18 ม.ค. 2021 เวลา 02:49 • สุขภาพ
อันตรายจากไขมันทรานส์ ศัตรูตัวร้ายจ้องทำลายสุขภาพ!!!
ไขมันทรานส์ ทำไมใครก็บอกให้ควรหลีกเลี่ยง
เป็ดฟินิกซ์เชื่อว่า เพื่อน ๆ ทุกคน น่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม (ด้านลบ) ของเจ้าไขมันชนิดนี้มาบ้าง
ซึ่งวันนี้เป็ดฟินิกซ์จะมาเล่าให้ฟังว่า "ไขมันทรานส์" นั้นเป็นตัวร้ายของวงการสุขภาพจริงหรือไม่
ก่อนอื่น อยากเพื่อน ๆ ลองช่วยเป็ดฟินิกซ์คิดทีว่า ปกติแล้วเราจะพบไขมันชนิดนี้ได้จากที่ไหนบ้าง ?
ขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่ม
หลายคนน่าจะมีคำตอบแบบเดียวกับเป็ดฟินิกซ์ แล้วถ้าขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่ม
มีไขมันทรานส์
แล้วนั่นหมายถึง เราไม่ควรทาน ขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่มไปเลยหรือเปล่า
เดี๋ยวเป็ดฟินิกซ์จะพาเพื่อน ๆ มาดูคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ
ไขมันทรานส์ คือ อะไร
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็น กรดไขมันอิ่มตัว  สามารถพบได้ทั้งตามธรรมชาติ
และก็เกิดจากการที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น
ชนิดที่พบตามธรรมชาติ (natural trans fat) พบได้จากสัตว์กินพืช เช่น วัว แพะ แกะ วัว และควาย เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถพบไขมันชนิดนี้ได้จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของสัตว์เหล่านี้ด้วย ทั้ง เนย นม ชีส เป็นต้น
แต่ว่าไขมันทรานส์ที่พบตามธรรมชาติจะค่อนข้างมีน้อย เช่น ในนมมีไขมันทรานส์
เพียง 2-5 % ในพวกเนื้อวัว เนื้อแกะมีไขมันทรานส์เพียง 3-9 % เท่านั้น
ชนิดที่มนุษย์สังเคราะขึ้น (artificial trans fat) เป็น กรดไขมันอิ่มตัว ได้มาจากการ
แปรรูป กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ผ่านกระบวนการเติมสารที่มีชื่อว่า "ไฮโดรเจน"
เข้าไป  เพื่อทำให้น้ำมันที่ปกติอยู่ในสถานะของเหลว เปลี่ยนสภาพเป็น ไขมัน ซึ่งอยู่ในสถานะของแข็งกึ่งเหลว เช่น พบในเนยเทียม เนยขาว ครีมเทียม  มาร์การีน
เป็นต้น
ลำดับต่อไปเดี๋ยวเป็ดฟินิกซ์จะเล่าให้ฟังนะคะว่าเพราะอะไร ไขมันทรานส์ชนิดนี้จึง
ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย
เพราะอะไรจึงต้องผลิตไขมันทรานส์ขึ้นมา
จากที่เป็ดฟินิกซ์เล่ามา เพื่อน ๆ หลายคนคงสงสัยว่า ไขมันชนิดนี้ เราสามารถหาได้จากธรรมชาติ แล้วเพราะอะไรจะต้องผลิตขึ้นมาด้วย
สาเหตุก็เป็นเพราะไขมันทรานส์ที่สังเคราะห์ขึ้นมานั้นเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป จะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าไขมันทรานส์จากธรรมชาติ
เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่ในตู้เย็นและไม่เหม็นหืน ทั้งยังทนกับอุณหภูมิที่สูงได้
เรื่องรสชาติก็ไม่แตกต่างจากไขมันที่มาจากธรรมชาติมากนัก
ที่สำคัญที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของราคาที่ถูก จึงทำให้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมด้านอาหาร ขนม เบเกอรี่มากมาย
ทำไมถึงประกาศห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายไขมันทรานส์
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ. 2561 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย
คำสำคัญ: ประกาศฯ ฉบับนี้
“ห้ามการผลิต นำเข้า จำหน่าย PHOs ซึ่งเป็นแหล่งหลักของไขมันทรานส์ แต่มิได้
ห้ามตรวจพบไขมันทรานส์ในอาหาร”
เมื่อไม่กี่ปีก่อนได้มีประกาศเกี่ยวกับการห้ามผลิตและนำเข้าไขมันทรานส์หรือเรียก
อีกอย่างว่า "แบนไขมันทรานส์"
มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 ว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นส่วนประกอบ
ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ เมื่อ พ.ศ. 2556 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US Food and Drug Administration) ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับว่าเป็นไขมันที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ทั้งยังให้ผู้ผลิตอาหารต่าง ๆ ต้องระบุปริมาณไขมันทรานส์บนฉลากผลิต
ภัณฑ์ด้วย
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะได้มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายได้ออกมาตีพิมพ์
เกี่ยวกับโทษที่จะเกิดขึ้นจากการบริโภคไขมันทรานส์
จากงานวิจัยหลายฉบับเผยว่า การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันทรานส์มาก ๆ จะมีผลต่อการทำงานของเอนไซม์ตัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญคอเลสเตอรอล
เอนไซ์ตัวนี้มีชื่อว่า Cholesterol acyltransferase
ผลที่เกิดขึ้น คือ ระดับคอเลสเตอรอลหรือไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ในเลือดเพิ่มขึ้น
ถ้าเพิ่มขึ้นมาก ๆ จะเกิดการสะสมที่ผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดหลอดเลือดตีบและ
แข็งและส่งผลต่อภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวอีกด้วย
ในปี 2557 คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular
diseases) รวม 58,681 คน หรือเฉลี่ย ชั่วโมงละ 7 คน และหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่
สำคัญคือระดับไขมันคอเลสเตอรอลชนิด LDL หรือไขมันชนิดเลวที่มาจากอาหารที่
เรารับประทานเป็นประจำ โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันทรานส์ หรือ Trans fat
นอกจากนั้นไขมันทรานส์ยังส่งผลให้คอเลสเตอรอลหรือไขมันชนิดดี (HDL) โดยทำให้ HDL ลดลง โดยเจ้า HDL ตัวนี้มีสามารถในการช่วยขจัดคอเลสเตอรอลที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือดได้
นอกจากนี้ยังมีโทษอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคไขมันชนิดนี้ เช่น ตามมาทั้ง
อัลไซเมอร์ โรคอ้วน มะเร็ง เบาหวาน ภาวะมีบุตรยาก ความดันโลหิตสูง ตับทำงาน
ผิดปกติ เป็นต้น เพียงแต่ต้องรอผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันเพิ่มเติม
อาหารที่มีไขมันทรานส์
จากที่เป็ดฟินิกซ์ตั้งคำถามไปข้างต้น ว่า เพื่อน ๆ คิดว่าเราสามรถพบไขมันชนิดนี้ได้จากที่ไหนบ้าง
ซึ่งแน่นอนว่า พบได้ในผลิตภัณฑ์เบเกอรีต่าง ๆ  เช่น ขนมปัง เค้ก พาย พัฟ เค้ก
และคุกกี้  รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก เนยเทียมและเนยขาว และเครื่องดื่มสำเร็จรูป ประเภทที่ใส่ครีมเทียม นมข้นจืดและนมข้นหวาน
นอกจากนั้นยังพบในอาหารหรือขนมบางชนิดที่ผ่านกระบวนการทอด โดยใช้น้ำมันที่เติมไฮโดรเจนเข้าไป (กระบวนการที่เป็ดฟินิกซ์อธิบายไปข้างต้น) แล้วผ่านการทอดแบบน้ำมันท่วม แบบ Deep Fried ในความร้อนสูง  เพื่อให้มีรสสัมผัสที่กรอบ เช่น
โดนัททอด ปาท่องโก๋  เฟรนช์ฟราย กล้วยทอด ถั่วทอด เป็นต้น
ต่อไปเป็ดฟินิกซ์จะเรียงลำดับอาหารที่พบไขมันทรานส์ปริมาณสูง ๆ มาให้กับ
เพื่อน ๆ
ไขมันทรานส์ในอาหารต่าง ๆ (ปริมาณ 100 กรัม)
โดนัทสอดไส้บาวาเรียน  พบประมาณ 675 มิลลิกรัม
เค้กเนย  พบประมาณ 400 มิลลิกรัม
เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต พบประมาณ 396 มิลลิกรัม
พายทูน่า  พบประมาณ 395 มิลลิกรัม
เค้กไส้ครีมคัสตาร์ด พบประมาณ 378 มิลลิกรัม
ทอฟฟี่เค้ก พบประมาณ 373.7 มิลลิกรัม
ปริมาณที่สามารถบริโภคได้ต่อวัน
องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ ( FAO) แนะนำว่าปริมาณสูงสุดในการบริโภคไขมันทรานส์ต้องไม่เกิน 1% ของค่าพลังงานต่อวัน (หรือประมาณ 2 กรัมต่อ
วัน )
จากที่เป็ดฟินิกซ์ได้ตั้งคำถามไว้ข้างต้น ว่าถ้าขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่ม มีไขมันทรานส์
แล้วนั่นหมายถึง เราไม่ควรทาน ขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่มไปเลยหรือเปล่า
ตรงนี้ขึ้นอยู่ที่ทางผู้ผลิตได้ใช้ไขมันทรานส์ (เพื่อประหยัดงบประมาณ) หรือไม่
โดยปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายแห่งที่ออกมาประกาศว่าผลิตภัณฑ์ของตน ไม่ใช้ไขมัน
ทรานส์ เช่น
เบเกอรี่ เฟรนช์ฟรายส์ แมคโดนัลด์
นมข้นหวาน นมข้นจืด (ตรามะลิ, เรือใบ, นกเหยี่ยว, มายบอย)
สาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อย
มาร์การีน เบสท์ฟู้ดส์
ไก่ทอดเคเอฟซี
สูตรเบเกอรี่ เทสโก้โลตัส
มันฝรั่งทอด เลย์
พิซซ่า ฮัท ประเทศไทย
โดนัท คริสปี้ครีม
ดังนั้นหากจะเลือกทาน เป็ดฟินิกซ์แนะนำให้เพื่อน ๆ ดูข้างฉลากก่อนตัดสินใจนะคะ
วิธีการหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์
เนื่องจากไขมันทรานส์ค่อนข้างถูกนำมาใช้ในอาหารที่หลากหลายมาก ๆ แต่ว่าเราก็สามารถเลี่ยงการบริโภคไขมันชนิดนี้ได้ โดยลดอาหารที่มีส่วนประกอบของเนยเหลว เนยขาวหรือมาการีน  เลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันที่ผ่านการทอดซ้ำ หรือผ่านการทอด
กรอบแบบ Deep Fried และเช็คฉลากทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารนั้นปราศจาก
ไขมันทรานส์
ข้อควรระวังอีกอย่างที่เป็ดฟินิกซ์อยากเล่าให้ฟัง นั่นคือ คำว่า ไขมันทรานส์ 0 %
ไขมันทรานส์ 0 % เท่ากับ ไม่มีไขมันทรานส์หรือไม่ ?
บางครั้งจะพบคำว่า ไขมันทรานส์ 0 %
เป็ดฟินิกซ์ขอบอกก่อนเลยว่า trans fat 0 % ไม่ได้หมายถึง ไม่มีไขมันเลย เพราะ
ตามกฎหมายแต่ละประเทศระบุว่าหากมีปริมาณไขมันทรานส์ไม่ถึง 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค สามารถใช้คำว่า trans fat 0 % ได้
ด้วยสาเหตุนี้ทำให้กระทรวงสาธารณสุขเลย ห้ามผลิต นำเข้า จำหน่ายอาหารที่มี
ส่วนผสมของไขมันทรานส์เสียเลย
เป็ดฟินิกซ์ขอ  สรุป ว่า ไขมันชนิดนี้เป็นวายร้ายแห่งวงการสุขภาพที่แท้จริง ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการซ้ำร้ายยังส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ต่อสุขภาพ
แถมยังมักอยู่ในอาหารมากมาย ดังนั้นจำเป็นอย่างมาก ที่เราจะต้องดูที่ฉลากข้าง
ผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง ก่อนเลือกบริโภคสินค้าทุกชิ้น
บทความเพิ่มเติม
อาหารมังสวิรัติ ข้อมูลสำหรับทุกสาย ทั้งเฮลตี้ไดเอทสายสุขภาพพร้อมเมนูแนะนำ
โฆษณา