18 ม.ค. 2021 เวลา 14:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ทำไมเราจึงเดินทางไปอดีตไม่ได้? แต่ไปอนาคตได้
แม้ในปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ ภายในโลกนี้ที่จะสามารถทำให้มนุษย์เดินทางข้ามเวลาได้ แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยดูภาพยนตร์ อนิเมชั่นหรือแม้แต่มังงะอนิเมะชื่อดังอย่างเรื่อง โดราเอม่อน ที่มีฉาก "ย้อนเวลา" ด้วยเครื่องที่มีชื่อว่า "Time machine" ซึ่งเป็นเครื่องที่เราสามารถเดินทางกลับไปในอดีตได้ โดยอาจจะกลับไปในยุคที่มีไดโนเสาร์ อาจจะกลับไปแก้ไขเรื่องที่ทำผิดไปในอดีต หรือ แม้กระทั่งจะไปดูตัวเองในอนาคตว่าเป็นอย่างไร
1
ซึ่งเมื่อลองคิดเล่น ๆ แล้ว ถ้าหากว่าเจ้าเครื่องย้อนเวลาสามารถสร้างได้จริง
งั้นเราก็สามารถกลับไปในอดีตไปซื้อหุ้นที่ในอนาคตจะมีมูลค่าสูงขึ้น หรือจะกลับไปซื้อล็อตเตอรี่ที่รู้อยู่แล้วว่าจะออกรางวัลเลขอะไร เราก็จะรวยเป็นมหาเศรษฐีแน่ ๆ
จนมีคำถามผุดขึ้นมาว่า
เราสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีตหรือไปอนาคตได้จริงเหมือนที่เห็นในทีวีไหม?
แล้วในอนาคตมนุษย์จะสามารถสร้างเครื่องเดินทางข้ามเวลาได้หรือเปล่า?
ต้องขอตอบตรงนี้เลยครับว่า "ไม่ได้" เราไม่สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีตได้อย่างแน่นอน แต่อย่าพึ่งเสียใจไป เพราะเรายังสามารถเดินทางข้ามเวลาไปอนาคตได้
ถึงแม้เราอาจจะเคยได้ยินแว่ว ๆ หูมาว่ามีภาพที่ถูกถ่ายได้ในอดีตโดยรูปนั้นได้ถ่ายติดใครบางคนที่ดูเหมือนกับว่าเขาเดินทางมาจากโลกอนาคต ซึ่งสุดท้ายแล้วคนในภาพเหล่านั้นก็ไม่ได้มาจากโลกอนาคตแต่อย่างใด
ตัวอย่างเช่น ภาพของชายปริศนาที่ถูกถ่ายในปี 1940 ที่ดูเหมือนกับว่าเขาแต่งตัวผิดยุคสมัยและยังถือกล้องที่มีขนาดเล็กราวกับว่ามาจากโลกอนาคตรวมกับสวมใส่แว่นตากันแดดรูปทรงที่ไม่น่าจะมีในยุคสมัยนั้น
ภาพชายปริศนาในปี 1940
ซึ่งสุดท้ายแล้วรูปนี้ก็ถูกเปิดเผยว่าเสื้อที่เขาสวมใส่เป็นเสื้อของทีมฮอคกี้ที่โด่งดังในยุคสมัยนั้นจริง ๆ อีกทั้งแว่นกันแดดและกล้องที่เห็นในรูปภาพมีอยู่ในยุคนั้นอยู่แล้วเพียงแต่ยังไม่แพร่หลายในยุคสมัยนั้น เท่านั้นเอง
ซึ่งความคิดการจะย้อนเวลาก็คงต้องจบลงเพราะมีกฎที่ชื่อว่า "grandfather paradox"
Grandfather paradox
มันคือความขัดแย้งในตัวเองของการเดินทางย้อนเวลา ถ้าหากเราเดินทางกลับไปในอดีตแล้วไปสังหารปู่ของเรา พ่อของเราและตัวเราในปัจจุบันก็จะไม่ได้เกิดมา ซึ่งมันก็จะขัดแย้งกับการเดินทางย้อนเวลา อีกทั้งการย้อนเวลากลับไปในอดีตแล้วไปแก้ไขบางเรื่องเพียงเรื่องเดียวอาจจะส่งผลต่อ Time line ประวัติศาสตร์อย่างรุนแรง อย่างเช่นกลับไปสังหารฮิตเลอร์ก่อนที่จะได้เป็นผู้นำสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลอย่างรุนแรงต่อประวัติศาสตร์ของโลก
1
แต่มันก็มีความเป็นไปได้ในการเดินทางไปยังอดีตโดยเดินทางไปยังเอกภพคู่ขนานผ่านรูหนอน (wormhole) ซึ่งเป็นช่องทางพิเศษที่เกิดขึ้นจากการบิดเบี้ยวของปริภูมิ-เวลา (space-time) ซึ่งถ้าหากใช้วิธีนี้เดินทางไปสังหารฮิตเลอร์ก็จะส่งผลต่อประวัติศาสตร์ของเอกภพนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อเอกภพที่เราอาศัยอยู่แต่อย่างใด
สำหรับการเดินทางไปในอนาคตนั้น อาจจะไม่เหมือนที่เราเคยรู้จัก
โดยความเป็นไปได้ของการเดินทางไปอนาคตไม่ได้เกิดจากการข้ามเวลาไปอนาคตโดยตรงแต่เกิดจากการที่เวลาของผู้เดินทางนั้นเคลื่อนที่ช้าลงหรือเกือบจะหยุดนิ่ง ซึ่งสิ่งที่ทำให้เวลาของเรานั้น "ไม่เท่ากัน" นั่นก็คือ "แรงโน้มถ่วง" เหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง Interstellar ที่นักบินอวกาศอยู่บนดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้กับหลุมดำที่มีแรงโน้มถ่วงสูงมากเพียงแค่ 1 ชั่วโมงบนดาวดวงนี้เท่ากับเวลา 7 ปีบนโลก
1
ดาวที่โคจรใกล้กับหลุมดำในภาพยนตร์เรื่อง Interstellar
หลุมดำในภาพยนตร์เรื่อง Interstellar
ซึ่งแรงโน้มถ่วงนั้นเกิดจาก "มวล" ถ้าหากเราอยู่ใกล้อะไรก็ตามที่มีมวลมาก ๆ เวลาของเราจะเดินช้ากว่าคนอื่น ตัวอย่างเช่น เราไปยืนอยู่ที่พีระมิดหรือใกล้ ๆ กับภูเขาลูกใหญ่ เวลาของเราจะเดินช้ากว่าคนที่ไม่ได้ยืนอยู่ที่เดียวกับเรา เพียงแต่ความหน่วงของเวลามันอาจจะน้อยมาก ๆ จนจินตนาการไม่ได้
อีกทั้งการเดินทางเข้าใกล้ความเร็วแสง (ความเร็วแสงที่เป็นความเร็วสูงสุดในเอกภพคือความเร็วแสงในสุญญากาศ ซึ่งมีค่า 299,792,458 เมตร/วินาที) มากเท่าใดเวลาของเรายิ่งเดินช้าลงเท่านั้น เนื่องจากแสงจะเดินทางด้วยความเร็วมากกว่าผู้เดินทางด้วยความเร็วเท่ากับแสงเสมอ ตัวอย่างเช่นถ้าหากเราขับรถ (A) ด้วยความเร็ว 10 เมตร/วินาที ตามรถอีกคันหนึ่ง (B) ที่วิ่งด้วยความเร็ว 15 เมตร/วินาที เราจะเห็นรถ (B) วิ่งออกจากเราด้วยความเร็วของรถ A ลบกับรถ B ก็คือ 5 เมตร/วินาที เสมอ
แต่ถ้าหากเราเปลี่ยนจากรถ (B) เป็นแสง แล้วเราเดินทางด้วยความเร็ว 299,792,400 เมตร/วินาที ซึ่งช้ากว่าแสง 58 เมตร/วินาที เราจะเห็นแสงเดินทางออกจากเรา 58 เมตร/วินาที ไหม?
คำตอบก็คือไม่ครับ แสงจะเดินทางเร็วกว่าเราด้วยความเร็วของแสงเสมอ
เคยมีการทดลองโดยใช้นาฬิกาอะตอม (สามารถอ่านเรียนรู้นาฬิกาอะตอมเพิ่มเติมได้ที่บทความด้านล่าง) เปรียบเทียบเวลาบนโลกกับเวลาบนยานอวกาศที่เดินทางด้วยความเร็วสูง พบว่าเวลาบนยานอวกาศนั้นเดินทางช้าลง "จริง"
ดังนั้นการอยู่ในพื้นที่ที่มีแรงโน้มถ่วงสูงและการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเข้าใกล้แสงมากเท่าใด เวลาของเราจะยิ่งช้าลงเท่านั้น นั่นหมายความว่าเราอาจจะแก่ลงแค่ 1 ปี แต่โลกของเราอาจจะผ่านเป็นร้อย ๆ ปีแล้วก็เป็นได้
ขอบคุณทีรับชมบล็อคของเรา
และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจและไม่พลาดเรื่องราวใหม่ ๆ ที่น่าสนใจต่อไปครับ
โฆษณา