รักษ์กายบำรุงสติ(5)
นับจากเราทั้งหลายเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่มีสักวันที่เราไม่ต้องเผชิญอุปสรรค แตกต่างกันไปแต่ละบุคคลจนเราเองไม่รู้ว่าอะไรคือบรรทัดฐานของนิยามคำว่า"ประสบความสำเร็จ" เมื่อแรกเกิดเพียงดื่มกินนมจากอกมารดายังต้องใช้ความพยายามไปจนกระทั่งหัดคว่ำหัดคลานหัดเดินและพูด ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยไม่ต้องฝึกหัดฝึกฝน หลังจากนั้นเราจะได้รับคำชื่นชมจากผู้คนรอบข้างว่า"เก่งจังเลย ทำได้แล้ว" เช่นนี้ก็เรียกได้แล้วว่าประสบผลสำเร็จ
ในแต่ละช่วงของชีวิตเราจึงมีทั้งความสำเร็จและล้มเหลวปะปนกันไปจนเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดาซึ่งใครๆก็ต้องพบเจอ และยกให้ทุกสิ่งเป็นเรื่องปกติไม่นับรวมไว้ในคำจำกัดความว่า"ประสบความสำเร็จ" แต่ฉันไม่คิดเช่นนั้นเพราะฉันนับรวมทุกความสำเร็จและล้มเหลวนั้นไว้เพื่อรวมให้เป็นคำว่า"ประสบการณ์" นำมันมาเป็นแรงผลักดันให้ตนเองสู้ต่อไปในแต่ละวัน ทิ้งคำสรรเสริญเยินยอจากผู้อื่นเฉกเช่นเด็กน้อยทิ้งคำชมจากผู้คนรอบตัวหันไปหาสิ่งที่ตนสนใจมากกว่า เด็กเล็กนั้นเมื่อทำได้ถูกใจผู้ใหญ่จะได้รับทั้งคำชมและสิ่งของ หากไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใหญ่เห็นสมควรก็จะถูกตำหนิและพร่ำสอนด้วยคำอ่อนโยนบ้าง ดุดันข่มขู่บ้างแตกต่างกันออกไป เมื่อฉันไล่เรียงมาก็ไม่เห็นความผิดแผกจากเดิมเลยในชีวิตประจำวันและการทำงานหรือเข้าสังคม ฉันยังคงต้องเจอเรื่องเช่นนี้ตลอดมาเพียงแต่เปลี่ยนจากคนภายในครอบครัวมาเป็นคนหมู่มากเท่านั้นเอง
ฉันสูดหายใจเข้าออกลึกๆและเชื่องช้าเพื่อจะบอกกับคนในครอบครัวว่า ฉันอยากเป็น"หมอนวด" เพราะขณะนั้นฉันได้รับการรักษาดูแลและสั่งสอนไปพร้อมกันจากพี่ชายผู้อารีย์ จนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้แล้วในระยะเวลาเพียงไม่นาน แน่นอนว่าการตัดสินใจนี้เป็นเพียงคำบอกกล่าวไม่ใช่การขอความคิดเห็นหรือการสนับสนุนจากครอบครัวแต่ประการใด และนั่นเป็นเหตุให้เกิดการเฉยเมยจนกระทั่งใช้คำว่า"ตัดพ่อตัดลูกกัน"จากปากของพ่อฉันเอง แต่มันไม่สั่นคลอนความตั้งใจเดิมของฉันแม้แต่น้อย พ่อขบกรามด่าว่าฉันคิดสั้นตัดอนาคตตัวเองลงไปหาของต่ำที่ผู้คนเขาเบือนหนี ฉันไม่โกรธพ่อหรอกที่คิดแบบนั้นเพราะไม่เฉพาะพ่อแต่หลายต่อหลายคนมองคำว่าหมอนวดเช่นเดียวกันกับคำว่าโสเภณี เนื่องมาจากคำว่าอาบอบนวดและการกระทำของคนประเภทใช้คำว่าหมอนวดมาบังหน้าแสวงหาเงินด้วยวิธีไม่ต่างจากโสเภณี นั่นคือเรื่องของคนอื่นและเรื่องของฉันไม่ได้ถูกเขียนขึ้นมาเช่นเดียวกับเขาเหล่านั้น
แต่ก็ยังดีที่แม่ไม่ตำหนิใดๆ ส่วนน้องๆในขณะนั้นก็ไม่ได้ออกความคิดเห็น แม้ในเวลาต่อมาเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นจะมองว่าฉันเป็นพี่ที่แย่ไม่ได้ดีเหมือนพวกเขาก็ตาม ฉันต้องเผชิญกับสายตาและการแสดงออกซึ่งการเหยียดหยามจากทั้งคนในครอบครัวและจากบุคคลภายนอกตลอดระยะเวลาหลายปีกับการตัดสินใจเลือกเดินทางนี้ แต่นั่นแหละอะไรคือตัวชี้วัดความสำเร็จกันล่ะ เหนือสิ่งอื่นใดคือฉันมีทัศนคติกับอาชีพนี้เช่นไรต่างหาก ก่อนหน้านี้เรียนรู้เพราะอยากเปิดร้านสปาเพื่อความสวยงามแต่พอความคิดเปลี่ยนมาศึกษาด้านนี้จริงจังนอกจากความสวยงามกลับถูกมองในแง่ลบ โลกนี้ความพอดีของคนไม่มีเครื่องมือชี้วัดได้ฉันใด ตัวฉันเองก็ไม่จำเป็นจะต้องสนใจกับคำสรรเสริญนินทาฉันนั้น อาจจะดูว่าฉันตอบโลกใบนี้ด้วยกำปั้นทุบดินไปสักหน่อย แต่สิ่งที่ฉันได้รับกลับมาจากเส้นทางสายนี้ที่เลือกเดินมันคือ"การเข้าใจตัวเอง เข้าใจโลกมากขึ้น"
อุปสรรคต่างๆเกิดขึ้นได้มันก็ดับลงได้ พ่อของฉันยอมรับในตัวฉันได้ในปีที่7ของการเดินทางสายนี้ และเป็นการยอมรับด้วยใจไม่ได้เห็นแก่คำว่าลูกและพ่อแต่อย่างใด เหตุเมื่อก่อไว้ดีผลที่ตามมาย่อมดีเสมอแม้ไม่มีคำว่าเงินทองมาเป็นตัวชี้วัดแต่คุณค่าที่ฉันได้รับมันมากมายมหาศาลเกินกว่านั้นแน่นอน เพราะฉันใช้ใจที่เป็นสุขวัดผลความสำเร็จและฉันยินดีอย่างยิ่งหากผลสุดท้ายแล้ว ฉันต้องนอนข้างถนนในบั้นปลายหรือต้องตายอย่างโดดเดี่ยวแต่มีธรรมะนำทางเพียงเท่านี้ฉันก็สุขใจ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
