18 ม.ค. 2021 เวลา 04:51 • กีฬา
Welcome back Forster
อันที่จริงผมตั้งใจจะเขียนถึงเฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ตั้งแต่หลังจบเกมที่เซาธ์แฮมป์ตันเอาชนะแชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูล เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น แต่เนื่องด้วยภาระงานที่สุมเข้ามาเยอะเหลือเกิน จนแทบไม่มีเวลาให้ละเลียดเพื่อเขียนถึงหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคนหนึ่งของโลกฟุตบอล
แม้สถานะปัจจุบันของเฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ จะกลายเป็นมือสองโดยสมบูรณ์ หลังจากที่ตัวเขาไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้จัดการทีมคนใดเลย นับตั้งแต่ที่เขาเฝ้าเสาในเกมที่ทีมแพ้ให้กับสเปอร์ 5-2 ในฤดูกาล 2017/18
แต่อดีตก่อนหน้านี้ ฟอร์สเตอร์ เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูจากทีมเล็กที่ติดทีมชาติอังกฤษถึง 6 ครั้ง มีสถิติที่น่าสนใจในฤดูกาล 2015/16 ฟอร์สเตอร์ เคยงัดฟอร์มสุดยอด เก็บคลีนชีต 6 เกมติด เริ่มตั้งแต่ 13 มกราคม 2016 จนถึง 13 กุมภาพันธ์ 2016
ทีมที่ทำให้ฟอร์สเตอร์คว้าสถิติระดับประวัติศาสตร์ทีม มีตั้งแต่ทีมใหญ่ จนถึงทีมเล็ก เริ่มจากชนะวัตฟอร์ด (2-0) ชนะเวสต์ บรอม (3-0) ชนะแมนฯ ยูฯ (0-1) เสมออาร์เซนอล (0-0) ชนะเวสต์ แฮม (1-0) ชนะสวอนซี (0-1) ก่อนจะสิ้นสุดสถิติกับเชลซี (แพ้ 1-2) โดยก่อนหน้าที่จะทำสถิติสุดยอดนี้ ฟอร์สเตอร์ มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า พลาดการลงสนาม 28 เกม จากปลายฤดูกาล 2014/15 จนถึงต้นฤดูกาล 2015/16
ฟอร์มการเล่นของฟอร์สเตอร์ ยังคงยอดเยี่ยมต่อเนื่องในยุคโคลด ปูแอล เขาลงสนามครบ 38 เกม เก็บคลีนชีทได้ถึง 14 ครั้ง
จากนั้นสถานะของฟอร์สเตอร์ก็กลายเป็นมือสอง เมื่อการเข้ามาของเมาริซิโอ เปเญกริโน ในฤดูกาล 2017/18 ตอนนั้นฟอร์สเตอร์ เสียประตูถึง 30 ประตูจากการลงสนามในพรีเมียร์ลีก 20 นัด โดยฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ฟอร์สเตอร์ไม่สามารถกลับขึ้นมาเป็นมือหนึ่งได้อีกเลย คือ เกมที่แพ้ให้กับสเปอร์ 5-2 ตามที่เรียนไว้ข้างต้น กระทั่งในฤดูกาล 2018/19 หล่นลงไปเป็นมือสาม
ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล เจ้านายใหญ่เซาธ์แฮมป์ตัน
ในช่วงที่ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่แทนมาร์ค ฮิวจ์ ฟอร์สเตอร์ มีโอกาสได้ลงสนาม จำนวน 1 เกมถ้วน ซึ่งเป็นเกมที่แพ้ให้กับเวสต์ แฮม 0-3 โดยเวลานั้น ฮาเซนฮึทเทิลเองก็กำลังจับจุดกับการย้ายข้ามฟากจากบุนเดสลีกามาพรีเมียร์ลีก
สถานการณ์ของฟอร์สเตอร์เวลานั้น เขาทราบดีว่า เขาไม่น่าจะได้ยืนเป็นมือหนึ่งแน่ๆ เขาจึงเลือกเก็บข้าวของย้ายไปที่อู่ข้าวอู่น้ำเก่ากับเซลติก ตลอดฤดูกาล 2019/20 แล้วเพิ่งได้กลับมาสู่ทีมช่วง Project Restart แต่ก็ไม่ได้อยู่ในขุนพลตัวจริงและทัพสำรอง
ก่อนที่จะได้กลับมาเป็นมือสอง เมื่อราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล ตัดสินใจปล่อยแองกัส กันน์ ออกจากทีม ทำให้ที่ว่างในตำแหน่งมือสองกลายเป็นของฟอร์สเตอร์
อันที่จริง ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2020/21 เซลติก มีความประสงค์อยากจะยืมตัวฟอร์สเตอร์กลับมาร่วมทีมอีกรอบ แต่ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล และฟอร์สเตอร์ คิดเห็นตรงกันว่าอยากจะอยู่ที่เซาธ์ไซด์ เพื่อสู้สักตั้ง
สุดท้าย ฟอร์มเตอร์ได้รับการลงสนามในเกมแรกในรอบหลายปีในสีเสื้อของเซาธ์แฮมป์ตัน เนื่องจากอเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ มือหนึ่งของทีม มีผลตรวจเป็นบวก และได้รับการระบุว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ฟอร์สเตอร์ เอาอยู่ในการเผชิญหน้ากับแชมเปี้ยน
แน่นอนว่า เกมกับลิเวอร์พูล เป็นเกมใหญ่เกมแรกของฟอร์สเตอร์ที่ห่างหายไปจากการเฝ้าเสาทั้งฐานะนักเตะของเซาธ์แฮมป์ตัน ไปจนถึงถึงการเฝ้าเสาในฐานะผู้รักษาประตูคนหนึ่ง แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมมีความมั่นใจว่า ฟอร์สเตอร์ หนึ่งในผู้รักษาประตูที่มีฝีมือคนนี้ เอาอยู่ สามารถรับมือกับเกมรุกอันสุดแสนหฤโหดของลิเวอร์พูลได้
ทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น ฟอร์สเตอร์ ทำได้ดีในการเผชิญหน้ากับแชมเปี้ยน เหมือนที่บอกไปแม้ว่าจะไม่ได้ลงสนามมานานกว่า 10 เดือนก็ตามที
“ในอดีตผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับเซาธ์แฮมป์ตัน ผมอยากที่จะกลับมาลงเล่นเสมอ” ฟอร์สเตอร์ กล่าวหลังจบเกมชนะลิเวอร์พูล “เห็นได้ชัดว่า ทีมของเราทำได้ดี และอัล (อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์) ก็ทำผลงานได้ดี ผมพร้อมจะช่วยทีมเท่าที่ผมจะช่วยได้”
ส่วนเรื่องความประหม่าที่ไม่ได้สัมผัสกับฟุตบอลระดับสูงมานาน ฟอร์สเตอร์ ยอมรับว่า มีกังวลบ้างเล็กน้อย แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทาง
ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง หลังการลงสนามครั้งแรกในรอบหลายเดือนของฟอร์สเตอร์ นั่นคือ เขากลายเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดีขึ้น โอเค แม้ว่าความแม่นอาจจะยังไม่แม่นมาก เมื่อต้องเตะในระยะไกลๆ แต่ระยะใกล้ๆ เขาทำได้ดี ช่วยทำให้การเปิดเกมของทีมลื่นไหลขึ้น ซึ่งก็คงไม่ต้องบอกว่า มาจากการฝึกซ้อมของฮาเซนฮึทเทิลอย่างแน่นอน ที่เรียกร้องและต้องการให้นักเตะในทีมทุกคนสามารถเซ็ตบอลด้วยเท้าได้ ซึ่งหากเราย้อนหลังไปในช่วงที่ฟอร์สเตอร์มีฟอร์มที่สุดยอด เขาก็ไม่ได้เป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้โดดเด่นนัก
(สารภาพว่า ผมจับจ้องไปที่ฟอร์สเตอร์ทุกจังหวะเมื่อต้องใช้เท้าเล่นบอล)
สกัดได้ทั้งโม ซาลาห์ และลูกยิงของมาเน
ขณะที่การหยุดการทำประตูของแชมเปี้ยนด้วยเท้า และด้วยมือของฟอร์สเตอร์ ยังคงทำผลงานได้ดีและไว้วางใจได้
อย่างไรก็ตาม ในเกมที่เซาธ์แฮมป์ตัน แพ้ให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลาตี 3 เราจะได้เห็นว่า ฟอร์สเตอร์ ต้องกลับไปนั่งที่ม้านั่งสำรองอีกครั้ง เนื่องจากอเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ กลับมาลงสนามได้แล้ว หลังสลัดอาการผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกได้เรียบร้อยแล้ว
แต่ด้วยโปรแกรมการแข่งขันที่ค่อนข้างถี่ ชุก รวมถึงยังมีเกมเอฟเอ คัพ ด้วย ไม่แน่ว่า ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล อาจถือโอกาสนี้ ให้ฟอร์สเตอร์ ลงเฝ้าเสาเพิ่มเติมในฟุตบอลถ้วย เพื่อเรียกฟื้นคืนความมั่นใจ เผื่อในกรณีที่ฟอร์สเตอร์จะต้องลงสนามเป็นแบ็กอัปให้กับแม็คคาร์ธีย์อีกในวันข้างหน้า
โฆษณา