กบฏผีบุญ...(เรื่องนี้ อ่านและสรุปมาจาก ตอนหนึ่งในหนังสือ "ขบถคนอีสาน" เขียนโดย : เพลิง ภูผา)
"กบฏผีบุญ" เป็นเรื่องราวของนายศิลา วงศ์สิน และ พวก นับร้อยชีวิต เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น 61 ปีมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า....
กลางดึกคืนหนึ่งต้นปี 2502 ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้นำไทยที่ใช้อำนาจเผด็จการทหารอย่างรุนแรงในการปราบปรามผู้ที่เป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง
ณ.บ้านใหม่ไทยเจริญ ต.สารภี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ได้มีคนกลุ่มหนึ่งประกอบด้วยชาย หญิง และเด็ก ประมาณ 100 คนอาศัยรถบรรทุกมาถึงที่หมู่บ้านนี้ โดยมีนายศิลา วงศ์สิน เป็นหัวหน้า
รุ่งเช้า ผู้ใหญ่บ้าน ได้มาสอบถามกับนายศิลา นายศิลาตอบว่า จะมาอาศัยที่หมู่บ้านนี้ เพราะ ได้ยินมาว่า รัฐได้แจกจ่ายที่ดินให้ประชาชนมาจับจองทำมาหากิน แม้ว่าผู้ใหญ่บ้านจะไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็ปล่อยให้นายศิลาและพวกตั้งบ้านเรือนอยู่ที่นี่
นายศิลา ใช้เงินจำนวนมากสร้างบ้านหลังใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด ชาวบ้านยินดี เพราะ นายศิลาได้จ้างงานชาวบ้านในราคาสูง ทั้งงานสร้างบ้าน และ งานอื่นๆ รวมทั้งจ้างชาวบ้านเป็นเวรยาม ถือปืนคุ้มกันรอบๆบ้านด้วย
ผู้ใหญ่บ้านรายงานพฤติกรรมของนายศิลา ไปยังอำเภอ เจ้าหน้าที่ก็ส่งคนมาสังเกตุดูบ้านนายศิลาเรื่อยๆ
นอกจากนี้ นายศิลายังมีความสามารถในการทรงเจ้า ไล่ผี รักษาโรคต่างๆด้วยสมุนไพร นายศิลาประกาศตัวเป็นผีบุญ อ้างว่าตนเป็นผู้มีบุญมาเกิด มาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นภัย มีชาวบ้านมาให้นายศิลารักษาโรคต่างๆเป็นจำนวนมาก อยู่ได้ไม่นาน นายศิลาก็ได้รับความเคารพนับถือจากชาวบ้านมากมาย ชื่อเสียงขจรขจายไปไกล ทำให้บ้านของนายศิลาเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งคนที่มาขอความช่วยเหลือ และ คนที่มาขออาศัยบารมี รับใช้งาน
จนถึงวันฉัตรมงคล 5 พค. 2502 นายศิลาก็จัดงานใหญ่ขึ้นที่บ้าน ประกาศตนว่าเป็นกษัตริย์ แต่งตั้งเมียเป็นราชินี เมียน้อยเป็นนางสนม และ คนใกล้ชิดทุกคน มียศตำแหน่งในวังทั้งสิ้น ประกาศอาณาเขตบ้านของตนเป็นอาณาจักร
ผู้ใหญ่บ้านทราบข่าวก็ได้รายงานไปยังอำเภอ นายอำเภอแรกๆเห็นว่าเป็นเรื่องเล่นกันขำๆ แต่ต่อมาเมื่อมีข้อมูลแจ้งเข้ามาเรื่อยๆจึงเอาเข้าที่ประชุม และ เห็นพ้องต้องกันว่า นายอำเภอควรจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
ปลายเดือน พค.2502 นายอำเภอโชคชัย นายเลิศ พุกกะรัตน์ ได้เดินทางไปหมู่บ้านใหม่ไทยเจริญ โดยมีเจ้าหน้าที่ติดตาม คือ รตอ.ประเสริฐ สุนทรเสรี ผู้บังคับกองตำรวจโชคชัย นายเทพ หาญณรงค์ ปลัดอำเภอ นายฉ่ำ สุขกระโทก ผู้ใหญ่บ้าน นายผ่อง เกณฑ์กระโทก ครูโรงเรียนประชาบาล และ นายหวล แก่นกระโทก ป่าไม้อำเภอโชคชัย และ ชาวบ้านอีกหลายคนติดตามไปด้วย
พอไปถึง ค่ายบ้านผีบุญ มีชายฉกรรจ์จำนวนมากพร้อมอาวุธมาต้อนรับ นายอำเภอบอกคนที่ไปด้วยให้ใจเย็น คุยกับชาวบ้านดีๆ ให้เป็นมิตร ตัวนายอำเภอ และ เจ้าหน้าที่บางส่วนขึ้นบ้านนายศิลา เพื่อไปสอบถามข้อเท็จจริง ให้นายเทพ ปลัดอำเภอและคนที่เหลืออยู่รอด้านล่าง
ระหว่างพูดคุย บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยชายฉกรรจ์ถืออาวุธ ทั้งมีดดาบ และ ปืน โดยเจ้าหน้าที่และนายอำเภอ ไม่มีใครพกอาวุธขึ้นไปด้วย เพียงไม่นาน นายศิลาก็ส่งเสียงดังและบอกนายอำเภอว่า "ไม่มีสิทธิ์เข้ามาสั่งการใดๆ ในเขตหมู่บ้านของตน ชาวบ้านเขารักฉัน ฉันเป็นใหญ่ที่นี่" นายอำเภอแย้งว่า "ที่นี่ประเทศไทย ทุกคนต้องเคารพทำตามกฏหมาย" กบฏผีบุญ ตะโกนขึ้นมาว่า..."กูนี่แหละ กฏหมาย" ว่าแล้วก็สั่งให้ลูกน้องว่า..."ฆ่าพวกมัน"
จากนั้น ก็ชุลมุนมีเสียงอาวุธปืน และ เสียงร้องโหยหวนของผู้ถูกทำร้าย พวกของนายอำเภออยู่ข้างล่างจะขึ้นไปช่วยก็ไม่ได้ โดนลูกน้องกบฏผีบุญเล่นงานอยู่ข้างล่าง ต้องต่อสู่กันจนบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน พวกผีบุญหนีเข้าป่าไปได้
ชาวบ้านที่รอดตาย กลับมารายงานที่อำเภอ พร้อมกับคาดการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ที่ไปกับนายอำเภอรวมทั้งนายอำเภอได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว ทางอำเภอโชคชัยได้รายงานไปที่จังหวัด จังหวัดรายงานไปถึงจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ ท่านจึงออกคำสั่งให้ไปจัดการกับกบฏอย่างรวดเร็ว
ทางด้านกบฏผีบุญ ก็ฮึกเหิมกันใหญ่ที่สามารถฆ่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ จินตนาการฝันไปถึงว่า จะตั้งเมืองอิสระขึ้นมา พวกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งก็สนับสนุน เพราะ อยู่รับใช้นายศิลาแล้วลืมตาอ้าปากได้ มีเงินใช้
หลังจากฝันหวานได้แค่คืนเดียว เช้าวันรุ่งขึ้น ตำรวจพร้อมอาวุธกว่า 200 นายก็มาถึงบ้านกบฏผีบุญ ประกาศให้ทุกคนในบ้านวางอาวุธ และ เดินแถวตอนเรียงหนึ่งออกมามอบตัว แต่ไม่มีใครออกมา ตำรวจจึงเคลื่อนตัวเข้าล้อมบ้าน ในบ้านผีบุญก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจก่อน จากนั้น จึงได้ยิงกันสนั่น จนตำรวจต้องนำอาวุธหนัก เช่น ปืนกล ออกมาใช้
กว่าจะปราบกบฏกลุ่มนี้ได้ ก็เป็นเวลา 5 โมงเย็น เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปในบ้านกบฏผีบุญได้ ทางฝ่ายกบฏตายไปหลายคน ตำรวจจับพวกผีบุญที่เหลือได้ทั้งหมดมีทั้ง ชาย หญิง และ เด็ก ได้ 38 คน และ เมื่อเคลียร์พื้นที่รอบหมู่บ้าน ก็จับเพิ่มได้อีก 40 คน ส่วนนายศิลา พาลูกเมีย และ ลูกน้องคนสนิทประมาณ 10 คน หนีไปได้
วันรุ่งขึ้น...นสพ.ลงข่าวครึกโครม วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าล่าช้า จนมีพวกผีบุญสร้างอิทธิพลขึ้นมา และ ฆ่าเจ้าหน้าที่ตายไปถึง 5 คน ข่าวนี้ทำให้ตำรวจต้องเร่งจับตัวตัวการและพวกที่หนีไปให้ได้
ตำรวจตามล่าอยู่ 20 วัน 20 มิย.02 ก็สามารถจับกุมตัวได้ ในป่าลึกเขตจังหวัดอุบลราชธานี ในขณะกำลังเตรียมตัวหนีไปลาว
หลังจากนั้น 2 วัน 22 มิย.2502 นายศิลา หัวหน้ากบฏผีบุญ ถูกพาตัวเข้ากทม. นำตัวมาสอบสวน เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ต้องการแบ่งแยกดินแดน ไม่ต้องการเป็นกษัตริย์ ส่วนข้อหาฆ่าเจ้าหน้าที่ 5 คนนั้น นายศิลาอ้างว่า เขาไม่ได้สั่ง แต่ชาวบ้านโกรธแค้นเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว เรื่องที่ดินทำกิน ชาวบ้านเลยฆ่า เขาพยายามห้ามปรามแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
เย็นวันนั้น เขาได้พบกับจอมพลสฤษดิ์ ท่านจอมพลให้เขาอมกระโถนให้ดูหน่อย ถ้าอมได้ จะยอมรับว่าเป็นผู้วิเศษจริง และ ท่านจะยอมเป็นลูกน้อง แต่นายศิลาทำไม่ได้ ได้แต่ยืนนิ่ง
จอมพลสฤษดิ์ถามว่า...มีอะไรจะพูดอีกมั้ย...แต่นายศิลาได้แต่นิ่งเงียบ
วันที่ 23 มิย.02 นายศิลาถูกส่งตัวกลับนครราชสีมา และ ในวันที่ 26 มิย.02 ก็มีประกาศรัฐมณตรี ให้ใช้มาตรา 17 ลงโทษในกรณีที่มีเหตุการณ์กระทบกระเทือนถึงความมั่นคงของประเทศ สามารถประหารชีวิตจำเลยได้ โดยไม่ต้องผ่านศาลยุติธรรม
เวลา 17.30 น.ของวันเดียวกัน นายศิลาก็ถูกนำตัวไปยังหลักประหาร ป่าช้าจีนของนครราชสีมา มาถึงผีบุญถึงกับอ่อนแรงจนเจ้าหน้าที่ต้องประคองเข้าหลักประหาร ปิดตา มัดมือมัดขา ชั่วอึดใจต่อมา กระสุนกว่า 20 นัดก็ถูกระดมยิงเข้าร่างของนายศิลาตายคาหลักประหาร จบชีวิตผู้คิดเป็นกบฏในสมัยเผด็จการทหารเข้มข้น
รูปแรก : จอมพลสฤษดิ์ ผู้เด็ดขาด
รูปสอง : นายศิลา วงศ์สิน หัวหน้ากบฏผีบุญ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
