจมส์มีโอกาสได้ร่วมงานกับมืออาชีพระดับตำนานหลายท่าน เช่น สไตล์ลิสต์(Stylist) ยาสุโกะซัง ผู้เคยดูแลสไตล์ให้ศิลปินระดับโลกอย่าง "เดวิด โบวี"(David Bowie) มาแล้ว หรือครูสอนเต้น ทาคาฮิโร่ อูเอโนะ นักออกแบบท่าเต้น(Choreographer)ระดับตำนาน ที่แม้แต่ "มาดอนน่า"(Madonna)ยังปลาบปลื้ม เรื่องการเต้นนี่ทำให้เห็นถึง "มายด์เซ็ต"(Mindset)ที่แตกต่างกันของ 2 ชาติอย่างเกาหลี และญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ครั้งฝึกฝนที่เกาหลีเคยไปนั่งดูเจมส์ฝึกซ้อมอยู่ กระผมเองก็มองว่า เจมส์เต้นได้ดีขึ้น ดูแข็งแรง ออกแต่ละท่าชัดเจน แต่ครูฝึกจะติงบ่อยครั้ง กระผมกับพี่ปิ๊กก็พยายามหาว่าไม่ดีตรงไหน พอนั่งจับประเด็นก็สังเกตเห็นได้ การเต้นเป็นการเรียงร้อยท่าทั้งหลายเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง เจมส์จะจดจ่อกับการจำท่ามาก ทำให้เริ่มท่าได้ดี แต่ปลายท่าแต่ละท่าจะไม่คมเท่าตอนเริ่ม เพราะสมาธิมัวแต่ไปคิดว่าท่าต่อไปคืออะไร เต้นไปใจไม่ได้อยู่กับสิ่งรอบกาย แต่จดจ่ออยู่กับตนเองและท่าเต้น พอมาที่ญี่ปุ่น เจอหน้าครูทาคะซังครั้งแรก ครูให้เจมส์เต้นให้ดูว่าเพลงนี้คิดจะเต้นแบบไหน(เพลงนี้คือเพลง Loving you too much ของพี่เบิร์ดในเนื้อญี่ปุ่นครับ ซึ่งเป็นเพลงเคยแสดงบนเวทีที่คอนเสิร์ตของเขามาแล้ว) พอเห็นเจมส์เต้นไปสักพัก คราวนี้ครูก็เริ่มลุกขึ้นเต้นตามท่าที่พระเอกเราเต้นอยู่ เต้นจนเริ่มร้อน แกก็เดินถอดเสื้อนอกกับหมวกออกวางไว้ที่เก้าอี้แล้วไปเต้นต่อ แกเป็นคนเท่มากนะครับ พอหายร้อนแกก็กลับมาหยิบสูทกับหมวกไปใส่แล้วเต้นแบบเต็มชุดเช่นตอนแรก ช่วงพักซ้อมทาคะซังมานั่งปรึกษากับพี่ปิ๊กถึงภาพโชว์ที่แกคิดไว้ พี่ปิ๊กให้ความคิดเห็นไป ครูพยักหน้าแล้วก็ซ้อมกันต่อ สรุปวันนั้นซ้อมแค่ไม่กี่ชั่วโมง ครูอยากซ้อมต่อแต่ก็ไม่ได้พราะครูเองแกเป็นเซเลบลิตี้นะครับ มีผู้จัดการส่วนตัวมาประกบตลอด บริหารคิวงานที่แน่นทั้งวันของแก แต่ผลลัพท์ออกมาน่าเหลือเชื่อ เพลงแรกเจมส์เต้นพร้อมแดนเซอร์ได้แล้ว น่าจะมาจากการสอนของครูคนนี้ ที่ปล่อยให้ศิลปินแสดงออกมาจากสิ่งที่คิดข้างใน แล้วค่อยมาปรับเล็กน้อยทีหลัง การเต้นเป็นศิลปะ ถ้าเราเห็นวงญี่ปุ่นออกมาแล้วเต้นไม่พร้อมไม่เหมือนกันเลย อย่าได้แปลกใจ เค้าคิดว่าศิลปะคือการแสดงออกถึงตัวตนของศิลปิน อย่างที่ทาคะซังได้กล่าวไว้ในหนังสือ (แกมีหนังสือขายดีออกมาหลายเล่มนะครับ) "หน้าที่ของเขาคือมุ่งมั่นในวิธีการ(process) ส่วนผลของมัน(result) เป็นสิ่งที่คนดูจะตัดสินเองไม่ใช่เขา" ส่วนทางเกาหลีจะอ้างอิงจากวิถีตะวันตกมาก โดยเฉพาะอเมริกา เน้นที่ผลลัพท์ ศิลปินจะถูกฝึกฝนให้เป็นระบบ เพื่อให้พร้อมเพรียงเป็นหนึ่งเดียวกัน อันนี้ก็ไม่มีถูกมีผิดนะครับ สไตล์ใครก็สไตล์มัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา