Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TRAVEL Histopast
•
ติดตาม
19 ม.ค. 2021 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
Plague Doctor หมออีกาดำ
Plague doctors กลุ่มชายผู้สวมใส่ ชุดคลุมหนัง หมวกทรงสูง ถือไม้เท้า และหน้า
กากคล้ายอีกา คือภาพอันเป็นเอกลักษณ์ ของกลุ่มคนที่รู้จักกันในนาม “หมออีกาดำ” หรือ “หมอกาฬโรค” (Plague Doctor) หมอจำเป็นแห่งศตวรรษที่ 17-19 เราจะมา
เล่าถึงเรื่องราวขิงกลุ่มคนเหล่านี้
ในช่วงเวลานั้นประชากรยุโรปลดลงไปเป็นอย่างมากจากโรคร้าย
“The Black Death” กาฬโรค หรือ มรณะดำ เป็นโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
ชนิดไม่มีโรคใดเทียบติด มีสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “เยอร์ซิเนีย เปสติส”
(Yersinia pestis) โดยมีสัตว์ฟันแทะและหมัดเป็นพาหะนำโรค รวมถึงสามารถแพร่ในอากาศ ผ่านการสัมผัสโดยตรง หรือโดยอาหารหรือวัสดุที่ปนเปื้อน
“The Black Death”
ดังนั้นเมื่อไม่มีทางเลือกเมืองหลายๆ แห่งจริงจำเป็นต้องจ้างหมออีกาดำมาเพื่อดูแลเมือง และในช่วงเวลานี้เองที่เรื่องราวของหมออีกาดำก็เริ่มโด่งดังขึ้น
กลุ่มหมอเหล่านี้ประกอบจะไปด้วยแพทย์ระดับล่าง หมอที่ยังไร้ประสบการณ์ หรือ
แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้เรียนการแพทย์มาก่อนเลยด้วยซ้ำถ้าให้พวกเค้ามารักษาโอกาสเสียชีวิตอาจมีมากกว่าโอกาสที่จะรอดซะอีกแต่ถึงจะมีน้อยแต่ก็ต้องลองเสี่ยงดู
เดิมทีแล้วหมออีกาดำเป็นงานถูกออกแบบมาให้ทำงานในพื้นที่ที่มีตัวเลขของผู้ติด
เชื้อสูง และต้องอยู่กับผู้ที่ป่วยแทบจะตลอดเวลา ดังนั้นหมออีกาดำจึงมักจะทำงาน
ใน “เครื่องแบบ” อยู่เสมอๆ
การจะว่าจ้างพวกเค้านั้นก็ไม่มีอะไรมากแค่พวกคุณจ่ายเงินให้เค้าไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะหรือฐานะใดเค้าจะรับงานอย่างแน่นอน
โดยเครื่องแต่งกายหน้ากากจงอยปากปรากฏตัวครั้งแรกช้ากว่ายุคกลางประมาณ
สามศตวรรษหลังจากการตายดำครั้งแรกในทศวรรษ 1340 อาจมีแพทย์ไม่กี่คนใน
ศตวรรษที่ 17 และ 18 ที่สวมชุดดังกล่าวรวมถึงหน้ากากจะงอยปากที่เป็นสัญลักษณ์ โดย Charles de l’Orme หัวหน้าหน่วยแพทย์ของกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับการรักษาที่ไม่ได้ผลจริงๆ ชุดกันเชื้อโรคที่หมออีกาดำใส่ก็ใช่ว่าจะป้องกันโรคได้จริงๆ เรียกได้ว่าอาจกันได้ไม่หมดแต่ก็ดีกว่าไม่ใส่เลย
Charles de l’Orme หัวหน้าหน่วยแพทย์ของกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส
ทำไมหน้ากากของพวกเค้าถึงต้องเป็นจงอยปาก???
หนังสือของ Michel Tibayrenc เรื่อง Encyclopedia of Infectious Diseases
(John Wiley & Sons, 2007) การกล่าวถึงเครื่องแต่งกายของแพทย์โรคระบาดที่มี
ชื่อเสียงเป็นครั้งแรกพบในกลางศตวรรษที่ 17 ซึ่งเขียนโดย Charles de Lorme ซึ่ง
เป็นแพทย์หลวงในการให้บริการ ของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสามแห่งฝรั่งเศส
De Lorme เขียนระหว่างการระบาดของโรคระบาดในปี 1619 ในปารีสเขาได้มีการ
พัฒนาเครื่องแต่งกายที่ทำจากหนังแพะสไตล์โมร็อกโกทั้งหมดรวมถึงรองเท้าบูท
กางเกงขายาวเสื้อคลุมยาวหมวกและถุงมือ การสวมอุปกรณ์ป้องกันนี้แสดงให้เห็นว่าแพทย์มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการจับโรคระบาดจากผู้ป่วยโดยตรงมากกว่าจากอากาศ
Plague Doctor Mask ของแท้. ศตวรรษที่ 14 ของเยอรมนี
สิ่งนี้ยื่นออกไปเป็นจงอยปากยาวซึ่งยาวประมาณครึ่งฟุต (15 เซนติเมตร) และเต็มไปด้วยน้ำหอมหรือสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม จงอยปากเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเครื่องแต่งกายและคิดว่าจำเป็นสำหรับแพทย์ในการป้องกันการสูดดม "pestilential miasma" หรืออากาศที่มีเชื้อโรคเข้ามาโดยตรงจากผู้ป่วย
นั่นเพราะคนสมัยก่อนเชื่อกันว่าโรคภัยไข้เจ็บเดินทางผ่านกลิ่นเหม็น ที่ถูกใส่ไว้เพื่อดับกลิ่นเหม็นเท่านั้นไม่ได้มีไว้ป้องกันเชื้อโรคแต่อย่างใด
แล้วคุณรู้ไหมว่าเจ้าหน้ากากจงอยปากมันคือต้นแบบของหน้ากากอนามัยที่เรา
ทุกคนสวมใส่อยู่ในปัจจุบันเลยละ
การรักษาไม่ใช่หน้าที่หลักของพวกเค้า
สำหรับหมอหน้าที่การรักษาคนไข้คือหน้าที่หลักแต่สำหรับพวกเค้านั้นแตกต่างออกไปสิ่งที่ทำส่วนมากจะเป็นการช่วยในการชันสูตรพลิกศพเป็นครั้งคราวหรือเป็นพยานพินัยกรรมให้คนตาย
1
นั้นจึง ไม่น่าแปลกใจว่าแพทย์จะบางคนใช้ประโยชน์จากหาเงินจากคนไข้เพิ่มโดย
การรับทำพินัยกรรม บ่อยกว่าที่จะรักษาคนที่ป่วยโรคระบาดระบาดซะอีกแลพยิ่งใน
ช่วงนั้นหมอออีกาดำถือได้ว่ามีชื่อเสียงอย่าจึงมักจะมีการจับตัวพวกเค้าเพื่อเอาไป
เรียกค่าไถ่
เท่านั้นยังไม่พอเพราะด้วยความที่มาจากกลุ่มคนที่มีฐานะหลากหลาย บ่อยครั้งหมออีกาดำยังมักขโมยของจากศพที่ตายในระหว่างการรักษา หรือแอบขายยาในราคาเกินจริงให้กับคนมีฐานะ
1
หมออีกาดำจะมีการใช้ไม้เท้าเป็นสื่อกลางในการรักษาคนไข้ทำให้มักจะไม่ต้องสัม
ผัสคนไข้โดยตรงเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ได้รับการติดต่อเชื้อโรคจากตัวคนไข้ แต่
การที่ชุดของหมออีกาดำไม่ได้มิดชิดจริงๆ (เพราะยังไงก็ต้องเจาะรูหายใจ) ก็มากพอ
แล้วที่จะทำให้หมออีกาดำหลายๆ คนติดเชื้อที่ตัวเองจะต้องรักษาเสียเอง
วิธีการรักษาของพวกเค้ามักส่งผลเสียมากกว่าผลดี
เนื่องจากในหมอบางคนยังเป็นเพียงแค่นักเรียนแพทย์หรือบางทีอาจไม่ใช่แพทย์
เลยก็มี นั้นเลยทำให้วิธีการรักษาของพวกเค้ามักจะขาดความรู้และบางทีก็ใช้วิธีการ
รักษาที่ผิดแปลกไปจากความรู้ในตอนนั้นเป็นอย่างมาก การรักษามีตั้งแต่แปลกประหลาดไปจนถึงน่ากลัวอย่างแท้จริง
พวกเค้าเขาจะทำการปิดฟอง - ซีสต์ที่เต็มไปด้วยหนองขนาดเท่าไข่ที่คอรัก
แร้และขาหนีบในอุจจาระของมนุษย์ซึ่งอาจแพร่เชื้อต่อไป พวกเขายังหันมาใช้การ
ให้เลือดและการบีบฟองเพื่อระบายหนอง การปฏิบัติทั้งสองอย่างอาจเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากละที่หนักที่สุดสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการเทปรอทลงบนตัวผู้ป่วยและวางไว้
ในเตาอบ
ไม่น่าแปลกเลยที่การรักษาแบบนี้มักจะเร่งความตายและการแพร่กระจายของการติดเชื้อให้กับผู้ป่วยโดยการเปิดแผลไฟลวกและแผลพุพอง
โชคดีมากที่ในปัจจุบันหมออีกาดำไม่ได้เหลือบทบาทในทางการแพทย์อีกต่อไป
แล้ว ไม่อย่างนั้นเชื่อว่าคงมีคนไข้ไม่น้อยเลยที่หัวใจวายตาย เพียงแค่เห็นหน้ากาก
ที่น่ากลัวของอีกาดำและการรักษาอันสุดน่ากลัวของพวกเค้าเกล่านี้
แหล่งข้อมูล
https://www.livescience.com/plague-doctors.html
https://allthatsinteresting.com/plague-doctors
https://en.wikipedia.org/wiki/Plague_doctor
4 บันทึก
2
1
1
4
2
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย