สรุปเนื้อหาใจความสำคัญของหนังสือ
"ปลูกพืชอินทรีย์ไม่ดีอย่างที่คิด ปลูกพืชปลอดสารพิษดีกว่าไหม"
เล่าให้ฟังก่อนว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เพิ่งเขียนออกมา แต่หนังสือเล่มนี้คนเขียนคือ ศาสตราจารย์เกรียรติคุณ ดร.อำนาจ สุวรรณฤทธิ์ จากภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2557 ก็ 6-7 ปีแล้ว และจำได้ว่าตอนหนังสือออกมาอาจารย์ก็โดนด่าเละจากพวกทำเกษตรอินทรีย์ 555+
**คำเตือนเนื้อหาโพสนี้อาจกระทบกระเทือนจิตใจพวกโลกสวย แต่ก็เรื่องของมึงกูไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว
สรุปเนื้อหาตามหัวข้อทั้งหมด 8 ข้อเปรียบเทียบกันระหว่างการปลูกพืชอินทรีย์กับการปลูกพืชแบบใช้เคมีร่วมด้วย
1.ปริมาณผลผลิตพืชที่ได้เมื่อใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีเท่ากัน
ในแปลงเดียวกัน ปุ๋ยอินทรีย์ จะให้ปริมาณผลผลิตน้อยกว่าปุ๋ยเคมีในอัตราการใช้ปริมาณเท่ากัน 8-70 ในอัตรา 1 ต่อ 1 เช่น
ถ้าใส่ปุ๋ยเคมี 1 กิโลกรัม ต้องใส่ ขี้ค้างคาว 8 กิโลกรัม ถึงจะเท่ากับปุ๋ยเคมี 1 กิโลกรัม หรือ ต้องใส่ขี้ไก่ 12 กิโลกรัม ถึงจะเท่ากับปุ๋ยเคมี 1 กิโลกรัม เป็นต้น
2.ราคาต้นทุนผลผลิตพืชจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มีต้นทุนแพงกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี
จากข้อ 1 คือคำตอบว่าทำไมถึงแพงกว่าถ้าเรียนคณิตศาสตร์มา อันนี้หนังสือไม่ได้เขียนควายดำเขียนเอง
3.ผลของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีต่อการทำลายของโรคและแมลง
มีงานวิจัยพบกว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ส่วนใหญ่ทำให้พืชถูกโรคและแมลงเข้าทำลายมากขึ้น สาเหตุสรุปง่ายๆคือ ปุ๋ยอินทรีย์มีธาตุไนโตรเจน สูงกว่าธาตุ ฟอสฟอรัสและโพรแตสเซียม เพราะไนโตรเจนสูงจะทำให้พืชอ่อนแอต่อโรคและแมลงได้ง่ายนั่นเอง
4.ผลของปุ๋ยประเภทต่างๆต่อคุณภาพด้านโภชนาการของพืช
ข้อนี้ยังไม่มีงานวิจัยชี้ชัดว่าปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีให้ผลผลิตพืชที่มีคุณภาพด้านโภชนาการสูงหรือต่ำกว่ากัน แต่มีผลวิจัยที่แสดงว่าพืชที่ปลูกโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์และเคมีร่วมกันจะมีคุณภาพด้านโภชนาการสูงกว่าใช้ปุ๋ยอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว
5.ปุ๋ยแต่ละประเภทส่งผลต่อคุณภาพด้านประสาทสัมผัสของพืช
เช่นในข้าวถ้าใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพียงอย่างเดียวจะส่งผลทำให้ความนุ่มและหอมต่ำลงในบางพันธุ์ เช่น ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และข้าวสุพรรณบุรี 1 เป็นต้น
ควรใช้ทั้งอินทรีย์และเคมีร่วมกันจะได้ข้าวที่หอมและนุ่มกว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพียงอย่างเดียว
6.ผลของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีต่อความโปร่งและแข็งของดิน
ทัั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีต่างทำให้ดินมีความโปร่งมากขึ้น มีความหนาแน่นรวมน้อยลง
ข้อนี้เป็นข้อที่ค่อนข้างแหกจากความเชื่อของคนที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์แล้วบอกว่าปุ๋ยเคมีทำให้ดินแข็ง ดินเสีย แต่มาอ่านดูแล้วคิดตามที่อาจารย์เขียนเลยเข้าใจ
คือพืชที่ใช้ปุ๋ยเคมีแล้วไม่ทำให้ดินเสียเป็นเพราะว่าพืชที่ได้ปุ๋ยเคมีจะมีรากและตอซังที่มากกว่าใส่ปุ๋ยอินทรีย์ แต่ต้องไม่เผาหรือเคลื่อนย้ายตอซังออกจากแปลงปลูกคือพอเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วก็ไถกลบไปเลย จะทำให้ได้อินทรีย์วัตถุมากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าในทางปฎิบัติจริงเกษตรกรจะทำได้ไหมนะ (ความเห็นส่วนตัว)
7.การเกิดมลพิษจากการใช้ปุ๋ยเคมีประเภทต่างๆ
การผลิตพืชอินทรีย์ที่ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้เกิดมลพิษมากกว่าการผลิตแบบเกษตรปลอดสารพิษที่มีการใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม เพราะทำให้มีการชำละล้างไนเตรทจากดินลงสู่แหล่งน้ำมากกว่า มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า มีความเข้มข้นของไนเตรทในพืชสูงกว่าและมีการปล่อยก๊าซมีเทนที่สูงกว่า
8.ปัญหาการคุ้มครองผู้บริโถค
จากข้อสรุปทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าการปลูกพืชอินทรีย์ มีผลผลิตต่ำ ต้นทุนสูง คุณค่าทางโภชนาการต่ำกว่า และส่งผลทางด้านมลพิษมากกว่า เมื่อเทียบกับการใช้แบบร่วมกันทั้งอินทรีย์และเคมี พืชอินทรีย์มีข้อดีคือปลอดภัยต่อการตกค้างของสารกำจัดศัตรูพืช ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ควรใช้ทั้งอินทรีย์และเคมีร่วมกันผลิต พืชปลอดภัย อย่างเหมาะสมจะเป็นสิ่งดีที่สุด
โอเคนะสรุปเนื้อหาประมาณนี้ ใครอยากอ่านเต็มๆก็กดไปอ่านได้ที่
ฝากดไลค์ กดแชร์ ให้พวกเกษตรโลกสวยอ่านกันเยอะนะ :)
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
