17 ม.ค. 2021 เวลา 03:08 • ธุรกิจ
<< มีคนชอบถามผมว่าเอาอะไรไปขายที่จีนดี | เราไปดูกันก่อนดีกว่าว่าที่จีนอะไรขายดี>>
แบรนด์ข้าวโอ๊ต อบ ที่กำลังมาแรงมากในจีนขณะนี้
เทรนด์สุขภาพ เป็นเทรนด์ที่มาแรงไม่ว่าจะในไทยหรือจีน “แคลอรี่ต่ำ” น่าจะเป็นคำจำกัดความของอาหารสุขภาพ แต่ที่จีน ถ้าอยากขายดีต้อง เพิ่มคำว่า “ อื่ม และ อร่อย” เข้าไปด้วย
ตลาดนี้แข่งขันกันดุเดือดมาก เพราะตัวเลขผู้หญิงจีนที่อาศัยในเมือง มีการบริโภคอาหารสุขภาพเพื่อทดแทนมื้ออาหาร อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง มีสูงถึง 46% และมีคนที่ยอมจ่ายไปกับอาหารสุขภาพเกิน 1,000 หยวนต่อปี (ประมาณ 4,500 บาท) มีถึง 22%
แบรนด์ หวัง เป่าเป่า (王饱饱 Wang Baobao) เป็นสินค้าอาหารทดแทนในรูปแบบของ ข้าวโอ๊ต (Oatmeal) ผสมผลไม้แห้ง ที่ใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็ขึ้นมาครองแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ของประเทศจีน
1
ผู้ก่อตั้งคือคุณ เหยา จิ้ง Yao Jing ซึ่งเป็น Influencer สาว สายบิวตี้และรีวิวอาหาร ก่อนหน้านี้เคยทำแบรนด์เครื่องสำอางค์มาก่อน แต่เจอกับปัญหาว่า ความติดแบรนด์ (Brand stickiness 品牌粘性) ของเครื่องสำอางค์นั้นอ่อนมาก
คุณ เหยา จิ้ง Yao Jing ผู้ก่อตั้ง หวัง เป่าเป่า
เพราะสาวๆ เห็นสินค้าอะไรออกใหม่ หรือมี ingredient ออกใหม่จะชอบลอง ซึ่งการจะติดแบรนด์เครื่องสำอางค์ จะใช้เวลานานกว่าจะตัดสินใจและค่อยเริ่มติดแบรนด์นั้นๆ ซื้อมาลองกระปุกนึงกว่าจะใช้จนเห็นผลใช้เวลานาน หรือก็บอกได้ไม่ชัดเจน
ถ้าเป็นสินค้ากลุ่มอาหาร ถึงแม้จะมีการลองของใหม่บ้าง แต่ถ้าหากติดใจรสชาติแบรนด์ไหนแล้ว ก็มักจะติดแบรนด์นั้นไปเลย
ส่ิงที่ทำให้ หวัง เป่าเป่า โดดเด่นออกมาคือกระโดดเข้าเทรนด์สุขภาพที่เป็นกระแส และการเลือกสินค้าที่ใช่ เพราะข้าวโอ๊ตเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจีนคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่มาทำให้ต่าง ในรูปแบบใหม่โดยใช้วิธีการผลิตข้าวโอ๊ตแบบอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้เส้นใยคงตัวไว้มากที่สุด และผสมเนื้อผลไม้พร้อมทาน สามารถกินเป็นของกินเล่นได้ (Snack) และที่สำคัญคือ กินแล้วไม่อ้วน
มีหลากรสให้เลือก สินค้าจีนทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
แบรนด์ หวัง เป่าเป่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 ช่องทางการขายหลัก ก็คือช่องทางออนไลน์ ความสำเร็จของแบรนด์ถึงกับทำให้ยอดขายของสินค้ากลุ่มข้าวโอ๊ตบน Taobao ในปี 2019 โตขึ้นถึง 50%
ยอดขายของ หวัง เป่าเป่า จากเมื่อสิ้นปี 2018 อยู่ที่ 1.2 ล้านหยวน พอสิ้นปี 2019 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านหยวนต่อเดือน
ยอดขายต่อเดือนของ หวังเป่าเป่า ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
ตั้งแต่เริ่มคิดจะทำโปรเจคแบรนด์ หวัง เป่าเป่า คุณ เหยา จิ้ง ใช้เวลาเกือบสองปี ในการเลือกเฟ้นและพัฒนาสินค้า
เมื่อได้ศึกษาสินค้ากลุ่มอาหารของจีนพบว่า แบรนด์สินค้าอาหารของจีนที่ขายดีอยู่ในตลาดนั้น ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายสิบปี
ดังนั้นแบรนด์ใหม่ ที่ใส่แนวคิดและรายละเอียดที่ทันสมัย จะมีโอกาสเติบโตได้เพราะผู้บริโภคจีนชอบลองของใหม่อยู่แล้ว ประกอบกับในตอนที่ตัวเองเป็น influencer อยู่นั้น พบ pain point ความกังวลของสาวๆก็คือ
ชอบกินโน่นกินนี่ แต่กลัวอ้วน ดังนั้นการเลือกข้าวโอ๊ตจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะเป็นอาหารที่ไฟเบอร์หรือใยอาหารสูง ร่างกายดูดซึมได้ช้า กินอิ่มได้แต่ไม่อ้วน
อีกทั้งสินค้ากลุ่มข้าวโอ๊ตแม้จะรู้จักและเป็นที่คุ้นเคยในวงกว้างแต่ไม่มีแบรนด์ไหนที่นั่งอยู่ในใจผู้บริโภค เหมือนถ้าพูดถึงเครื่องเอกสารแล้วเรานึกถึง ซีร็อกซ์ ซึ่งนั่นคือโอกาสที่จะยึดคำนี้เป็นตัวแทนของแบรนด์
2
รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าตัวแรกของแบรนด์ เป็นข้าวโอ๊ตที่ผสมชิ้นผลไม้และโยเกิร์ตฟรีซดราย หลากสีสัน ประกอบกับบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม จึงทำให้เกิดการบอกต่อบนโลกโซเชียล จับพฤติกรรมคนที่ชอบการแชร์รูปอาหารที่สวยงาม ทำให้แบรนด์ หวัง เป่าเป่า แพร่กระจาย เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว
เห็นรูปอย่างนี้ ก็อยากซื้อมาลองแล้ว
หลักการพัฒนาสินค้าของแบรนด์คือ
“มีลูกเล่นสนุกสนาน ถูกใจคนรุ่นใหม่ กินแล้วไม่รู้สึกผิด”
ซึ่งความดังของแบรนด์ ถึงกับทำให้ตลาดข้าวโอ๊ตของจีนเติบโตขึ้นทั้งตลาด
คุณ เหยา จิ้ง ตั้งเป้าหมายยอดขายสินค้าข้าวโอ๊ตไว้ที่ 2,000 ล้านหยวนในปี 2023 โดยจะใช้กลยุทธ์การออกสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากช่องทางการขายปัจจุบัน เป็นออนไลน์กว่า 60% ดังนั้นบริษัท จึงมีข้อมูลลูกค้า รวมถึงประวัติการซื้อ ทำให้การออกแบบสินค้าทำได้อย่างแม่นยำ
สรุปความสำเร็จไอเดียธุรกิจของ ข้าวโอ๊ต แบรนด์ หวัง เป่าเป่า ก็คือ
1. สร้างความแตกต่างในสิ่งที่คนคุ้นเคยอยู่แล้ว
2. จับตลาดที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนนั่งอยู่ในใจผู้บริโภค
3. ใส่ใจรายละเอียด ทำให้สินค้าเกิดการบอกต่อ คนใช้อยากแชร์
โฆษณา