17 ม.ค. 2021 เวลา 12:35 • สุขภาพ
"วัคซีนโควิด-19" กลายเป็น"วัคซีนการเมือง"ทั้งในเมืองนอก-เมืองไทย
การอนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19ในหลายประเทศนั้น เป็นไปในภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน แม้ว่าการศึกษาวิจัยจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม และวัคซีนนี้ดูจะกลายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับการเมือง ทั้งระดับโลกและในเมืองไทย
การเมืองระดับโลก เกี่ยวเนื่องกับประสิทธิผลและอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีด ด้วยเพราะบริษัทผู้ผลิตในอเมริกาของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ซึ่งใช้เทคโนโลยี "mRNA" ที่แตกต่างกับเทคโนโลยีของบริษัทที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งใช้เทคโนโลยี "เชื้อตาย"
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า การวิจัยในประเทศบราซิล ของวัคซีนโคโรโนแวค ของซิโนแวค(shinovac) ประเทศจีนนั้น มีประสิทธิภาพเพียง 50.4%เท่านั้น
เรียกว่าฉิวเฉียดจากประสิทธิภาพที่องค์การอนามัยโลกยอมรับได้ในภาวะฉุกเฉินที่ 50%
ก่อนที่จะมีการรายงานจากประเทศนอร์เวย์ ที่ฉีดวัคซีนชนิดmRNA ของไฟเซอร์ พบว่า ผู้สูงอายุเสียชีวิต 29 ราย หลังได้รับวัคซีน
ต่อมาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของจีน เรียกร้องให้นอร์เวย์ และประเทศอื่นๆระงับการฉีดวัคซรนที่ผลิตโดยใช้เทโนโลยี mRNA
โดยเฉพาะระงับฉีดในผู้สูงอายุ เนื่องจากความปลอดภัยที่ไม่แน่นอน
ในประเทศไทย ก็เช่นเดียวกัน มีการเชื่อมโยงกับการเมือง แต่เป็นไปในประเด็นของการ"จัดซื้อ"วัคซีน"
โดยจะเห็นว่ามีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) โดยเฉพาะระดับเทศบาล มีการประกาศพร้อมทุ่ม"เงิน"ของเทศบาลมาให้รัฐ จัดหาวัคซีนให้กับประชาชนในเทศบาลของตน
อาทิ เทศบาลนนทบุรี จ.นนทบุรีเตรียมงบ 260 ล้านบาท
เทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรีเตรียมงบ 240 ล้านบาท
เทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานีเตรียมงบ 90 ล้านบาท
เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เตรียมงบ 80 ล้านบาท
เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์เตรียมงบ 25 ล้านบาท
เทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรีเตรียมงบ 80 ล้านบาท
เทศบาลนครระยอง 65 ล้านบาท
เทศบาลเมืองวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว 20 ล้านบาท
เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 130 ล้านบาท
เทศบาลนครยะลา 100 ล้านบาท
เทศบาลนครภูเก็ต 45 ล้านบาท
เทศบาลเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ตกว่า 30 ล้านบาท เป็นต้น
จำเป็นหรือไม่?ที่เทศบาลจะต้องนำเงินมาฝากรัฐซื้อวัคซีนให้คนในพื้นที่?
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ท้องถิ่นอาจไม่ทราบ ก็คือ "แม้จะมีเงิน แต่ก็ไม่ใช่ว่าซื้อวัคซีนแล้วจะได้มาทันที ต้องมีระยะเวลาการต่อคิว และส่งมอบตามแต่ผู้ผลิตกำหนด"!!!
ต้องไม่ลืมว่า กำลังจะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี!!!!
!
แล้วแท้จริงแล้ว "วัคซีนโควิด-19"ตอนนี้จริงๆสถานะเป็นอย่างไร????
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า วัคซีนโควิด-19 ต้องทำความเข้าใจกับวัคซีน อีกครั้ง วัคซีนที่ใช้ ในปัจจุบัน แบ่งการป้องกันเป็น
1.ป้องกันการติดเชื้อ จะไม่แพร่โรค ไม่เกิดการป่วย
2.ป้องกันการเกิดโรค ไม่ป้องกันการติดเชื้อ จะไม่เป็นโรค แต่อาจแพร่เชื้อได้
3.ลดความรุนแรงของโรค ไม่ป้องกันการติดเชื้อ เป็นโรคได้ แต่ไม่รุนแรง ไม่เข้าโรงพยาบาล ไม่ตาย
โควิด 19 วัคซีน ในปัจจุบันผลการศึกษาที่ออกมา ส่วนใหญ่จะเป็นการป้องกัน การเกิดโรค ลดอาการของโรคและไม่ตาย ไม่ได้มีการศึกษา ป้องกันการติดเชื้อ เมื่อให้วัคซีน อาจติดเชื้อได้ การติดเชื้อโอกาสแพร่กระจายโรคได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ทราบ
ดังนั้น เมื่อวัคซีนโควิด 19 สามารถลดความรุนแรง ลดการเข้าโรงบาล เราก็พอใจในระดับหนึ่ง รอข้อมูลการศึกษาว่าจะป้องกันการติดเชื้อได้มากน้อยแค่ไหน การศึกษาจะต้องทำและมีรายละเอียดติดตามยากแต่ ถ้าติดเชื้อไม่มีอาการ กล่าวคือทุกคนต้องตรวจเชื้อ ป้ายจากคอมาเปรียบเทียบกันจึงจะรู้
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่าช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียง หรืออาการไม่พึงประสงค์ จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 บางตัวเกิดขึ้นในบางประเทศ ซึ่งเราคงต้องรอฟังผลสรุปการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญ ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น โรคประจำตัวบางอย่าง สภาพร่างกาย หรืออายุ รวมทั้งอัตราผลข้างเคียงนั้นอยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่
บางประเทศที่ต้องการเริ่มฉีดวัคซีนเร็ว มีการตัดสินใจใช้วัคซีน ที่อาจจะยังทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่ครบถ้วน
สำหรับคนไทย ผมตัดสินใจไม่รับความเสี่ยงแบบนั้น ผมไม่ยอมให้รีบร้อนฉีดวัคซีนที่ยังทดสอบไม่ครบถ้วน และไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง ดังนั้น เพื่อความรอบคอบ ผมจึงมีนโยบายสำคัญ คือ ต้องมั่นใจก่อนว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย จึงจะนำมาใช้กับคนไทยได้
ทั้งนี้ การตัดสินใจของผม และการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนของประเทศ “แบบครบวงจร” จะมีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติคอยให้คำปรึกษาและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
ความสำเร็จในการยับยั้งการระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา และในครั้งนี้ที่กำลังมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น เกิดจากความร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที ด้วยตัวเอง คือการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมืออยู่เสมอ เว้นระยะห่างทางสังคม และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน นอกจากนี้ หากต้องการให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ ก็ต้องสแกน QR Code “ไทยชนะ” ทุกครั้ง และใช้แอปฯ “หมอชนะ” ทุกคน ก็จะดีมากครับ ขอให้เราทุกคนร่วมมือกันต่อไปครับ
ท้ายที่สุด ขอยกคำของรศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษกรมควบคุมโรคและคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่เคยบอกไว้ว่า "ในสถานการณ์โรคระบาด เมื่อไหร่การมืองนำการแพทย์ คือหายนะ"!!!!
#โควิด-19 #วัคซีนโควิด-19 #mRNA #ไฟเซอร์ #ซิโนแวค #COVID-19
จีนเรียกร้องทั่วโลกระงับฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" หลังนอร์เวย์ดับ 23 | TNN ช่อง16 | LINE TODAY

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา