จากประสบการณ์ที่เคยทำงานเป็นลูกน้องมาทั้งในต่างประเทศ และประเทศไทย
พบว่า ลูกน้องมีอยู่ 3 ประเภท
1. ทำงานไปวันๆไม่เรียกร้องอะไร
2. ทำงานแบบมีเป้าหมาย ต้องการความก้าวหน้า
3. ทำงานแบบจำใจ
คำถาม ลูกจ้าง 3 ประเภทนี้ ประเภทไหนอยู่ทนที่สุด นายจ้างควรรับมืออย่างไร ใช้หลักการอะไรในการปกครองลูกน้อง?
1. ประเภทแรกปกครองง่ายมาก เพราะไม่เรียกร้องอะไร ทำงานอยู่กับเราได้นาน แต่ประสิทธิภาพการทำงานก็ได้ไม่เต็มหน่วย เพราะทำไปวันๆ แต่อยู่นานอยู่ทนจนกว่าเค้าจะมีเป้าหมายใหม่ ถึงจะเปลี่ยนไปเป็นอื่น หลักการปกครองให้ทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จะต้องมีการกระตุ้นบ้าง เช่น จัดงาน staff party แล้วมีการแจกรางวัล พนักงานที่ดีเด่น โดยเสียงโหวตจากพนักงานในบริษัท หากวันไหนเค้าเปลี่ยนจากทำงานไปวันๆเป็นคนอยากมีเป้าหมายบ้าง ให้เราฟังเป้าหมายใหม่ของเค้า จะอยู่ต่อหรือไม่นั้น อยู่ที่เราว่าหยิบยื่นให้ตามที่เค้าขอได้หรือไม่
2. คนที่ทำงานแบบมีเป้าหมาย อยากเลื่อนตำแหน่ง ลูกน้องประเภทนี้เก่ง ความสามารถล้นเหลือ มีความกระตือรือร้นตลอด ขยัน จะทำงานแบบมีประสิทธิภาพ แต่หากไม่ได้ตามที่วางเป้าหมาย ก็พร้อมที่จะหางานใหม่ทันที หลักการปกครองลูกน้องประเภทนี้ ควรเห็นถึงความสามารถเค้า พูดคุยถึงอุดมการณ์ วิสัยทัศน์ของเค้า ตกลงเจรจา ว่าถ้าเค้าทำตามที่กำหนด เราจะให้เค้าในสิ่งที่ตกลงไว้ ลูกน้องประเภทนี้ต้องได้เจ้านายที่รักษาคำพูดและเป็นแบบอย่างที่น่าเคารพนับถือ ถึงจะเอาอยู่ โดยเฉพาะเรื่องสัจจะเพราะหากผิดคำพูด ก็พร้อมที่จะไปทันที
3. ทำงานแบบจำใจ ไม่มีความสุขกับการทำงาน แต่ก็ต้องทำ ประสิทธิภาพในการทำงานต่ำ หลักการปกครองควรเข้าไปพูดคุยถามไถ่ทุกข์สุขลูกน้อง ว่าเพราะอะไร มีปัญหาทางบ้าน หรือมีปัญหากับที่ทำงานหรือไม่ เราต้องค่อยๆคุย เมื่อทราบถึงปัญหาจึงค่อยแก้ไข ลูกน้องประเภทนี้ต้องการความเข้าใจ ใช้หลักการน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ประมาณว่าเธอก็สำคัญสำหรับชั้นนะ เธอคือหนึ่งในครอบครัวเรา หากหัวหน้าช่วยแก้ไขหรือช่วยหาทางออกที่ดีให้ได้ พอผ่านพ้นปัญหาไปได้ลูกน้องประเภทนี้จะทำงานให้คุณได้นานกว่า 2 ประเภทข้างบน เพราะซื้ออะไรก็ไม่เท่าซื้อใจคน สำคัญที่เราต้องหยิบยื่นความจริงใจให้เค้าก่อน หรือใช้หลักบริหารที่เรียกว่า เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
ความหมายของการคุยกับลูกน้อง ก็ต้องมีขอบเขต มิใช่การคุยไร้สาระ พร่ำเพรื่อ เล่นหัวไปวันๆ เพราะเราต้องมีเส้นกั้นระหว่างเจ้านายและลูกน้อง เจ้านายควรประพฤติตนให้ถูกต้องเพื่อเป็นตัวอย่างที่น่านับถือ หากสนิทเกินไปจะกลายเป็นล้ำเส้น ควบคุมไม่อยู่ ไร้การเคารพนับถือ หากห่างไกลเกินไปจะไม่สามารถเข้าถึงลูกน้อง
สรุป หากคุณเห็นคุณค่าในตัวลูกน้อง ปฎิบัติดีๆกับลูกน้อง ใช้หลักการปกครองให้ถูก สิ่งที่คุณจะได้กลับมา ไม่ใช่แค่ลูกน้องที่ดี แต่คุณยังได้ทีมงานที่แข็งแกร่งแก่บริษัท ร้านค้า หรือ องค์กรของคุณด้วย
เชื่อดิชั้นสิ เพราะดิชั้นเคยเป็นเจ้านายที่ต้องเจอกับลูกน้อง 3 ประเภทนี้ และ ดิชั้นก็เคยเป็นลูกน้องแบบ 3 ประเภทนี้เช่นกัน
ใครเจอเจ้านาย ลูกน้องแบบไหนกันบ้างคะ มาแชร์กันได้น๊า
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
