18 ม.ค. 2021 เวลา 15:45 • ครอบครัว & เด็ก
เมื่อลูกต้องการเเม่
เมื่อลูกต้องการแม่
ในยุคสมัยที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว​
เมื่อเงินคือสิ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตของคนเรา​ ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ได้เลยว่า​ เงินคือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญในการดำเนินชีวิตของแต่ละวัน
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป​ ความเจริญก้าวหน้า​ เทคโนโลยี​ และทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไป​ตามกาลเวลา​ เมื่อเงินคือปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิต​ ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินมาดำรงชีวิต
เมืองที่จะทำเงินได้ดี​ หาเงินได้ดีคือ​ เมืองที่ความเจริญ​ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แถบชนบทแน่นอน​ เป็นเมืองที่มีแต่ความเจริญ​ เช่น​ โรงงานอุตสาหกรรม​ เมืองที่มีคนทั่วทุกภาค​มารวมตัวอยู่ด้วยกัน​ เมืองที่มีแต่ตึกเเละเทคโนโลยี​​ ส่วนมากคที่มาเมืองลักษณะแบบนี้มักจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน​ นั้นคือ​มาหาเงิน
นี้คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วัยรุ่น​ วัยทำงาน​ ปัจจุบัน​ต้องเดินทางเข้าเมืองที่มีคามเจริญ​ เพื่อมาหาเงิน​ ที่จำเป็นต้องเลือกเพื่อความสบายและความอยู่รอดของครอบครัว​เลือกที่จะทำงานไกลจากบ้าน​
ความห่างไกล​ นำมาสู่​ ความคิดถึง​ การเฝ้ารอคอยของคนในครอบครัว
การรอคอยของเด็กชายตัวน้อย
เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งอาศัยอยู่ในตอนเหนือของประเทศ​ บ้านของเด็กชายอยู่ในท่างกลางธรรมชาติ​ บนภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าไม้
เด็กชายตัวน้อยอาศัยอยู่กับปู่เเละย่าของเขา​ ส่วนพ่อและแม่ของเด็กชายทำงานอยู่ในจังหวัดที่ห่างไกลออกไปมากกว่า 500​ กิโลเมตร
ทุกสิ้นเดือนแม่และพ่อของเด็กชายจะกลับมาหาเด็กชายเพื่อพาเด็กชายไปรักษาโรคประจำตัวที่โรงพยาบาลประจำแห่งหนึ่ง
เด็กชายตัวน้อยจะติดแม่มาก​ ผูกพันแม่มากกว่าพ่อของเขา​
วันหนึ่งที่แม่ของเขาต้องเดินทางกลับเพื่อมาทำงาน​ เด็กชายตัวน้อยไม่ยอมให้แม่กลับไปทำงาน​ และเด็กชายตัวน้อยอยากจะตามแม่ไป​แต่แม่ไม่สามารถเอาเด็กชายตัวน้อยไปอยู่ด้วยได้เพราะชีวิตการทำงานของแม่ต้องทำงานตลอดทั้งวัน​บกกับทำโอที​ ทำงานเป็นลูกจ้างประจำอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก
เมื่อวันที่แม่จะต้องกลับมาทำงาน
เด็กชายตัวน้อย​ : น้องจะไปโตยแม่​ (น้องจะไปกับแม่)
แม่​ : น้องไปบ่ได้มันไกล​ น้องอยู่ที่นี้กับปู่กับย่าก่อนเน้อ​ เดียวแม่จะมาหาน้องแหมเน้อ​ (หนูไปไม่ได้มันไกล​ หนูอยู่กับปู่กับย่าก่อนนะ​ เดียวแม่จะมาหาหนูใหม่)
เด็กชายตัวน้อย​ : บ่​ น้องจะไปตวย​ น้องจะไปตวยเเม่​ (ไม่​ หนูจะไปด้วย​ หนูจะไปกับเเม่)
ปู่ของเด็กชายตัวน้อยเห็นดังนั้นก็พยายามชวนเด็กชายตัวน้อยไปนู้นนี้นั้น​ แต่เด็กชายไม่ยอมไป
ปู่​ : ป่ะ​ ไปแอ่ววัดกันบ่​ (ไปเที่ยววัดกันไหม)
เด็กชายตัวน้อย​ : บ่​ น้องจะไปตวยเเม่​ (ไม่​ หนูจะไปกับเเม่)
ปู่​ : อั้นไปแอ่วโต้งกันบ่​ ไปผ่อแม๊คโคน​ ตักดินที่โต้งกันบ่​ (งั้นไปเที่ยวที่ทุ่งนากันไหม​ ไปดูแมคโครตักดินกันไหม)​
เด็กชายตัวน้อย​ : บ่​ บ่ไป​ อิปู่น้องจะไปกะแม่
(ไม่​ปู่​ หนูไม่ไปหนูจะไปกับแม่)​ เด็กชายตัวน้อยร้องไห้
ปู่​เห็นดังนั้นก็บอกแม่กับพ่อของเด็กชายไปเหี่ยจะอี้มันบ่ยอมละ​ เดียวจะไปขวายจะถึงมืดค่ำ​ (ปู่บอกให่พ่อกับแม่ของเด็กชายรีบไป​สายแล้วเพราะเด็กชายไม่ยอม​ เดียวจะถึงที่ทำงานมืดค่ำ)
พอพูดจบปู่จับแขนเด็กชายไว้ พ่อกับแม่ก็รีบขึ้นรถ​ สตาร์ชรถยนต์ขับออกจากบ้าน​เด็กชายเห็นดังนั้นดิ้นจะตามแม่ไป​ แต่ปู่ของเด็กชายจับไว้​
เด็กชายดิ้นคลุกกับพื้นดิน​
เด็กชาย​ : แม่​ น้องไปโตย​ อิแม่น้องขอไปโตย​แม่............... (แม่​ น้องไปด้วย​ แม่น้องขอไปด้วย)​ พร้อมกับร้องไห้จนสุดเสียง​ ดิ้นกับพื้น​ ปู่จับแขนของเด็กชายกอดเด็กชายไว้​ แต่เด็กชายก็ไม่ยอมหยุดดิ้น
แม่​ : แม่ของเด็กชายมองกระจกรถด้านข้างเห็นลูกชาย​ ก็ได้แต่ปาดน้ำตาและร้องไห้​ อดทนกับความเจ็บปวดที่ตนไม่สามารถอยู่กับลูกชายได้ในยามที่เด็กชายตัวน้อยต้องการแม่
ในความห่างกันทำให้ลูกชายต้องการแม่มากใรเวลานี้​ มีเพียงปู่กับย่าที่คอยดูแล​เป็นอย่างดี แต่เด็กน้อยก็ยังต้องการความรักความอบอุ่นจากคนที่เป็นแม่อยู่เสมอ
แม้การกลับมาของแม่จะเดือนละ​1​ ครั้ง​ ได้อยู่กับเด็กชายเพียงแค่ช่วงเวลา​ 3​ -​ 4​ วันแต่นั้นเวลาเพียงเท่านี้ก็ไม่สามารทำให้เด็กชายตัวน้อยนั้นมีความสุขตลอดไปได้​
เด็กชายตัวน้อยยังคงเฝ้ารอแม่ของเขากลับบ้านและเฝ้าถามผ่านโทรศัพท์ทุกครั้งที่แม่โทรไปหา
ว่า​ ปม่จะกลับมาบ้านเมื่อไร​ เมื่อไรที่แม่จะกลับมาหาหนู​ หนูอยากอยู่กับแม่
ในเวลาที่ลูกต้องการแม่คือช่วงเวลาที่เขายังเป็นเด็ก​ เมื่อเติบโตไปเขาต้องเป็นผู้ใหญ่ที่มีชีวิตที่เป็นของเขาเอง
เพียงเเต่เวลานี้แม่ต้องทำหน้าที่​ตัวเองซึ่งอาจจะไม่ดีที่สุด​ แต่เเม่ก็พยายามทำมันอย่างเต็มที่​ มอบความรัก​ ความอบอุ่นให้กับเด็กชายตัวน้อย​ ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันก็ตาม
ในบางชีวิตของคนเราไม่ได้อาจมีทางเลือกมากหนัก​ แต่สำหรับคนเป็นแม่ต้องทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด
ที่สุดของแม่​ ก็คือ​ ลูก
เพจ​ : แม่กับลูก
ฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ​ ขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านกันนะคะ​ 🙏🙏🙏
โฆษณา