19 ม.ค. 2021 เวลา 02:00 • สิ่งแวดล้อม
ANIMAL: ชะตากรรม Tibetan Mastiff สุนัขเร่ร่อนนับแสนตัว กำลังสร้างปัญหาให้ทิเบต อันตรายต่อผู้คน และสัตว์ป่า ก่อนเคยเป็นพันธุ์ที่แพงที่สุด เพาะเยอะ ความนิยมลด ทิ้งมหาศาล
ตามนิทานพื้นบ้านของชาวทิเบต สุนัขพันธุ์ Tibetan Mastiff เป็นสุนัขที่เชื่อว่านำเมล็ดข้าวบาร์เลย์เมล็ดแรก ๆ มาที่ที่ราบสูงทิเบต มันเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ เป็นเพื่อนคู่คิดของมนุษย์ และด้วยความดุดันของมัน มันก็เป็นผู้เฝ้าบ้านและเฝ้าฟาร์มที่ดีสำหรับครอบครัวชาวทิเบต
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของมันเปลี่ยนไป จากหมาบ้าน หมาฟาร์ม ต้องกลายมาเป็นหมาข้างถนน และเร่ร่อนมากขึ้น
สุนัขพันธุ์ Tibetan Mastiff น้ำหนักประมาณ 55-90 กิโลกรัม เกือบเท่ากับน้ำหนักของผู้ชายวัยกลางคน มันมีขนสีดำไม่ก็น้ำตาลที่ยาวเหมือนเสื้อโค๊ตสำหรับไว้ให้ความอบอุ่น
ในอดีต มีแค่พระ และเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ที่มีทาสบริวารเท่านั้นที่สามารถเลี้ยงมันได้เนื่องจากราคาของตัวสุนัขและค่าฝึกที่ค่อนข้างสูง จน Tibetan Mastiff กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรวยไปชั่วขณะ
ช่วงปี 1990 Tibetan Mastiff เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศจีนมากขึ้น เพราะผู้คนในจีนเริ่มมีฐานะที่ดี เกิดเศรษฐีหน้าใหม่มากมาย สัญลักษณ์ความรวยตัวนี้จึงกลายเป็นสุนัขประจำบ้านของคนที่มีฐานะไปโดยปริยาย ในปี 2014 สุนัขพันธุ์นี้มีราคาสูงขึ้นถึง 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐในประเทศจีน มีการนำไปเพาะพันธุ์เยอะมากในมณฑล Qinghai และในเขตปกครองทิเบต
1
ด้วยความที่ชาวทิเบตค่อนข้างจะยากจน การเพาะพันธุ์สุนัขขายจึงเป็นที่นิยม มีฟาร์มสุนัข Tibetan Mastiff แค่ในทิเบตเองถึง 3,000 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ยิ่งผลิตมาก ตลาดก็ยิ่งรับไม่ไหว ตั้งแต่ปี 2013 Tibetan Mastiff เริ่มไม่เป็นที่นิยมเช่นเคย ภายในปี 2015 แหล่งเพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์นี้ในทิเบตปิดตัวลง 2,000 จากทั้งหมด เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนเริ่มอิ่มตัว ไม่ได้โตเร็วแบบในอดีต ผู้คนไม่ได้ร่ำรวยแบบเดิม และราคาสุนัขลดต่ำลง จาก 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเหลือแค่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ
1
ในขณะเดียวกัน สุนัขที่ไม่เชื่อง หรือไม่เป็นตามอย่างที่เจ้าของเคยคิดภาพไว้ก็ถูกทิ้ง เจ้าของฟาร์มที่เลี้ยง Tibetan Mastiff สำหรับให้ดูแลฝูงสัตว์ในฟาร์มของตนเองก็ทิ้งเจ้าสุนัขไว้เช่นกัน หลังจากที่เขาเริ่มละทิ้งการทำฟาร์มไปใช้ชีวิตในเมือง สุดท้าย ความนิยมที่น้อยลงบวกกับการที่เจ้าของทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวมากขึ้นทำให้ Tibetan Mastiff กลายมาเป็นหมาจรจัด ไม่มีที่อยู่อาศัย กระจายไปทั่วพื้นที่ และขยายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ ตอนนี้จำนวนสุนัขข้างถนนทวีคูณเยอะขึ้นไปเป็นพันเป็นหมื่นตัว
1
มากไปกว่านั้น ด้วยความที่ Tibetan Mastiffs ค่อนข้างเป็นสุนัขที่ดุเป็นพื้นฐาน มักจะมีข่าวที่สุนัขพันธุ์นี้เข้าไปทำร้ายคนหรือสัตว์ป่าอย่างเช่น แกะป่า เสือดาวหิมะ หมี และหมาป่าอยู่บ่อย ๆ เมื่อมันอยู่เป็นฝูง เสือดาวหิมะ หมี และสัตว์อื่น ๆ อาจจะต้องหนีพวกมันด้วยซ้ำ บางทีบรรดาสุนัขจรจัดเหล่านี้ไม่มีอะไรกินจนต้องไปก็เลยกินเป็ดไก่ของชาวบ้าน สร้างปัญหาให้ชาวบ้านทิเบตไม่น้อย
1
เพื่อเลี่ยงปัญหาดังกล่าว รัฐบาลร่วมมือกับวัดจับสุนัขเร่รอนให้ไปอยู่ในศูนย์พักพิง ซึ่งก็มีผู้คนมารับเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้จากศูนย์อยู่ ต่อมาในปี 2017 ศูนย์ก็เสนอให้มีการทำหมันสุนัขจรจัดเพื่อควบคุมจำนวนประชากรและการขยายพันธุ์ แผนดังกล่าวได้รับการสนับสนุนและอุดหนุนจากรัฐบาล แต่วัดก็ยังเรียกร้องให้คนในท้องถิ่นรับสุนัขจรจัดไปเลี้ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ
1
ทั้งนี้ เพราะความนิยมชมชอบของมนุษย์ที่มาเพียงชั่วครู่ชั่วคราวทำให้สุนัขพันธุ์นี้ถูกขยายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายพอความรู้สึกของคนที่มีต่อสุนัขเปลี่ยน พวกเขากลับไม่ได้สนใจ และทิ้งสุนัขให้อยู่อย่างเร่ร่อน ซึ่งการที่มันเร่ร่อนในครั้งนี้ก็เหมือนการวกกลับมาทำลายมนุษย์อีกที
1
โฆษณา