19 ม.ค. 2021 เวลา 08:07 • บันเทิง
จุดเริ่มต้น จุดสูงสุด และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ "บริษัท ฮา ไม่จำกัด"
.
หากเปรียบรายการ “บริษัท ฮา ไม่จำกัด” เป็นสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่ง พวกเขาคงกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ เนื่องจากเหล่าผู้เล่นกำลังหลัก ที่ร่วมก่อร้างสร้างความสำเร็จ จนเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง ต่างโยกย้ายออกจากทีมเกือบยกชุด
การผลิตรายการ “ซิทคอมตลก” ให้เข้าไปในนั่งใจผู้ชมยุคใหม่ ถือเป็นโจทย์ยากเย็นแสนเข็ญสำหรับคนทำสื่อทีวี
เพราะคนไทยคุ้นชินกับความบันเทิงลักษณะนี้ผ่านหน้าจอโทรทัศน์มานาน แม้จะมีรายการตลกหน้าใหม่ ผุดขึ้นมาตลอด รวมถึงรายการตลกเก่าบางเจ้ายังคงยืดหยัดได้อยู่จริง ๆ เช่น ชิงร้อยชิงล้าน
แต่พฤติกรรมของผู้ชมยุคนี้ กลับไม่ได้รู้สึกโหยหาการดูคอนเทนต์ตลกเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน บางคนอาจรู้สึกเบื่อหน่ายกับความจำเจของมุกล็อก การเล่นไปตามสคริปท์ ไม่มีอะไรแปลกใหม่
บางรายการตลก เช่น ก่อนบ่ายคลายเครียด อาจเคยได้รับความนิยมในยุคหนึ่ง ทว่าพอเข้าสู่ยุคใหม่ กลับไม่สามารถปรับตัวให้ถูกใจตลาดคนดูสมัยนี้ ที่มีทางเลือกการรับชมหลากหลาย ทั้งทีวีดิจิตัล, แพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ได้มีทางเลือกน้อยเหมือนในอดีตที่ช่อง ฟรีทีวี มีอิทธิพลมากต่อความนิยม
ไหนจะต้องแข่งขันทางอ้อม ในแง่การดึงฐานผู้ชมคอนเทนต์ลักษณะนี้ จากเหล่าผู้ผลิตสายออนไลน์ เช่น TARYUT chaisoro , OHANA , Bie The Ska รวมถึงก่อนหน้านั้นอย่าง VRZO ที่สร้างช่องทางของตัวเองจนมีคนติดตามจำนวนมาก
ครั้งหนึ่ง “บริษัท ฮา ไม่จำกัด” ก็เคยเกือบไปไม่รอดเหมือนกันต้องหยุดออกอากาศชั่วคราว แต่พวกเขาก็ฝ่าฟันมาจนเข้าสู่ยุครุ่งเรืองในชื่อ “บริษัท ฮา ไม่จำกัด (มหาชน)
และในฤดูกาลใหม่ ปี 2021 ทีม ๆ นี้ กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ ในการพา “บริษัทฮาไม่จำกัดทั่วไทย” ให้กลับเข้าไปอยู่ในใจผู้ชมอีกครั้ง
.
………………………………..............................................
.
ซิทคอมตลกแห่งยุคอย่าง “บริษัท ฮา ไม่จำกัด” ออกอาการครั้งแรกในเดือนเมษายนปี 2015 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก ตั๊ก-บริบูรณ์ จันทร์เรือง และ บอล เชิญยิ้ม ร่วมกันเปิดบริษัท โจ๊กเกอร์ จำกัด (รู้จักกันในชื่อ โจ๊กเกอร์แฟมิลี) และมีไอเดียที่อยากผลิตรายการตลกทางทีวีขึ้นมา
1
โปรเจกต์นี้ถูกนำมาพูดคุยกับ “เอ-วราวุธ เจนธนากุล” ผู้บริหาร ZENSE Entertainment ที่มีความต้องการทำซิทคอมตลกเช่นกัน
ทุกอย่างมาจบลงกันคนละครึ่งทาง “Zense” ที่มีประสบการณ์ด้านการทำสื่อทีวี ตัดสินใจลงทุนให้ แต่อยากให้ปรับรายการ มาเป็นในรูปแบบที่พวกเขามองว่ามีโอกาสทำกำไร และประสบความสำเร็จง่ายกว่าโปรเจกต์ที่ฝั่ง ตั๊กกับบอลเสนอมา
1
ส่วน “โจ๊กเกอร์แฟมิลี” ไม่ต้องแบ่งรับความเสี่ยง การขาดทุนหลักหลายล้านบาท สามารถโฟกัสกับการแสดงได้เต็มที่ และมีอิสระในปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ลงไปอย่างเต็มที่
“บริษัท ฮา ไม่จำกัด” จึงก่อตั้งขึ้นมาโดยมี Zense เป็นเจ้าของทีมตั้งแต่แรก ส่วน เป๋า-อิทธิพล อำพา ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ เปรียบเสมือนเฮดโค้ชคอยกำหนดทิศทาง ขณะที่นักแสดงตลกทุกคน มีบทบาทเท่ากับ นักฟุตบอล ที่ต้องช่วยกันเล่นให้เข้าขารู้ใจ และทุ่มเทเพื่อทำให้ทีมประสบความสำเร็จ
ช่วง 2 ปีแรก “บริษัท ฮา ไม่จำกัด” ที่ออกอากาศทางช่อง 9 MCOT HD เรตติ้งไม่ดีนัก ถ้ามองในเชิงธุรกิจก็ถือว่าขาดทุน รายการยังไม่เป็นกระแส ไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก ถึงขั้นที่เคยเกือบถอดใจเลิกทำกันแล้ว
แต่ทาง Zense นายทุนและเจ้าของรายการยังสู้ต่อ ก็พยายามทำกันมา ลองผิดลองถูก จนมาเจอจุดเปลี่ยน นั่นคือ ค้นพบทีมนักแสดงและการเล่นที่ลงตัวถูกใจผู้ชม ประกอบด้วย กลุ่มนักแสดงหลักชุดเดิมอย่าง “บอล เชิญยิ้ม, ตั๊ก บริบูรณ์, ค่อม ชวนชื่น, แจ๊ส ชวนชื่น, เหน่ง เหม่งจ๋าย”
เสริมทัพด้วยนักแสดงรับเชิญประจำอย่าง “นุ้ย เชิญยิ้ม” ที่ต่อมากลายเป็น นักแสดงประจำ และสมาชิกคนสุดท้ายที่ทำให้ “บริษัท ฮา ไม่จำกัด” เป็นกระแสในโลกโซเชียลมีเดียก็คือ “โรเบิร์ต สายควัน” หรือ โรเบิร์ต ดอกมะดัน อดีตดาวตลกที่หายจากวงการไปหลายปี
โรเบิร์ต เริ่มต้นที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ บริษัท ฮา ไม่จำกัด จากการเป็นตัวประกอบฉาก แต่ด้วยความที่เขาเป็นตลกอัจฉริยะ ไหวพริบดี การเล่นมุกแพรวพราว สามารถชง ดิ้น ปู ตบได้อย่างครบเครื่อง จึงทำให้ โรเบิร์ต เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมยุคใหม่ กลายเป็นมาอีกหนึ่งกำลังสำคัญของรายการ ส่วน เป๊กกี้ ศรีธัญญา อดีตนักแสดงหลักชุดบุกเบิกก็ค่อย ๆ ลดบทบาท จนหายไปจากรายการ
นักแสดงหลักทั้ง 7 คน “บอล เชิญยิ้ม, ตั๊ก บริบูรณ์, ค่อม ชวนชื่น, แจ๊ส ชวนชื่น,นุ้ย เชิญยิ้ม, โรเบิร์ต สาวควัน และ เหน่ง เหม่งจ๋าย” จึงกลายเป็นภาพจำและสัญลักษณ์ของรายการ บริษัท ฮา ไม่จำกัด ไปโดยปริยาย
1
เพราะการแสดงของพวกเขาสามารถเรียกรอยยิ้ม และถูกจริตผู้ชมรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี มีการหยิบจับเหตุการณ์เรื่องราวปัจจุบันทันด่วน และกระแสบนโลกออนไลน์ มาทำการแสดงตลกอีกด้วย
1
เสน่ห์ของซิทคอม บริษัท ฮา ไม่จำกัด จึงไม่ได้อยู่ตรงที่ความเป๊ะของสคริปท์ การพยายามยัดเยียดมุก แต่มันสนุกตรงที่่การอำ แซว แกล้ง และขยี้มุกนอกบทของเหล่าดาวตลกกลุ่มนี้
ความจริงการแสดงของพวกเขามีโครงเรื่อง รู้ว่าต้นจนจบฉากต้องเล่นอะไรบ้าง ? บทของแต่ละคนเป็นอย่างไร ? แขกรับเชิญต้องทำอะไรบ้าง ? แต่เมื่อแอคชั่นเริ่มถ่ายทำ ทุกคนสามารถนำเอาสิ่งที่แกล้งเล่นกันหลังฉากคาเฟ มาเล่นกันออกอากาศจริง ๆ
กลายเป็นความสดใหม่ ดูสนุกสนาน เป็นธรรมชาติ และเข้ากับความต้องการของผู้ชมความบันเทิงตลกยุคนี้ ซึ่งเบื่อหน่ายการเล่นมุกเดิม ๆ ที่จับทางได้ ต่อให้เป็นมุกล็อกคาเฟ่ นักแสดง บ.ฮาฯ ก็สามารถดิ้นหรือฉีกมุก เรียกเสียงหัวเราะได้
2
คีย์สำคัญอยู่ตรงที่ สมาชิกทั้ง 7 คน มีความสนิทสนมกันมาก และรู้ทางตลกกันเป็นอย่างทุนเดิม จึงทำให้จังหวะการเล่นลื่นไหล
ยกตัวอย่าง ตั๊ก บริบูรณ์ จะจับคู่เล่นกับ นุ้ย เชิญยิ้ม ได้เข้าขากันดีเป็นอาจารย์-ลูกศิษย์, บอล เชิญยิ้ม กับการปูมุกเฉพาะหน้าให้ แจ๊ส ชวนชื่น ใช้ไหวพริบคอยดิ้นไป, ค่อม ชวนชื่น กับ โรเบิร์ต สายควัน ในมุขล้อรูปลักษณ์ภายนอก หรือ เหน่ง เหม่งจ๋าย คอยทำหน้าที่ตัว tie-in สินค้า หรือเล่นมุกแป้ก มุกเหนือความคาดหมาย
แม้กระทั่งนักแสดงประกอบฉาก ที่เข้ามาสร้างสีสันเป็นระยะ ๆ อย่าง สาหร่าย บริษัทฮาฯ, เนี๊ยบ เทพารักษ์ ชายผู้เป็นโชเฟอร์ขับรถในชีวิตจริงของ ตั๊ก บริบูรณ์ ก็ล้วนเติมเต็มทำให้ รายการมีความสดใหม่ ดูสนุก ไม่จำเจ
หลังผ่านสองปีที่ยากลำบาก “บริษัท ฮา ไม่จำกัด” เริ่มมีตัวตน ค่อย ๆ สร้างฐานแฟนคลับมาจากคลิปรายการย้อนหลังที่คนติดตามทางโซเชียลมีเดีย แต่เรตติ้งทางทีวีก็ยังไม่ได้สูงตามไปด้วย ถึงขนาดที่ช่วงหนึ่ง รายการต้องขึ้นข้อความท้ายคลิปประมาณว่า “ถ้าไม่อยากให้จอดับ ช่วยติดตามรายการตอนออนแอร์ด้วย”
ในเดือนกรกฎาคม 2017 บริษัท ฮา ไม่จำกัด ถึงคราวต้องปิดตัวลงชั่วคราว เนื่องจากช่อง 9 ขอคืนเวลาออกอากาศ
1
จากคำบอกเล่าของ นุ้ย เชิญยิ้ม ในตอนนั้น ตั๊ก บริบูรณ์ มีความตั้งใจจะขอลาออก เพราะอยากอยากเต็มที่กับงานของบริษัทตนเองที่ต้องดูแล รวมถึงทำรายการใหม่ แต่นักแสดงทุกคนยังสนุกที่ได้เล่นร่วมกันอยู่ จึงพยายามโน้มน้าวรั้ง ตั๊ก เอาไว้
ส่วน Zense ก็พยายามดิ้นรนหาทางออก เพราะไม่อยากให้รายการที่คนดูกำลังให้ความนิยมชมชอบต้องหายไป จนมาลงตัวกับช่อง ONE 31 โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ฮา ไม่จำกัด (มหาชน) และสามารถออนแอร์เทปแรก ได้หลังจากแยกทางกับช่องเก่า เพียง 6 สัปดาห์
3
บริษัท ฮา ไม่จำกัด (มหาชน) ก้าวเข้าสู่จุดพีคในช่วงปี 2017-2019 ส่งผลให้นักแสดงทุกคนมีงานจ้างอื่น ๆ เข้ามา ทั้งการเล่นคอนเสิร์ต โดย แจ๊ส ชวนชื่น และ นุ้ย เชิญยิ้ม ที่มีวงดนตรีของตัวเอง (SPKK กับ โจ๊กเกอร์แบนด์) ส่วน บอล-ค่อม-ตั๊ก-เหน่ง ออนทัวร์ในชื่อ “คอนเสิร์ตบริษัทฮา” (ภายหลังเปลี่ยนชื่อในการรับงานโชว์เป็น โจ๊กเกอร์แฟมิลี แทน)
รวมถึงแตกไลน์ต่อยอดมาทำรายการ “อะจ๊าก” ทางช่อง GMM25 (ปัจจุบันยุติออกอากาศแล้ว) และรายการขบวนการโจ๊กเกอร์ ช่อง Workpoint TV
กระทั่งเดือนกันยายน 2020 โรเบิร์ต สายควัน ได้เสียชีวิตลง ทำให้มีการประชุมกันของทีมงาน ซึ่งตามข้อมูลที่ นุ้ย เชิญยิ้ม ออกมาแถลง ตอนนั้น ตั๊ก บริบูรณ์ ยืนยันว่าต้องการขอลาออก เพราะต้องกาไปลุยรายการของบริษัทตนเองเต็มตัว โดยมีการถ่ายทำจนถึงเดือน ธันวาคม 2020 ก่อนแยกทางกันไป
นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของรายการตลกขวัญใจคนดูยุคนี้อย่าง บริษัท ฮา ไม่จำกัด (มหาชน) เพราะนักแสดงหลักชุดเก่า เหลือเพียง นุ้ย เชิญยิ้ม คนเดียวที่อยากอยู่ต่อ เนื่องจากมีความสุขดีกับการทำงานร่วมกับ Zense
ขณะเดียวกัน นุ้ย เชิญยิ้ม ก็ยังคงทำงานร่วมกับฝั่ง “โจ๊กเกอร์แฟมิลี” ในการเป็นหนึ่งในพิธีกรรายการ ขบวนการโจ๊กเกอร์ ร่วมกับก๊วนตลกจาก บ.ฮา ไม่จำกัด ชุดเก่า
แน่นอนว่าการลาออกของนักแสดงเก่าแทบยกชุด ย่อมส่งผลกระทบต่อเรตติ้ง เนื่องจากผู้ชมติดภาพจำ 7 นักแสดงหลัก ซึ่งทาง Zense ได้ออกแถลงการณ์ว่า ไม่เคยมีนโยบายเอาคนออก มีแต่อยากหาคนเพิ่ม เพื่อทำให้รายการสนุกยิ่งขึ้น แต่ก็ทำได้แค่เพียงเคารพการตัดสินใจของอดีตสมาชิก และจำเป็นต้องเดินหน้าทำรายการต่อไป
Zense ต้องหานักแสดงเข้ามาเล่นใหม่แบบทั้งยกทีม แบบค่อนข้างฉับพลัน โดยได้ จาตุรงค์ โพธาราม, ชูษี เชิญยิ้ม, เจี๊ยบ เชิญยิ้ม มาผนึกกำลังกับ นุ้ย เชิญยิ้ม พร้อมทั้งเปลี่ยนธีมใหม่ จากเดิมที่เน้นใช้ฉากร้านค้า โชว์รูมต่าง ๆ ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นฉากสถานที่ท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วไทย และดึงดาราวัยรุ่นหลายคน อาทิ บี้, ตูมตาม, โดม เดอะสตาร์ ฯลฯ มาร่วมแสดง
ในฐานะแฟนคลับของ บริษัท ฮา ไม่จำกัด คนหนึ่ง เราเองก็ไม่ได้อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะนักแสดงทั้ง 7 คนชุดเก่า ถือว่าเล่นกันได้ลงตัวดี กลายเป็นภาพจำของแบรนด์ไปแล้ว แต่ในมุมหนึ่งก็เข้าใจทั้งฝั่งของ โจ๊กเกอร์แฟมิลี่ ที่ต้องการขยับขยายด้านการทำงาน อยากออกไปสร้างสิ่งใหม่ ในวิถีทางตนเอง
รวมถึงเข้าใจฝั่ง Zense ที่ต้องแก้ไขปัญหา เพื่อนำพารายการเดินหน้าต่อไปให้ได้ เพราะการแยกทางกันนี้ ย่อมต้องสูญเสียฐานผู้ชมไปไม่น้อย
หากดูเส้นทางตั้งจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่า “นักแสดงตลกชุดเก่า” คือผู้ที่ทำให้รายการนี้แจ้งเกิดและประสบความสำเร็จ แต่เครดิตอีกส่วนหนึ่ง ก็ต้องให้ความดีความชอบกับ Zense เพราะพวกเขาก็มีส่วนเช่นกัน ในการร่วมสร้างซิทคอม บริษัทฮา ฯ ขึ้นมาตั้งแต่วันแรก
2
อีกทั้งยังเป็นผู้เบื้องหลังที่ทำให้รายการนี้ไม่ล้มหายตายจาก ในวันที่ขาดทุน เรตติ้งไม่ดี ก็ไม่ได้ทอดทิ้งไป ยังสู้ต่อกับทีมนักแสดง จนสุดท้ายก็ร่วมกันสร้างพา บริษัท ฮา ไม่จำกัด ขึ้นไปอยู่ในจุดที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
1
ส่วนจะมีเหตุผลอื่นๆ นอกเหนือจากนี้หรือเปล่าที่ทำให้ต้องแยกทางกัน อันนี้เราขอไม่เขียนถึง เพราะไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่สัญญาณที่พอจะคาดเดาได้ว่า นี่ไม่ใช่การจากกันชนิดไม่เผาผี ก็คงเป็นเพราะตัวนักแสดงใหม่อย่าง จาตุรงค์, เจี๊ยบ, ชูษี รวมถึงไป แจง ภรรยาแจ๊ส ชวนชื่น ทั้งหมดมีความใกล้ชิดกับนักแสดงชุดเก่า
1
หากสมมติเป็นการผิดใจกันอย่างรุนแรง มองหน้ากันไม่ติด มันก็คงเป็นเรื่องยากที่ ดาวตลกที่สนิทสนมชิดเชื้อจะมารับช่วงต่อ หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวของอดีตสมาชิกอย่าง แจง จะมาปรากฏตัวใน บริษัทฮาไม่จำกัดทั่วไทย ได้อย่างไร ? ถ้ามีความบาดหมางกัน
1
จากนี้ก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า บริษัทฮาไม่จำกัดทั่วไทย จะเดินเกมอย่างไรต่อไป ? เพราะการปั้นนักแสดงใหม่ เข้ามาสานต่อความนิยมจากทีมนักแสดงชุดเก่า ย่อมเป็นภารกิจที่ไม่ง่ายอยู่แล้ว กว่าจะเล่นเข้าขากัน กว่าจะหาจุดลงตัวเจอ ย่อมต้องใช้เวลา และความเข้าอกเข้าใจ
เปรียบได้กับทีมฟุตบอลที่ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ย้ายออกจนเกือบเกลี้ยงทีม ก็มีสองทางให้เจ้าของเลือกเดินคือ ยุบสโมสร หรือเดินหน้าต่อไป ถ้าเลือกอย่างหลัง ก็จำเป็นต้องเสริมทัพดึงนักเตะใหม่เข้ามา จากนี้นก็หาระบบการเล่นที่ลงตัว และวิธีการพาทีมกลับไปประสบความสำเร็จ
เราไม่เห็นด้วย หากความรักถูกแปรเปลี่ยนความเกลียดชัง โดยเฉพาะการเข้าไปด่าสาดเสียเทเสียใส่ นักแสดงชุดใหม่ หรือทีมงานที่ยังคงทำงานกันหนักยู่ เพื่อให้รายการที่คุณรักหรือเคยรัก ไม่ล่มสลายลงไป
1
อย่างน้อยถ้าคุณรักและชื่นชอบทีมนักแสดงชุดเดิม แต่ไม่อยากดูรายการนี้ ก็ยังมีทางเลือกในการติดตามพวกเขาได้ในรายการ “ขบวนการโจ๊กเกอร์” ทางช่องเวิร์กพอยท์ ทีวี ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ hate speech บั่นทอนกำลังใจคนทำงานเลย
1
เรารู้ดีว่าไม่มีใครชอบการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอในชีวิตคนเรา แค่นั้นเอง...
และสำหรับ บริษัท ฮา ไม่จำกัด นี่มันก็เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อวัดใจว่าพวกเขาจะก้าวผ่านไปได้หรือไม่
.
.
ติดตามบทความอื่นๆ ของ alongwrite ได้ทาง www.facebook.com/alongwriter
โฆษณา