17 ม.ค. 2021 เวลา 05:23
17. ช่วยให้. เกษตรกรช่วนเหลือตนเองได้
งานที่เกษตรตำบลอย่างพวกผมจะไปทำก็คืองานส่งเสริมการเกษตร
หรือที่เรียกกันว่าเกษตรตำบล มีบทบาท อย่างแรกก็คือการถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือการให้ความรู้ด้านการเกษตรแก่เกษตรกร.
ลักษณะของมันจึงเหมือนกับการศึกษานอกโรงเรียน
เพืยงแต่ไม่จำกัดอายุ 16 ปีหรือ 80 ปี ไม่มีการรีไทร์ หรือไล่ออก
สามารถเรียนได้ไปกระทั่งตาย และงานต่อมาก็คืองานด้านบริการ
เป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำแก่เกษตรกรถ้าเกษตรกร
อยากทราบ ข้อมูลด้านวิชาการและอื่น ๆ
ผมได้ยึดหลักในการทำงานตามปรัชญากรมส่งเสรีมการเกษตร
ที่ได้อบรมเกษตรตำบลในครั้งนี้ และเป็นครั้งแรก ที่ได้พบกับ
แนวทางที่เรานักส่งเสริมการเกษครที่จะต้องเดินไป
ตามปรัชญากรมส่งเสริมการเกษตร ที่ว่า
"ช่วยให้ เกษตรกรช่วยเหลือตนเองได้ "
แม้ว่าตอนหลังจะเปลี่ยนไป แต่จะเป็นอย่างไรนั้น เราก็ไม่ต้องคิดถึงมันเพราะเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ เวลาใหม่ เหตุการณ์ใหม่ เราจะเอาเรื่อบในอดีต มาแนะนำคนอื่นไม่ได้แล้ว
การเป็นนักส่งเสริมบอกเราว่า ความสำเร็จที่เคยมีมาเมื่ออดีต
นำมาใช้ใหม่ไม่ได้แล้ว เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไป นักส่งเสริมไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้แม้แต่คนเดิม สถานทีเดิมก็ตาม
ต้องวิเคราะห์สถานการณ์ใหม่เสมอ จึงเป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่จะจัดการกับมันต่อไป
แต่ที่เขียนมานี้เพื่อบันทึกไวัในความทรงจำ จะจำไว้คนเดียวคงไม่สนุก เพียงเล่าสู่กันฟังเท่านั้น
ในระยะหลังเขาจะเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นให้เกษตรกรพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ผมก็เพียงฟังไว้
แต่ยังยึดของเดิมซึ่งสามารถปรับปรุงต่อยอดให้เป็นการพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป ในเรื่องนี้ผมไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแต่ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าเพื่อจะเป็นพื้นฐานในเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไป
พอมาช่วงหลังเขามีวิสัยทัศน์ มีพันธกิจ คำขวัญ ปรัชญา
คิดว่าเขาขึ้นป้ายไว้โก้โก้ ตอนที่เขาขึ้นป้ายใหม่ ๆก็ทำท่า
จะเขวไปเหมือนกัน พออ่านนาน ๆก็รู้สึกเฉย ๆ
เพียงแต่คิดว่า นี่คือเข็มทิศชี้บอกทิศทางการทำงานของเรา
แม้ว่าอะไร ๆจะเปลี่ยนไปในรอบ 38 ปี แต่ยังไงผมก็ยังยึด ปรัชญาแรกทราผมได้รู้จักครั้งแรก
ท่านคงคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เขามีไว้ให้ผู้คนเขาอ่าน หรือไม่ก็ตั้งไว้
ให้เป็นของเจ้าหน้าที่ประพฤติและปฏิบัติไปตามแนวนั้นไม่เห็นมีอะไรมาก ซึ่งถ้าคิดเช่นนั้นก็คงไม่ผิด แต่สำหรับผมมันมีเรื่อง ที่จะเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เผื่อจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับรุ่นหลัง ๆได้บ้าง
เรื่องแรกที่ผมเจอ ก็เป็นที่ทราบนะครับ ผมมาทำงานก่อนที่ผมได้รับการอบรม จังหวัดที่ผมทำงานอยู่นั้เป็นที่ตั้งของหน่วยปราบศรัตรูพืชที่ 2 สุพรรณบุรี ที่ดูแลความเดือดร้อนเรื่องศัตรูพืชของเกษตรในจังหวัดต่าง ๆในเขตภาคะวันตก
หน่วยงานปราบศัตรูพืชนี้คอยดูแลความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ ที่เขารับผิดชอบ เมื่อเกษตรกรมีปัญหาโรคแมลงระบาด ก็ทำเรื่องแจ้งเข้าไป แล้วเขาจะส่งเจ้าหน้าที่มาดูความเสียหายอีกชั้นหนึ่ง
พอเกษตรกรมีปัญหาผมก็ทำเรื่องรีบแจ้งทุกครั้งเพราะเขาจะมีสารเคมีมาช่วยเหลือเกษตรกร ผมขยันทำเรื่องถี่และบ่อยครั้งมากเพื่อไม่ต้องการให้เกษตรกรต้องเสียเงินไปซี้อสารเคมี จนกระทั่งวันหนึ่ง เกษตรตำบลรุ่นพี่เรียกผมมาคุย
ผมขอบอกชื่อพี่เขาแต่ไม่ขอบอกนามสกุล เพื่องให้ง่ายต่อการรำลึกความทรงจำและขอบคุณพี่ที่ชี้แนะแนวทางให้ผม พี่แกชื่อ สมบูรณ์ พี่สมบูรณ์เรียกผมไปนั่งคุยด้วย ในเช้าวันหนึ่งที่สำนักงาน ในจังหวะที่ยังไมมีใครมา ผมก็คิดว่าวันนี้พี่เขาคงจะชวนผมไปในเขตตำบลของเขาเพื่อจะพาไปศึกษางานในพื้นที่หรือไปดูวิธีการทำงานจะได้ไม่ต้องมาพร่ำสอนกันที่สำนักงาน
" ยุทธศิลป์ ผมขอพูดอะไรหน่อยนะ ผมดูมาหลายครั้งแล้ว ก็ว่าจะคุยกับคุณซักครั้ง " พี่สมบูรณ์เริ่มต้น ผมคิดว่าไม่ใช่จะชวนผมไปตำบลแกซะแล้วคงเป็นเรื่อง อี่นเสียมากกว่า " ผมขยับตัวปรับท่านั่งใหม่และตั้งใจฟังพี่สมบูรณ์
" มีอะไรครับพี่ " น้ำเสียงผมเรียบ ๆ ตั้งใจฟังเรื่องที่พี่เขาพูด
" ผมบอกก่อนนะ ผมเข้าใจความเข้วใจของคุณดี คุณมีความตั้งใจ แต่ทราบไหมวิธีการที่คุณทำมันผิด และจะสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับเกษตรกร "พี่สมบูรณ์พูดช้า ๆ เหมือนกังวลว่าผมจะเข้าใจพี่สมบูรณ์ผิด
" การที่คุณทำเรื่องขอสารเคมีให้กับเกษตรกร ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ดี แต่คุณรู้ไหมอะไรเกิดขึ้น อันดับแรกก็คือหน่วยปราบศัตรูพืชเขาก็อึดอัดใจ คุณขอความช่วยเหลือไปถ้าเขาไม่ช่วยคุณก็ว่าเขาไม่ให้ความร่วมมือ แทนที่เขาจะไดไปช่วยจังหวัดอื่น ๆที่เขาเดือดร้อนมากกว่า เมื่อมีศรัตรูพืชระบาด เพราะเขารับผิดชอบหลายจังหวัด คุณอยู่ใกล้ก็ขอได้บ่อย แต่คนต่างจังหวัดเขาทำแบบคุณไม่ได้ "
ผมนั่งเงียบฟังพี่สมบูรณ์ในขณะเดียวกันก็คิดตามที่พี่สมบูรณ์พูดไปด้วย แล้วพี่สมบูรณ์ก็พูดต่อหลังจากหยุดพักครู่หนึ่ง
" แล้วคุณรู้ไหม คุณทำเช่นนี้ เหมือนคุณทำร้ายเกษตรกร เมื่อเขาทำนาเขาควรจะทราบว่าเขาตองเจอปัญหา อุปสรรคและค่าใช้จ่ายในการซื้อสารเคมีกำจัดศรัตรูพืช เขาทำนาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำนา ไม่ใช่ทำนาและทางราชการมีสารเคมีมาช่วยเหลือเขา ผมเห็นแล้วไม่ค่อยดีจึงขอเตือนสติคุณซักหน่อย "
" ขอบคุณครับพี่ แต่แหมเทศน์ผมเสียยาวเลย " ผมขอบคุณพี่สมบูรณ์ดัวยความจริงใจ ผมพูดติดตลกตอนท้ายเพื่อไม่ให้เรื่องที่พี่แนะนำเป็นเรื่องที่เครียด
" คุณก็เป็นเสียแบบนี้ ทีผมคุยกับคุณดี ๆ คุณก็ว่าผมเทศน์ ทีพระเทศน์จริง ๆ ให้คุณฟัง พอเรื่องไปพ้องหรือตรงกับคุณ คุณก็หาว่าพระด่า "
แล้วเราก็หัวเราะกัน เหมีอนกับว่าเราไม่ได้คุยเรื่องการทำงานแค่เพืยงคุยเล่นกันสนุก ๆ พี่สมบูรณ์ก็ยืนขึ้น แล้วพูดกับผมว่า
" ผมต้องไปก่อนนะวันนี้คุยกันได้แค่นี้ สายแล้วน้ำค้างแห้งแล้วผมไปก่อน ผมนัดเจ้าของแผงนาสาธิตการทำนาหว่านน้ำตมไว้ "
พูดจบพี่ก็เดินไปที่มอเตอ์ไซค์ที่จอดอยู่หน้า้สำนักงาน หยิบแว่นเรแบนด์ในกะเป๋าเสื่อมาสวม แล้วสตาร์ทรถออกไป
ผมนั่งมองพี่สมบูรณ์ควบมอเตอร์ไซค์จนเลี้ยวโค้งลับสายตาไป พร้อมกับคิดว่าคำพูดพี่สมบูรณ์ได้ให้ข้อคิดกับผมอย่างดีทีเดียว ทำให้ผมคิดได้ว่าเรามาทำงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้พึ่งตนเองได้ แต่ตอนนี้เรามาสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับเกษตรกรเสียแล้ว
ส่วนเรื่องที่สองทั้งสงสัยและแปลกใจมาก สิ่งที่พี่สมบูรณ์พูดก็คือการช่วยเหลือเกษตรกรให้พึ่งตนเองได้แต่พี่ไม่เคยพูดถึงมันเลย หรือพูดไปโดยที่เขาไม่ทราบซึ่งเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ที่เขาจะไม่ทราบปรัชญาของหน่วยงานเขาเอง หรือว่าสิ่งนั้นมันฝังอยู่ในกมลสันดานเสียแล้วหรือเขาคงคิดว่าผมคงเป็นเช่นเขา
เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจแม้ 30 กว่าปีที่ผ่านมา และเหมือนว่าเหตุการณ์นั้นมันผ่านมาเมื่อวาน แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ตื่นเต้นและไม่เป็นปัญหาเหมือนกับเรื่องที่สอง ที่มีปัญหาจนกระทั่งทุกวันนี้หากค่านิยมของคนไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง
โฆษณา